เสียงสะท้อนจาก สายพิน ทองรอด เหยื่อฆาตกรรมโหด







           ลูก ใครใครก็รัก... คำพูดนี้คงเป็นสิ่งที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คำพูดนี้ได้ผ่านการพิสูจน์มานักต่อนักแล้ว เฉกเช่นเดียวกับกรณีของคุณตุ่ม-อรศรี ทองรอด ที่ลูกสาวของเธอ นางสาวสายพิน ทองรอด หรือคุณหญิง ถูกแฟนหนุ่มชาวต่างชาติฆ่าและทิ้งศพไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนตัวแฟนหนุ่มก็แขวนคอฆ่าตัวตายตามไป.. แม้ เวลาจะผ่านมา 5 ปีแล้ว มีการเผาศพ และฌาปนกิจไปเรียบร้อย แต่เหมือนดวงวิญญาณของ สายพิน ทองรอด จะยังไม่ไปไหน จนผู้เป็นแม่ได้มาบอกเล่าเรื่องราว และขอความช่วยเหลือในการตามหาวิญญาณ ผ่านรายการ คนอวดผี เมื่อคืนวันพุธที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา



           คุณตุ่ม เล่าว่า ครอบครัวของเธอมีสมาชิกในบ้านอยู่ประมาณ 6-7 คน โดยมีคุณหญิง ลูกสาวคนที่ถูกฆ่า รับหน้าที่เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว เธอทำงานในร้านบาร์เบียร์ย่านพัฒน์พงษ์ ซึ่งหลังจากที่คุณหญิงเสียชีวิตไป ขณะที่อายุเพียง 27 ปี ครอบครัวนี้ก็ลำบากมาตลอด และเมื่อบอกว่าจะมาออกรายการเพื่อให้ทางรายการช่วยเหลือ คุณตุ่มจึงนำดอกกุหลาบสีแดงไปไหว้บอกลูกสาว ปรากฏว่ารูปของคุณหญิงได้คว่ำลงมาอย่างเหลือเชื่อ

           คุณตุ่ม เล่าให้ฟังถึงอดีตก่อนหน้าที่ลูกสาวจะเสียชีวิตว่า ลูกสาวได้คบหาอยู่กับหนุ่มออสเตรเลียคนหนึ่ง นามว่า พอล และ เดินทางเข้าออกไทย-ออสเตรเลียมาโดยตลอด ทางคุณตุ่มเองมีโอกาสได้เจอคุณพอลเพียง 2 ครั้ง ซึ่งต้องบอกว่า คุณพอลเป็นคนเงียบและน่ากลัวมาก เคยก่อคดีจนถูกทางการไทยส่งตัวกลับไป เนื่องจากโบกแท็กซี่จะไปหาคุณหญิง แต่เเท็กซี่ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ประกอบกับอยู่ในอาการมึนเมา คุณพอลจึงใช้ขวดเบียร์ตีแท็กซี่จนได้รับบาดเจ็บ และต้องรับโทษที่คุกลาดยาว 10 วัน ก่อนถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ออสเตรเลีย

           นอกจากนั้น คุณพอลยังมีพฤติกรรมแปลก ๆ ทั้งกรีดแขนตัวเอง พยายามจะโดดลงมาจากตึกชั้น 9 และที่สำคัญ ระหว่างที่คุณพอลถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ออสเตรเลียนั้น คุณหญิงได้พบรักกับชาวฝรั่งเศส และได้ทำพิธีหมั้นหมาย เมื่อกำลังจะแต่งงานกัน คุณพอลรู้เข้า จึง ขู่ฆ่าคุณหญิง ด้านคุณตุ่มเองก็ไม่ไว้ใจคุณพอล กลัวว่าหากอยู่ด้วยกันแล้วจะฆ่าลูกสาวตาย จึงบอกให้ลูกสาวตีตัวออกห่าง แต่ฝ่ายลูกสาวบอกว่าไม่เป็นไร คุณตุ่มจึงปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน

           กระทั่งในวันเกิดเหตุ คุณตุ่มออกจากบ้านตั้งแต่เช้า และสั่งกับเด็กที่บ้านให้ดูแลกัน เพราะคุณตุ่มต้องไปดูคุณหญิง โดยขึ้นรถเมล์ไปที่โรงแรมและโทรหาเพื่อนคุณหญิง ซึ่งทางเพื่อนคุณหญิงบอกให้ไปที่โรงแรม แล้วจะตามไป เมื่อไปถึงโรงแรม คุณตุ่มจึงพยายามเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีคนมาเปิด คุณตุ่มจึงขอกุญแจแม่บ้านมาเปิดอีก ก็เปิดไม่ได้ จึงไปเอากุญแจอีกดอกหนึ่งมาเปิด ก็ติดโซ่คล้องประตู คุณตุ่มจึงใช้ความพยายามงัดเข้าไป

