เวลา 03.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ร.ต.ท.วุฒิพงศ์ หอมดี ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุหญิงถูกรถบรรทุกสิบล้อทับเสียชีวิต ที่บริเวณคอสะพานตาพร ใกล้ทางเข้าฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.กมลชนก ปาวงษ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 / 20 หมู่ 20 ต.บางหญ้าแพรกษา อ.พระประแดง สมุทรปราการ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนนในสภาพกะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจายเกลื่อนพื้น ตามร่างกายแขนและขามีร่องรอยถูกล้อทับจนเป็นแผลถลอกหลายแห่ง จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช ส่วนรถสิบล้อคันที่ก่อเหตุได้วิ่งไปจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เป็นรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นเก่า สีเทา ทะเบียน 81-1970 จังหวัดสระแก้ว ที่บรรทุกแป้งมันสำประหลังมาเต็มท้ายรถ จอดเปิดไฟผ่าหมากอยู่ริมถนน ส่วนที่ด้านหน้ารถสิบล้อคันดังกล่าวได้พบร่างของนาย บำรุง เอื้อมิตร อายุ 46 ปี โชว์เฟอร์สิบล้อคันดังกล่าว ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บใบหน้าและลำตัวมีบาดแผลหลายแห่ง นั่งกองอยู่กับพื้นถนน
จากการสอบสวนนายบำรุง โชว์เฟอร์สิบล้อได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ตนได้นำรถเข้าไปบรรทุกแป้งมันสัมปะหลังที่บริษัท สระแก้ว เจริญ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรทุกมาส่งที่บริษัท รวมไทยบรรจุภัณฑ์ ย่านถนนท้ายบ้านจังหวัดสมุทรปราการ ในขณะที่มาถึงที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามคลอง ในขณะตนได้ขับรถลงสะพาน ได้ยินเสียคล้ายล้อหลังเหยียบถูกอะไรสักอย่างเสียงดัง โบ๊ะ แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จึงได้ขับรถมาเลื่อย ๆ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนคันละ 2 คนจำนวน 3 คันไล่ติดตามมาพร้อมทั้งจอดรถขวางหน้าก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจะลากตนลงจากรถก่อนรุมทำร้าย โดยหาว่าตนขับรถทับเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวตายแล้วหลบหนี จนกระทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถผ่านมากลุ่มวันรุ่นจึงได้แยกย้ายกันหลบหนีไป
จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุได้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็นผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แบบวิบากคันเล็ก รุ่น KSR ไม่ทราบสี โดยที่นั่งซ้อนท้ายกันมา 3 คนรวมทั้งคนขับ พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นคอสะพาน ผู้ตายได้พลัดตกลงมาจากรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จนหมดสติอยู่กลางถนน โดยที่เพื่อนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ยังไม่รู้เรื่อง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ สิบล้อคันดังกล่าววิ่งตามหลังมา จึงได้ทับเข้าที่ศีรษะและลำตัวผู้ตายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ เพื่อนผู้ตายได้ขับจักรยานยนต์วนกลับมาดูเมื่อเห็นผู้ตายเสียชีวิตได้ขับขี่รถไล่ตามสิบล้อคันดังกล่าว ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายและหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ตายอาจจะตกลงมาจากรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นคันเล็ก ๆ ซึ่งปกติก็จะขับขี่ได้เพียงคนเดียว และพลัดตกลงมาสลบอยู่กลางถนน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่สิบล้อคันดังกล่าววิ่งตามหลังมามองไม่เห็นล้อหลังจึงได้ทับศีรษะและลำตัวผู้ตายจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป