ความร้อนระอุของอากาศปลายเดือนเมษายนที่อุณหภูมิพุ่งถึง 40 กว่าองศา ยังคงส่งผลกระทบไปทั่ว ทั้งคนเสียชีวิต ควายตายอนาถ ช้างคลั่งฆ่าเจ้าของ นกปากห่างตายเป็นเบือ และจู่ๆ ผนังผปูนก็ระเบิดดังสนั่น
ฝรั่งทนร้อนจัดไม่ไหวนอนตาย
ขอนแก่น- ร.ต.อ.ชินพันธ์ สังแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งว่า พบชาวต่างประเทศนอนตายไม่ทราบสาเหตุอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 149 หมู่ 2 บ้านหนองกุง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย รศ.อัมพร แจ่มสุวรรณ แพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ ไปถึงพบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ห้องนอน พบศพชาวต่างประเทศนอนหงายตายอยู่บนเตียงนอน ทราบชื่อว่า นายสตรอง บานี่ ดีน อายุ 69 ปี ชาวคาลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีสภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ไม่สวมกระดุมเสื้อ กางเกงขายาว เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง ในตัวผู้ตายพบพาสปอร์ต 1 เล่ม ธนบัตรประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวนหนึ่ง โดยในห้องพักไม่มีพัดลม เครื่องปรับอากาศ หน้าต่างห้องไม่มี สภาพในบ้านเกิดเหตุไม่มีสิ่งของมีค่า หรือเครื่องทำความเย็นแม้แต่เครื่องเดียว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานการตายของนายสตรองเบื้องต้นที่คาดว่าเป็นคนมีอายุมาก เกิดอาการอ่อนเพลียและร่างกายไม่สามารถทนสภาพอากาศใน จ.ขอนแก่นที่ร้อนอบอ้าวไม่ไหว จึงเกิดหัวใจวายฉับพลันนอนตายอยู่ในห้องนอนของบ้านเช่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้กับมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำศพมิสเสตอร์สตรองนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ควายยังตายอนาถ
ชุมพร-นายสุทธิพันธ์ สุวรรณบัณฑิต ส.อบต.หมู่ที่ 2 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งว่าในหมู่บ้านท่าสะท้อน มีควายของกลุ่มอนุรักษ์ควายไทย ในโครงการธนาคารโค–กระบือตามพระราชดำริ เกิดอาการดิ้นทุรนทุราย และกำลังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำหลังสวน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบอยู่บริเวณท่าน้ำ ริมแม่น้ำหลังสวน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.หลังสวน เป็นจุดให้บริการ “ล่องแพ แลควาย” พบว่า มีควายตัวหนึ่งกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ริมตลิ่งสูงประมาณ 3 เมตร แต่ควายตัวดังกล่าวไม่สามารถเดินได้ เนื่องจากขาทั้ง 4 ข้างอยู่ในสภาพไม่มีเรี่ยวแรง ชาวบ้านจึงช่วยกันใช้เชือกล่ามที่เขาและค่อยๆ ดึงเอาพยุงไว้ เพื่อไม่ให้ควายตกลงไปในน้ำ จนกระทั่งควายลงไปนอนที่พื้นริมแม่น้ำแต่ยังคงมีอาการดิ้นตลอดเวลา ส่วนที่ก้นมีก้อนเลือดขนาดใหญ่และมีเลือดไหลอยู่ตลอดเวลา ชาวบ้านพยายามนำน้ำมารดตามลำตัวและให้ควายกิน แต่ควายกินได้เพียงเล็กน้อยจนในที่สุดควายตัวดังกล่าวก็ขาดใจตาย ท่ามกลางความสะเทือนใจของชาวบ้าน