           เมื่อ เข้าไปปรากฏว่า คุณตุ่มไม่เห็นลูกสาว เห็นเพียงตู้เย็นเปิดอยู่ และมีรอยเลือดอยู่เต็มพื้น และผ้าม่านมีร่องรอยเหมือนกับคนต่อสู้กัน ตรงประตูทางออกก็เป็นคราบเลือด เหมือนลูกต้องการจะวิ่งไปเปิดประตูหนี ตอนที่จะฆ่าก็บีบคอจนรอบคอเป็นรอยช้ำ จากนั้นก็ใช้เท้าเหยียบอกจนช้ำและตับแตก แล้วจึงใช้ปากฉลามกรีดตั้งแต่ขาท่อนบนลงมาท่อนล่าง เป็นแผลหลายรอย หากจะเย็บก็เป็น 10 เข็มต่อแผล และที่สำคัญคือนายพอล ได้ควักลูกตาของลูกสาวตนออกมาทั้งสองข้างด้วย

           ทั้งนี้ ในตอนแรก คุณตุ่มยังไม่พบศพเเต่อย่างใด จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้เห็นลูกสาว ทันใดนั้น ร่างของคุณหญิงก็โผล่ออกมาจากใต้ผ้าห่ม พร้อมกับที่คุณตุ่มรู้สึกช็อกและสลบไป ซึ่งคุณตุ่มยอมรับว่า เธอเองก็ไม่ได้ให้อภัยต่อพฤติกรรมของฝรั่งคนดังกล่าว ถึงกับสาปแช่งที่มาทำกับลูกสาวเธอเช่นนี้

           นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อกันว่า วิญญาณที่เฮี้ยนของ สายพิณ ทองรอด นั้น เกิดจากขณะจิตสุดท้ายของผู้ตาย อยู่ในความทรมาน ทุรนทุราย โดย ในตอนแรก ๆ ที่เสียชีวิต คนทุกคนในบ้านล้วนแล้วเเต่เห็นเธอ หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ก็เห็นวิญญาณคุณหญิง หรือเพื่อนที่อยู่บนเกาะสมุย คุณหญิงก็ใช้เบอร์โทรศัพท์โทรไปบอก หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่ไม่ยอมไปเผาศพ วิญญาณคุณหญิงก็ไปดึงเอามา หรือในวันทำบุญ 100 วัน เด็กอายุ 2 ขวบ ก็เห็นวิญญาณของคุณหญิงที่นั่งอยู่ตรงโลงศพ พร้อมกับชี้ว่า "แม่ ๆ นั่นไง พี่หญิง"

           ความเฮี้ยนยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในโรงแรมที่คุณหญิงเสียชีวิต ก็มีคนพบเห็นวิญญาณของคุณหญิง เช่น เวลาขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 9 ซึ่งเป็นชั้นที่คุณหญิงเสียชีวิต ก็จะมีคนเห็นทั้งคุณหญิงและคุณพอลยืนในลิฟท์ หรือมีคนเห็นผู้หญิงเดินเข้าออกห้องตลอด และที่สำคัญ ครั้งหนึ่งเมื่อมีคนไปพักที่ห้องที่คุณหญิงเสียชีวิต ก็ได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิงตีกัน จนแขกต้องมาถามพนักงานในโรงแรมว่า มีคนเสียชีวิตในห้องนั้นหรือเปล่า ซึ่งเมื่อทราบเรื่อง แขกก็เช็กเอาท์ออกจากโรงแรมทันที

           ตั้งแต่ที่คุณหญิงเสียชีวิต คุณตุ่มก็ไม่เคยมีโอกาสได้ไปอัญเชิญดวงวิญญาณออกมาจากห้อง เพราะ ทางโรงแรมกลัวว่า หากทำอะไรเอิกเกริกไปแล้วแขกจะหนีหาย ไม่กล้าไปพักที่โรงแรม แต่สุดท้ายโรงแรมก็ปิดตัวลง คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากความเฮี้ยนของวิญญาณคุณหญิง และ ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณหญิงได้ไปสิงร่างของพี่สาวตัวเองที่ชื่อคุณพร จนทำให้คุณพรตัวเเข็ง เย็นเป็นน้ำเเข็ง เสียงเปลี่ยน และตาจะหลับตลอดเวลาที่คุย พร้อมกับร้องขอให้ช่วย และอยากคุยกับคุณตุ่ม เพราะห่วงลูก ห่วงแม่ ห่วงทุกคนในบ้าน



