รายงานพิเศษ การเมือง ข่าวสด
เกมการเมืองในสภาร้อนสุดขั้วทะลุองศา ไม่ต่างจากสภาพอากาศตอนนี้
ในวงประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2 ที่ลากยาวมาราธอนมาเป็นสัปดาห์ แม้บรรยากาศจะจืดชืด ซ้ำซาก วนเวียนอยู่แต่ประเด็นและบุคคลหน้าเดิมๆ
แต่ก็มีรายการ จัดหนักŽ จากสองค่าย
ทั้งฝั่งพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ที่ต่างออกหมัดชิงจังหวะคั่นรายการ ด้วยการลากไส้แฉกันไม่เว้นแต่ละวัน กลบเนื้อหาสาระของการอภิปรายไปทันที
ทำเอาหลายคนในสภาที่โดนหางเลข ไหม้เกรียมไปตามๆ กัน
ตั้งแต่เหตุการณ์ภาพโป๊โผล่บนจอพลาสม่าที่ติดอยู่บนชั้นลอยตรงข้ามบัลลังก์ของท่านประธาน
ต่อมาพรรคเพื่อไทยโดยจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ ออกมาแฉรูปผู้แทนกดมือถือดูรูปโป๊ขณะนั่งประชุม
ภาพแจ่มแจ้ง คมชัด กระทั่งนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลในรูป
กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้พรรคการเมืองที่อ้างจริยธรรมและมาตรฐานสูงอย่างประชาธิปัตย์ ถึงกับจุกพูดไม่ออก เสียศูนย์ไปพักใหญ่
ที่ทำได้ก็แค่พูดจาถูๆ ไถๆ แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
ประกอบกับผลโพลทุกสำนักระบุตรงกันอีกว่า พฤติกรรมส.ส.ดูรูปโป๊นั้นสร้างความเสื่อมเสีย ทำให้ภาพลักษณ์รัฐสภาไทยตกต่ำอย่างยิ่ง
ที่สำคัญคนจำนวนมากต่างก็ไม่เชื่อคำแก้ตัวของนายณัฏฐ์ แม้จะพยายามระบุว่าเป็นแค่การคลิกเมล์มาดูเพื่อลบรูปทิ้ง
ทันใดนั้นเองค่ายเพื่อไทยไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆ หายไป รีบฉวยจังหวะขย่มซ้ำว่ามาตรฐานการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์กำลังตกต่ำถึงขีดสุด
พร้อมเรียกร้องให้นายณัฏฐ์ลาออกจากการเป็นส.ส. เพื่อแสดงสปิริตในครั้งนี้ด้วย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน พรรคประชาธิปัตย์ก็ฟื้นไข้จากอาการมึนดาวเพราะได้ยาดีจากสนามเลือกตั้งซ่อมปทุมธานีมาช่วยเยียวยาสมานแผล
มีแรงตั้งตัวได้ปุ๊บ ก็รีบแท็กทีมส.ว.ขาประจำผู้รู้ใจ แฉเรื่องส.ส.เสียบบัตรแทนกันเป็นการเอาคืนทันที งัดรูปทั้งในมือถือและในไอแพด เทคโนโลยีจับผิดสุดล้ำมาโชว์หรากลางสภา
ได้มือดีระดับจอมแฉอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งคุยว่ามีคลิปเด็ดจับผิดส.ส.ในลักษณะนี้อีกหลายเวอร์ชั่น มาร่วมก๊วนด้วย
พยายามลากโยงประเด็นกดบัตรแทนกัน ส่งผลต่อการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ให้การโหวตเป็นโมฆะทันที
ประเด็นดังกล่าวได้รับการเห็นดีเห็นงามจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนิ่งมานานเรื่องส.ส.ดูรูปโป๊
โดยร่วมส่งเสียงประฌามประพฤติกรรมส.ส.กดบัตรแทน ว่านอกจากผิดจริยธรรมแล้ว ยังถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น ใช้สิทธิ์แทนกันด้วย
พร้อมประกาศจับตาท่าทีของประธานรัฐสภาว่า จะตรวจสอบและมีบทลงโทษต่อเรื่องนี้อย่างไร
ล่าสุดกลายเป็นประเด็นร้อนสมใจ กระทั่งในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ต้องหยิบยกเรื่องนี้มาหารือคั่นรายการ และนำมาสู่การเปิดตัวบุคคลในคลิป
นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ ลุกขึ้นยอมรับเองกลางสภาว่า เป็นบุคคลในรูปที่นางรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นำมาแสดง แต่ปฏิเสธเสียงเข้มว่าไม่ได้กดบัตรแทนเพื่อน
