ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 เม.ย. 55  น.ส.อำภาภรณ์ หลีกาญจนา หรือ หมวย อายุ 31 ปี ผู้ช่วยพนักงานพัสดุ อบจ.ชุมพร อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 1 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง ได้นำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าอำเภอกระบุรี มาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เนื่องจากใบแจ้งให้ไปจ่ายค่าไฟฟ้าประจำเดือน เม.ย. 55 ระบุจำนวนเงินกว่า 4 แสนบาท           น.ส.อำภาภรณ์ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ที่บ้านเลขที่ 7/1 ซึ่งเป็นพื้นที่เขตแดนติดกับ อ.เมือง จ.ชุมพร ปัจจุบันตนทำงานเป็นผู้ช่วยพนักงานพัสดุ อบจ.ชุมพร ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา บิดาตนชื่อ นายทะนง แสงพยับ อายุ 65 ปี ได้รับใบแจ้งหนี้จากการไฟฟ้าอำเภอกระบุรี เลขรหัสการใช้ไฟฟ้า 405103 หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า 0102020004209784 ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเลขที่ 000001718181 ประเภท 2125 แรงดัน 5 วันที่อ่านหน่วย 25/04/55 เวลา 08.55 น. ประจำเดือน 04/2555 หน่วยที่ใช้ 99832.00 กิโลวัตต์ เป็นจำนวนเงิน 392,768.94 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ 27,493.83 บาท รวมเป็นเงินค่าไฟฟ้าทั้งสิ้น 420,262.77 บาท (สี่แสนสองหมื่นสองร้อยหกสิบสองบาทเจ็ดสิบเจ็ดสตางค์) 
          น.ส.อำภาภรณ์ กล่าวต่อว่า การไฟฟ้าอำเภอกระบุรี จะขึ้นตรงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดชุมพร และปกติตนจะเป็นผู้นำบิลค่าไฟฟ้าเข้าไปเสียเงินที่ จ.ชุมพร อยู่เป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากการไฟฟ้าย่อย อ.กระบุรี เพิ่งจะเข้ามาตั้งและเปิดสำนักงานให้บริการในพื้นที่ อ.กระบุรี ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่เมื่อพ่อแม่และตนเห็นจำนวนเงินที่ต้องเสียค่าไฟฟ้า แค่เพียงเดือนเดียวกว่า 4 แสนบาท ทุกคนถึงกับตกใจแทบเป็นลมล้มหงาย เพราะปกติแม้ครอบครัวตนจะใช้ไฟฟ้ามากอย่างไร ก็ไม่เคยเกินเดือนละ 2 พันบาท เนื่องจากครอบครัวตนไม่ได้ประกอบธุรกิจ มีบริษัท หรืออุตสาหกรรมใด ๆ ดังนั้นการเรียกเก็บเงินค่าใช้ไฟฟ้าถึงจำนวนกว่า 4 แสนบาท จึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

          น.ส.อำภาภรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าดังกล่าวตอนนี้ตนยังไม่ได้ไปจ่ายเงิน หรือไปพบผู้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา การไฟฟ้าอำเภอกระบุรี ก็ได้ส่งใบแจ้งหนี้มาที่บ้านพ่อของตนให้ไปจ่ายค่าไฟฟ้าจำนวนเงิน 3,943.43 บาท (สามพันเก้าร้อยสี่สิบสามบาทสี่สิบสามสตางค์) ตนก็ได้นำใบแจ้งหนี้เข้าไปพบกับผู้เกี่ยวข้องขอให้ตรวจสอบว่าคิดเงินผิดไปจากความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่คิดเงินผิด และได้แก้ไขเป็นเสียค่าไฟฟ้าจริงเพียง 1,669.15 บาท เท่านั้น และถัดมาเพียงเดือนเดียวคือครั้งนี้ ได้ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าเดือน เม.ย. สูงกว่า 4 แสนบาท แม้ตนจะขายบ้านขายที่ดินที่มีอยู่ก็ยังไม่สามารถใช้หนี้ค่าไฟฟ้าดังกล่าวได้หมด จึงน่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นอีกอย่างแน่นอน 

          "ตนอยากจะตั้งข้อสังเกตว่า หากกรณีเจ้าหน้าที่ออกใบแจ้งหนี้ผิดเป็นเงินไม่มากแค่ 50 บาท , 100 บาท , 150 บาท หรือ 200 บาท ชาวบ้านหรือผู้ใช้ไฟฟ้า อาจจะไม่ได้เกิดความสงสัยหรือเอะใจใด ๆ แล้วไปจ่ายเงินค่าไฟฟ้าดังกล่าวโดยไม่ทักท้วง อย่างนี้จะถือว่าใครได้ใครเสีย ดังนั้นอยากจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามีความรอบคอบ ระมัดระวัง และมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ อย่าให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ขึ้นอีก"