ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน แนะ มท.ลดค่าใช้จ่ายประชาชน
วันนี้ (28 เม.ย.)นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีประชาชนร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม กรณีการติดต่อหน่วยงานรัฐต้องถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการถ่ายสำเนาบัตรโดยไม่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันบัตรประจำตัวประชาชนที่ใช้อยู่มี 3 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 บัตรที่ไม่ได้ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ รูปแบบที่ 2 บัตรที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และรูปแบบที่ 3 บัตรที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ หรือสมาร์ทการ์ด โดยมีไมโครชิพฝังอยู่ด้านหน้าซึ่งรวมข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดไว้ด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นข้อมูลรหัสการผลิตและรหัสการกำกับบัตรเพื่อให้รู้แหล่งที่มาของบัตร ดังนั้นเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจึงควรให้มีการถ่ายสำเนาบัตรเฉพาะด้านที่มีตัวเลข 13 หลัก เนื่องจากบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์มีข้อมูลด้านหน้าครบถ้วนแล้ว
"เรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ผู้ตรวจการฯจึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กทม. และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหาข้อสรุปและแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยมีความเห็นสอดคล้องกันว่าปัจจุบันประชาชนใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ หรือสมาร์ทการ์เพิ่มมากขึ้น สำหรับกรณีที่หน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อใช้เป็นหลักฐานเบื้องต้นในการแสดงตนของบุคคลผู้เป็นเจ้าของบัตร หรือจะต้องขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตรเก็บไว้เป็นหลักฐาน ให้ขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเฉพาะด้านหน้าเพียงด้านเดียวเพราะข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญและครบถ้วนจะอยู่ด้านหน้าบัตรอยู่แล้ว เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ และที่สำคัญลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามหลักการการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวและว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงส่งหนังสือถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทยในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อวันที่ 25 เม.ย.55 เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในเรื่องนี้ แล้วแจ้งเวียนไปยังหน่วยงานของรัฐเพื่อถือปฏิบัติต่อไป รวมทั้งนำหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชนทราบต่อไปด้วย