ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค. พ.อ.ไพศาล หนูสังฆ์ ผบ.กรมทหารพราน 46 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ กว่า100 นายเข้าโอบล้อมพื้นที่ปูพรมค้นในพื้นที่เป้าหมาย ที่บ้าน ยาลอ หมู่ 10 ต.จะแนะ อ.จะแนะ โดยได้กระจายกำลังค้นเน้นบ้านต้องสงสัย150จุดรวมทั้งบ้านพักที่ไม่มีเลขที่รวม 150 หลังคา โดยการปิดล้อมตรวจค้นพบเพียงผู้หญิงและเด็กอาศัยอยู่ในบ้านพักเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียดใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

 

จากการปิดล้อมตรวจค้นทั้ง 150 จุดเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางหลายรายการประกอบด้วยอาวุธปืนยาว 2 กระบอก,กระสุนปืน M16 อีก 1กล่อง, กระสุนปืน. 22 อีก 3 กล่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารยังคงกระจายกำลังกันปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมปิดล้อมเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มคนร้ายตามเขตรอยต่อ ระหว่าง อ.ระแงะ ,อ.รือเสาะและ อ.ศรีสาคร ,สุคิริน เพื่อปิดเส้นทางการหลบหนีทุกจุด หลังเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะรอยเลือดคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ และการแกะรอยรถจักรยานยนต์ที่ยึดได้

 

ส่วนอีกจุด ที่บริเวณ กองร้อยทหารพรานที่ 4602 กรมทหารพราน 46 มีนายอารีเพ็ง ดอเล๊าะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 บ้านบือแต หมู่ 8 ต.จะแนะ อ.จะแนะ พร้อมภรรยา เดินทางขอเข้ามอบตัวต่อ จ.ส.อ.นิรันดร์ บรรจงการ ผบ.ร้อย ทพ.4602 กรมทหารพราน 46 โดยมี พ.ต.สุรพงษ์ ธนภัทร หัวหน้าชุด ชป.ข่าวกรมทหารพราน 46 ร่วมรับมอบ

 

ทั้งนี้ นายอารีเพ็ง เป็นผู้ต้องสงสัยคดีลอบวางระเบิดและลอบยิง เจ้าหน้าที่หลายจุดในพื้นที่ อ.จะแนะ ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นนายอารีเพ็ง สามารถหลบหนีไปได้ทุกครั้ง ล่าสุด จ.ส.อ.นิรันดร์ บรรจงการ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่บ้านบือแต ได้เข้าเจรจาทางญาติของนายอารีเพ็ง เพื่อให้มามอบตัว ตามโครงการนำคนกลับบ้าน ของแม่ทัพภาคที่4 ทางภรรยาจึงได้พาเข้ามอบตัว โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากตนเองเหนื่อยที่ต้องหาเลี้ยงลูก2คนที่ยังเล็กอยู่เพียงคนเดียว ซึ่ง นายอารีเพ็งต้องคอยหลบหนี อยากให้มาอยู่เป็นครอบครัวไม่ต้องหลบหนีอีก ทางด้านนายอารีเพ็ง เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.จะแนะ แต่ยอมรับว่าตน ค้าน้ำมันเถื่อนเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เตรียมส่งตัวนายอารีเพ็งไปฝึกอบรมที่กองทัพภาคที่4ส่วนหน้าต่อไป