ระบุว่า ที่นั่งซึ่งอยู่แถวหลังเป็นทางเดิน ไม่มีไมค์ ไม่มีช่องกดบัตร แล้วจะไปกดบัตรแทนสมาชิกคนอื่นได้อย่างไร อีกทั้งที่ของตัวเองนั่งก็อยู่ด้านหน้า ไม่ได้หันไปมองข้างหลัง แล้วจะกดช่องถูกได้อย่างไร
ไม่อยากเปลืองตัวกับเรื่องไร้สาระ แต่อย่ากล่าวหากันลอยๆ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูด คราวหน้าอย่าคิดและทำอีกŽ
นายวิวัฒน์ชัยชี้แจง ก่อนตั้งคำถามซัดไปที่ทีมคลิป
หรือต้องการกลบข่าวภาพโป๊?Ž
ประสานเสียงกับ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ช่วยยืนยันในฐานะกรรมการสอบที่พรรคตั้งขึ้นในประกรณีนี้โดยเฉพาะว่า
ตรวจสอบจากมุมกล้องแล้ว เป็นคนละมุมกับที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั่ง ไม่มีช่องกดบัตรตรงบริเวณที่ส.ส.คนนั้นนั่งเท้าแขน แล้วจะกดบัตรแทนกันได้อย่างไร ดังนั้น รูปที่ปรากฏจึงไม่ใช่ส.ส.ของพรรคแน่นอน
ท้าเอาตำแหน่งเดิมพันหากคำพูดของตนเป็นเท็จ
เพื่อไทยเปิดเกมเร็ว ไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนจัดหนักฝ่ายเดียว
ด้านน.ส.รสนา ชักเริ่มเสียงอ่อย อ้างว่าที่ทำไปนั้นไม่ใช่เกมการเมืองเพื่อกลบข่าวส.ส.ดูภาพโป๊ ก่อนถูๆ ไถๆ เบนไปประเด็นอื่นแทน
ยกหลักธรรมะคำสั่งสอนมาชี้โทษพฤติกรรมส.ส. เปรียบเทียบกันว่า
ส.ส.ที่ดูภาพโป๊ก็แค่ระดับปาจิตตีย์ หรือสังฆาทิเสสเท่านั้นŽ
แต่การกดบัตรแทนกันต้องถึงขั้นปาราชิก ขาดจากการเป็นพระหรือส.ส.ไปเลยŽ
ขณะที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในผู้มาเปิดประเด็น สารภาพเปิดใจกับกลุ่มผู้สื่อข่าวรัฐบาล ระบุว่าภาพที่นำมาแฉ น่าจะเป็นภาพที่ไม่ใช่ช่วงระหว่างที่มีการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งนี้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ยังไม่ฟันธงเรื่องนี้ สั่งเลขาธิการสภา ตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงทันที ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ส่วนเรื่องที่ว่าจะกระทบต่อมติโหวตรับร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหรือไม่นั้น ประธานขุนค้อนชี้ว่าไม่กระทบเพราะคะแนนเสียงที่โหวตนั้นทิ้งห่างเป็นร้อยๆ ชนิดไม่ติดฝุ่น
พร้อมแสดงความเห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลด้านจริยธรรมมากกว่า
เมื่ออาวุธลับของฝั่งประชาธิปัตย์และกลุ่มส.ว. ทำท่าจะกลายเป็นระเบิดด้าน ฝั่งเพื่อไทยโดย เด็จพี่-พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พร้อมนายจิรายุ และนายวิวัฒน์ชัย พลิกเกมเป็นฝ่ายรุกทันควัน
ตั้งโต๊ะแถลงในฐานะผู้เสียหาย แจ้งความดำเนินคดีกับทีมคลิป ฐานหมิ่นประมาท ประกอบด้วยน.ส.รสนา, นายบุญยอด, และนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่สน.ดุสิต
พร้อมกันนี้ นายจิรายุในฐานะกรรมการสอบฯที่พรรคเพื่อไทยตั้งขึ้น ยังขู่อีกว่า จะถอดเทปคำอภิปรายของน.ส.รสนา และนายบุญยอด มาตรวจสอบอย่างละเอียด หาช่องทางกฎหมายดำเนินคดีต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้แม้จะเป็นแค่ฉากหนึ่งของเกมการเมืองที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักระหว่าง 2 พรรค แต่เนื่องจากปัญหาส.ส.เสียบบัตรแทนกันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก
และที่สำคัญเป็นเรื่องจริยธรรมของผู้แทนซึ่งส่งผลรวมไปถึงภาพใหญ่ของรัฐสภา ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบจึงต้องเข้มข้นเอาจริงเอาจัง
อย่าทำแบบไฟไหม้ฟางเด็ดขาด