นายสุทธิพันธ์ กล่าวว่า ปกติควายตัวดังกล่าวจะอาศัยอยู่ใต้ต้นมังคุด ตกค่ำก็จะนำไปไว้ในคอก ในวันนี้ก็ถูกนำไปปล่อยไว้ใต้ต้นมังคุดตามปกติ ชาวบ้านที่รับหน้าที่ดูแลได้ไปทำธุระ และรู้สึกว่าอากาศใน อ.หลังสวนร้อนมากกว่าทุกวัน และสังเกตเห็นควายมีอาการกระสับกระส่าย แต่ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งช่วงเที่ยงก็ทรุดลงกับพื้น ชาวบ้านพยายามเข้าไปพยุงให้มันยืนขึ้นแต่มันไม่สามารถยืนได้ เพราะขาไม่มีแรง และน้ำหนักมากถึง 200 กิโลกรัม มันจึงส่งเสียงร้องและพยายามคลานไปยังแม่น้ำหลังสวน มีอาการผิดปกติภายในร่างกาย และเหมือนมีความร้อนในตัวสูงขึ้นจนกระเพาะปัสสาวะหลุดออกมาจากก้น คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากทนความร้อนไม่ไหว
สลด! ช้างรัดเจ้าของตาย ถูกยิงดับ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 เมษายน พ.ต.ท.พิเชษฐ นิลศิริ พนักงานสอบสวน(สบ.3) สภ.ทุ่งหว้า จ.สตูล รับแจ้งเหตุเข้าไปตรวจสอบพบศพนายฟอง ช่วยเกลี้ยง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38หมู่ที่6 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล เจ้าของช้างที่นำช้างพลายดังกล่าวไปรับจ้างชักลากไม้ยางพารา เสียชีวิตในสภาพไส้ทะลัก
ใกล้ๆจุดเกิดเหตุ พบช้างพลายเชือกดังกล่าวอายุราว 40 ปีนอนแน่นิ่ง เนื่องจากนายหลั้มหลี อรุณฤกษ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู๋ที่3 ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด.38 ยิงช้างพลายดังกล่าวจำนวน 2 นัดเข้าที่บริเวณด้านหลังจำนวน 1 นัดและหน้าผาก จำนวน 1 นัด ล้มขาดใจตาย
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายฟองนำช้างไปชักลากต้นยางพารานั้นแต่ชักลากติดขัด เจ้าของช้างทุบตีช้างจึงเกิดอาการโกรธโมโหหงุดหงิดเนื่องจากสภาพอากาศร้อน บวกกับช้างพลายตัวดังกล่าวเจ้าของเพิ่งซื้อมาได้ 2 วัน เจ้าของช้างไม่คุ้นชินและสนิท ช้างใช้งวงจับนายฟองเหวี่ยงและใช้งาแทง นายหลั้มหลีจึงชักอาวุธปืนยิงใส่
สามเณรวูบ
สมุทรปราการ-เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 เมษายน เจ้าหน้าที่กู้ชีพสำนักงานเทศบาลนครสมุทรปราการ รับแจ้งมีสามเณรที่บวชภาคฤดูร้อนจำนวน 9 รูป มีอาการป่วยและวูบจากอากาศร้อนจัด เหตุเกิดที่วัดแพรกษา หมู่ 6 ถ.พุทธรักษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบสามเณรมีอาการแน่นหน้าอก อาเจียน ปวดหัวและหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำร่างสามเณรทั้งหมดห้ามส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ
สามเณรรุ่งโรจน์ สายสิณ อายุ 13 ปี กล่าวว่า ตนเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดแพรกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยอาศัยช่วงวันหยุดปิดเทอมใหญ่ จึงได้เข้าร่วมบวชในโครงการสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดแพรกษาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก่อนที่ตนจะมีอาการป่วย เมื่อตอนช่วงวันเดียวกันสามเณรทั้งหมดได้ร่วมกันฉันข้าวต้มเป็นอาหารเช้า จากนั้นสามเณรทั้ง 149 รูปได้ขึ้นไปเรียนปฏิบัติธรรมบนศาลาการเปรียญ จนกระทั่งช่วงสายตนมีอาการแน่นหน้าอก ปวดท้องและคลื่นใส่อาเจียน โดยมีเพื่อนสามเณรองค์อื่นได้ป่วยเช่นกัน เจ้าอาวาสจึงแจ้งๆให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำรถมารับเพื่อส่งโรงพยาบาลทำการรักษาดังกล่าว
นายแพทย์ชูศักดิ์ เรืองจุติ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ กล่าวว่า แพทย์ได้ตรวจสภาพร่างกายพบว่าสามเณรแต่ละรูปมีอาการป่วยที่แตกต่างกันไป บางรูปมีอาการป่วยจากโรคกระเพาะอาหาร ฉี่ขัด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นหวัด แน่นหน้าอก และอื่นๆ อาการป่วยของสามเณรเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจมาจากการอยู่ร่วมกันเป็นจำนวมาก รวมทั้งช่วงนี้มีอากาศร้อนจัด จึงอาจทำให้สามเณรทั้งหมดมีอาการป่วยจากโรคดังกล่าว
