เราควรจะรู้ตัวว่าเมื่อไหร่ควรจะพอ และหยุดกิน ไม่ใช่กินเพื่อให้คุ้มตามข้อเสนอที่ทางร้านหยิบยื่น แต่เราต้องกินอย่างใส่ใจกับสุขภาพตระหนักถึงคุณประโยชน์
และโทษที่ได้รับด้วยเช่นกัน
1. กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อหมู ไก่ วัว ปลาหมึก ให้น้อยลง
โดยทานเนื้อปลา หรือผักแทนที่ เพราะเป็นอาหารที่ย่อยง่ายอีกทั้งปราศจากไขมันและไม่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
2. กินอาหารที่ต้มหรือลวก
โดยพยายามกินอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ทอด ให้น้อยที่สุด
3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมระหว่างทาน
เพราะว่าสองสิ่งนี้ให้พลังงานอาหารที่มาก และต้องใช้เวลานานในการเผาผลาญควรเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำชาแทนที่
4. สังเกตเนื้อสัตว์ก่อนหยิบมารับประทาน หรือปรุง
ว่ามีสภาพ รูป สี กลิ่น ต่างไปจากปกติหรือไม่
5. เมื่อเห็นว่ากระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้
แล้วควรเรียกพนักงานให้เปลี่ยนอันใหม่ให้ ไม่ควรเกรงใจทนกินต่อไปเพราะสิ่งที่สะสมอยู่บนกระทะนั้นนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งตัวฉกาจแล้วนั้นยังทำให้เนื้อไม่สุกทั่วถึงกัน เนื่องจากคราบไหม้จะปิดกั้นความร้อนทำให้เนื้อที่ได้ไม่สุกดี
6. อย่ารีบทานจนเกินไป
อาจฆ่าเวลาด้วยการเดินย่อย หรือคุยสังสรรค์กับเพื่อน เพื่อช่วยร่างกายในเรื่องการย่อยอาหาร
7. ออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานส่วนเกินจากมื้อนั้นๆ ด้วยวิธีเบาๆ
เช่น ค่อยๆ เดิน เพื่อกระตุ้นให้กระเพาะย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากกินอาหารแล้วนั้น อย่าเพิ่งล้มตัวลงนอนในทันที ควรจะนั่งพักสักครู่หรือทำกิจกรรมเบาๆ อื่นๆ ก่อน
8. รับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในร้านที่ไว้วางใจได้
ทั้งความสด สะอาดของอาหาร และความอนามัยของภาชนะ
อย่าลืมว่า..สิ่งที่คุณจะได้รับไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็จะส่งผลจากสิ่งที่คุณกินเข้าไปนั่นเอง