จับหนุ่มสุดอันตราย ลวงพริตตี้เคลมสวาท ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ เจ้าตัวปากแข็งขอสู้ชั้นศาล

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ชาตรี รุ่งดำรงค์ รอง สว.กก.ปพ.บก.ป. แถลงข่าวจับกุมนายสัมฤทธิ์ ทองศรีแก้ว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 807/91 ซอยศูนย์บันเทิงการค้า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 658/2555 ลงวันที่ 8 พ.ค.2555 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้อุบายหลอกลวง พยายามข่มขืนใจผู้อื่นไม่ให้กระทำการใด ๆโดยทำให้กลัวเสียชื่อเสียง พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง ฮาร์ทดิสเก็บข้อมูล 1 เครื่อง และกล้องวิดีโอ 1 ตัว จับกุมได้ที่ ห้องพักเลขที่ 507 วงศ์เจริญแมนชั่น ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายที่ประกอบอาชีพพริตตี้หลายรายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่า ถูกนายสัมฤทธิ์ ซึ่งอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่งที่ทำงานเป็นตัวแทนเรื่องการถ่ายแบบให้แก่นิตยสารเพ้นท์เฮ้าส์ ประเทศสิงคโปร์ หลอกให้มาทดลองถ่ายแบบและวิดีโอหน้ากล้อง โดยมีการติดต่อผ่านเครือข่ายโมเดลลิ่งอื่น ๆ ที่อยู่แวดวงเดียวกัน รวมทั้งบอกข้อมูลผ่านหน้าเฟสบุ๊กของตัวเอง เมื่อมีพริตตี้สาวหลงเชื่อติดต่อกลับไปก็จะนัดให้มาพบพร้อม ๆ กันเพื่อพูดจาหว่านล้อมสร้างความน่าเชื่อถือ โดยอ้างว่าในสัญญาประกอบด้วยการเป็นพริตตี้ไปขายไวน์ที่สิงค์โปร์ทุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี ได้ค่าแรงวันละ 20,000 บาท

นอกจากนี้ยังหลอกว่าหากตกลงทำงานนี้ก็จะต้องถ่ายภาพยนตร์แนวอีโรติค 3 เรื่องต่อปี ได้ค่าจ้างเรื่องละ 400,000 บาท หลังจากพูดคุยเรื่องงานและค่าตอนแทนเพื่อหลอกล่อให้เชื่อใจแล้วก็มีการชักชวนกันดื่มสุรา และทดสอบหน้ากล้องด้วยการถ่ายทำภาพยนตร์แนวอีโรติค โดยเรียกตัวพริตตี้แต่ละคนให้แยกเข้าไปอยู่ในห้องถ่ายทำกันสองต่อสอง ระหว่างนั้นนายสัมฤทธิ์ ก็จะทำการข่มขืนโดยถ่ายวิดีโอไว้ บางรายอาจถูกเรียกนัดหมายให้มาพบสองต่อสองและถ่ายวิดีโอเก็บไว้ เพื่อนำมาใช้ข่มขู่กลุ่มผู้เสียหายให้ทำตามที่ต้องการไม่เช่นนั้นจะนำภาพไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันมาแจ้งความ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใด ๆ บอกแต่เพียงว่าจะขอให้การชั้นศาล ส่วนกลุ่มผู้เสียหายนั้นเบื้องต้นมีการเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 10 คน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ามีหญิงสาวอีกหลายรายที่ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงมาทำมิดีมิร้ายจึงอยากขอความร่วมมือให้เข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ให้ถึงที่สุดต่อไป.