           จากนั้น ทางรายการจึงได้เชิญคุณริว จิตสัมผัส มาในรายการ เพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณมาคุยกัน โดยคุณริวได้จุดธูป 1 ดอก และทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณเข้ามา ทัน ใดนั้น พี่สาวที่คุณหญิงเคยสิงร่างคือ คุณพร ก็สะอื้นร้องไห้ออกมา จนทำให้คุณริวต้องทำพิธีเสี่ยงทาย เพื่อรู้ให้เเน่ว่าวิญญาณของคุณหญิง อยู่ในห้องอัดรายการหรือเปล่า พร้อมกับบอกว่า วิญญาณของคุณหญิงยังไม่ไปไหน ยังคงแวะเวียนอยู่ในสถานที่ที่ตายและที่บ้าน

           จากนั้น คุณริวจึงไปสัมภาษณ์คุณพร ซึ่งเชื่อกันว่า คุณหญิงเป็นคนมาสิงร่าง เมื่อเชิญมาให้นั่งตรงกลางรายการ คุณพรก็ตอบกลับมาว่า "หญิงไปไม่ได้ หญิงเดินไม่ได้ หญิงเจ็บขา" พร้อม กับร้องขอความช่วยเหลือว่าอยากกลับบ้าน และสาเหตุที่ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะว่าดวงวิญญาณยังคงมีความแค้น มีความอาฆาต แต่ทางโรงแรมยังไม่ให้เข้าไปเชิญดวงวิญญาณมา จึงยังกลับบ้านไม่ได้ และคุณหญิงยังบอกว่า คิดถึงลูก อยากกลับไปหาลูก



           เมื่อดีเจกฤษณ์ขอร้องให้คุณหญิง ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น คุณพรที่คุณหญิงสิงร่างอยู่นั้น ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนตัวสั่น และพูดออกมาว่า "หญิงไม่อยากตาย หญิงห่วงแม่ หญิงห่วงลูก ทำไมเค้าต้องทำกับหญิงอย่างนี้"

           คุณริวจึงบอกว่า ไฟแค้นมีอยู่เต็มตัวคุณหญิง จึงทำให้คุณหญิงไม่สามารถไปเกิดหรือไปใช้กรรมได้ ปัญหาทั้งหมด ทำให้ต้องพันธนาการคุณหญิงเอาไว้ในห้องแห่งนั้น และอีกสิ่งหนึ่งคือ ความแค้นและความห่วงทำให้ยังไปไหนไม่ได้ จากนั้น คุณริวจึงขอให้วิญญาณถอยออกไปก่อน หากไม่มีอะไรจะขอร้องอีก แล้วจึงอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อชโลมล้างสิ่งอัปมงคลออกไป



           เมื่อ เสร็จพิธีกรรมแล้ว ทางทีมงานและทางครอบครัวคุณหญิง ก็ร่วมกันหาทางออกให้กับเรื่องนี้ แม้ว่าโรงแรมจะถูกปิดไปแล้ว แต่การเข้าไปขอทำพิธีกรรมในโรงแรมนั้นก็ยังทำไม่ได้ เป็นไปได้ที่ทางเจ้าของโรงแรมอาจจะไม่อนุญาต แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่โรงแรมบอกว่า วิญญาณไม่ได้ถูกสะกดไว้ที่นั่น แต่ทางวิญญาณของคุณหญิงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม ทำให้คุณตุ่มออกมากล่าวว่า ทางญาติของคุณพอล ยังไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือทางครอบครัวของคุณหญิงเท่าที่ควร ก่อนที่จะออกจากโรงแรมทางญาติของคุณพอลได้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ติด โรงแรมประมาณ 80,000 บาท แต่เงินอยู่ในบัตรเครดิตประมาณ 200,000 บาท เมื่อหักลบกันแล้วเหลือประมาณ 110,000 บาท แล้วทางญาติคุณพอลจึงยกเงินก้อนนี้ให้กับคุณตุ่ม แต่เนื่องจากเห็นว่า เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอที่จะใช้จ่าย จึงอาจทำให้คุณหญิงยังคงเป็นห่วงอยู่

           สุด ท้าย คุณริวจึงฝากบอกไปว่า ขอให้เจ้าของพื้นที่หรือเจ้าของโรงแรม ช่วยเปิดทางให้ทางครอบครัวของคุณหญิง ได้มีโอกาสไปอัญเชิญดวงวิญญาณออกมา เพื่อให้อยู่กันได้อย่างสบายใจทั้งสองฝ่าย และฝากให้ครอบครัวคุณพอลช่วยเหลือครอบครัวของคุณหญิงอย่างที่ควรจะได้รับ ด้วย



 

คลิป คนอวดผี เสียงวิญญานที่ถูกฆ่า 1




 

คลิป คนอวดผี เสียงวิญญานที่ถูกฆ่า 2



คลิป คนอวดผี เสียงวิญญานที่ถูกฆ่า 3
 

Credit: kapook.com
11 พ.ค. 55 เวลา 01:48 2,969 4 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...