เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 เมษายน ผู้สื่อข่าวจังหวัดระนองได้รับแจ้งว่า ระดับน้ำแร่ร้อนในบ่อลูกสาวและบ่อแม่ที่สวนสาธารณะรักษะวาริน เขตเทศบาลเมืองระนอง สูงขึ้นผิดปกติจนเกือบถึงปากบ่อสร้างความประหลาดใจแก่ผู้ที่ไปเที่ยวชมเป็นอย่างมากจึงเดินทางไปตรวจสอบปรากฎว่ามีประชาชนชาวระนองและนักท่องเที่ยวกำลังยืนมุงดูระดับน้ำที่สูงขึ้น โดยที่บ่อแม่ระดับสูงขึ้นจากระดับปกติประมาณ 1.5 เมตร ระดับน้ำอยู่ห่างจากปากบ่อประมาณ 6 นิ้ว ส่วนที่บ่อลูกสาวซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกันก็เช่นเดียวกันระดับน้ำในบ่อสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1 เมตร ระดับน้ำห่างจากปากบ่อประมาณ 60 ซม.สามารถยื่นมือลงไปสัมผัสน้ำได้ ส่วนที่บ่อพ่อซึ่งอยู่ห่างจากบ่อแม่ประมาณ 15 เมตร ระดับน้ำยังคงล้นปากบ่อตามปกติ มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ส่วนที่บ่อแช่เท้าก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวนั่งแช่เท้าตามปกติเช่นกัน จากการสัมผัสน้ำระดับอุณหภูมิยังอยู่ในระดับปกติประมาณ 65 องศาทั้ง 3 บ่อ
ดาบตำรวจเชิดชาย นารักษ์ ตำรวจรักษาการณ์ที่ป้อมยามบ่อน้ำร้อน กล่าวว่า สังเกตเห็นระดับน้ำในบ่อลูกสาวซึ่งอยู่ห่างจากป้อมยามประมาณ 10 เมตร สูงผิดปกติมานานกว่า 10 วันแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเช้าระดับน้ำสูงเกือบล้นปากบ่อ แต่พ่อช่วงบ่ายระดับน้ำจะลดลงเล็กน้อย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเจอปรากฎการณ์ดังกล่าวมาก่อน เพราะปกติระดับน้ำในบ่อลูกสาวจะอยู่ห่างจากปากบ่อไม่น้อยกว่า 1 เมตร โดยส่วนตัวแล้วมองว่าน่าจะเกิดจากระดับน้ำ ใต้ดินที่เพิ่มมากขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร
นางมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า สทน.ได้พาผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 35 รายไปยังจังหวัดระนองรวมทั้งจังหวัด พังงา กระบี่ ตรัง และสงขลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและข่าวลือต่าง ๆ นานา ซึ่งจากการได้เที่ยวชมบ่อน้ำร้อนจังหวัดระนองซึ่งเป็นช่วงที่น้ำแร่ร้อนสูงผิดปกติพอดี ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ไม่น่าวิตกใด ๆ ยังมีความปลอดภัยดี สังเกตเห็นนักท่องเที่ยวมีความสนุกสนานดี โดยจะนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับไปส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป
รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ระดับน้ำแร่ร้อนที่สูงขึ้นนั้นตนไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใดแต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดน่าจะมาจากระดับน้ำฝนที่ตกลงมามากในระยะนี้แล้วน้ำดังกล่าวซึมลงไปในร่องหินที่แตกแล้วดันขึ้นมา คงจะไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการประสานให้นักธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์สักระยะหนึ่ง