นกปากห่างตายเป็นเบือ
อ่างทอง-จากการที่นกปากห่างที่อาศัยอยู่ในท้องที่หมู่1 ต. หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ. อ่างทอง จำนวนหลายหมี่นตัว ได้ทยอยตายทุกวันโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ชาวบ้านหวาดผวา เกรงไข้หวัดนก จะกลับมาอีกครั้ง เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 เมษายน นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมนายประสิทธิ์ พวงทอง ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ด่านกักกันสัตว์อยุธยาไปตรวจสอบในพื้นที่ เพื่อสาเหตุการตายของนกปากห่าง
นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้ทราบจากสื่อมวลชนที่เสนอข่าวการตายของนกปากห่างในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ว่าทยอยตายหลายร้อยตัว จึงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีการตายจริงตามที่เป็นข่าว จึงให้เก็บซากนกปากห่างที่ตายหลายร้อยตัวนำไปเผาทำลายและฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ บริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างจากสัตว์ปีกเพื่อนำไปตรวจอีกครั้ง ใน เบื้องต้นจากการตรวจซากนกที่ตายตัวยังไม่พบเชื้อไข้หวัดนก ส่วนสาเหตุ จากการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ในการตายของนกปากห่าง เนื่องจากนกขาดอาหาร ที่สำคัญนกทนสภาพอากาศร้อนจัดไม่ไหว ทำให้นกปากห่างทยอยตาย เพราะจากการตรวจซากนกไม่ได้ตายพร้อมๆ กัน
ร้านเสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดังร้อนจัดปูนระเบิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ร้านเฮ้ยเสื้อยืด ตั้งอยู่ถนนเณรแก้ว เขตเทศบาลเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น 6 ห้อง ซึ่งมีเสื้อผ้าวัยรุ่นและจะมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายเป็นจำนวนมากตลอดทั้งวันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวหลังปูนที่พื้นข้างห้องซึ่งเป็นห้องเก็บของจนกระเบื้องแตกร้าวเป็นทางยาวหลายเมตร เจ้าของร้านลูกค้าหวั่นเกิดปัญหาลุกลามบานปลายอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
นายสุรศักดิ์ ม่วงอิ่ม อายุ 39 ปี เจ้าของร้านเฮ้ยเสื้อยืด เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 24 เมษายน ซึ่งนับว่ามีอากาศร้อนจัดตนและลูกค้าอยู่ในร้านเป็นจำนวนมากขณะที่ลูกค้ากำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่นั้นได้ยินเสียงระเบิดดังเปรี้ยงสั่นหวั่นไหวตนคิดว่ายางรถที่วิ่งผ่านไปมาระเบิดแต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มี ข้างบ้านก็ไม่มีจึงเดินรอบร้านพบว่าบริเวณห้องเก็บของมีกระเบื้องแตกเป็นทางยาวด้านล่างมีรอยแตกซึ่งเกรงว่าด้านล่างของปูนจะเป็นท่อน้ำหรือคูน้ำอาจเกิดแก็สที่จะทำให้เกิดปัญหาบานปลาย สำหรับขณะนี้ตนภรรยาและลูกๆ นั่งขายของยังเสียวๆว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกในบริเวณร้านของตน เพราะขณะนี้กำลังมีกระแสข่าวเรื่องนี้แรงอากาศก็ร้อนเพิ่มทวีคุณขึ้นทุกๆ วัน อยากให้หน่วยงานไหนก็ได้มาตรวจสอบได้