อย่าปฏิเสธเลย ถ้าจะกล่าวว่า “Harley Davidson” กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ หนุ่มแบดบอย ศตวรรษนี้ เพราะนอกจากพบเจอได้ตามโทรทัศน์ หรือแมกกาซีนหัวนอก การกำเนิดของผู้นำเข้าอิสระหลายราย เลือกสุดยอดชอปเปอร์แบรนด์นี้เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งไม่เพียงแต่เล็งเห็นกำลังซื้อจากผู้บริโภครสนิยมสูงเท่านั้น แต่เพราะเล็งเห็นว่าการเลือกใช้“Harley Davidson” มันคือ ไลฟ์สไตล์ ที่ย้ำตัวตนของ แบดบอย ตัวจริง หลายปีให้หลัง ภาพของสิงห์มอเตอร์ไซค์ มักหาดูได้ง่ายขึ้นทุกที บน Highway ที่มุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงไปสู่ชนบทห่างไกล 2 ล้อคู่ใจ เสียงดังลั่นถนน พาบุรุษในชุดหนัง ลอยห่างจากสังคมเมือง เพื่อนัดพบกับความอิสระ และชีวิตดิบๆ กลางแจ้ง คำกล่าวที่ว่า “เส้นทางไหนไม่สำคัญ ขอเพียงถึงจุดหมายก็พอ” อาจจะใช้ได้กับคนบางกลุ่ม แต่ใช้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิงกับคนกลุ่มนี้ เพราะพวกเขานับถือ นาทีที่คร่อมบนอานมอเตอร์ไซค์ มากกว่าสวรรค์ที่อยู่ปลายทาง
Taste ปักษ์นี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ “Harley Davidson Sportster Forty-Eight” ชอปเปอร์ขบถ ที่จะทำให้คุณลืมเครื่องแบบหนัง บนหลังอานมอเตอร์ไซค์!ที่เกริ่นไปนั้นไม่ได้เกินจริง เพราะ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่หลายคนคิดถึง คงเป็นชายที่หนวดเครารุงรัง บ้างมีผ้าโพก บ้างใส่หมวกนิรภัยขนาดพอดีหัว แต่งองค์ด้วยเสื้อหนังปักลายสังกัด กางเกงหนังขายาวจดรองเท้าบูตคู่เขื่องแต่ Harley Davidson Sportster Forty-Eight ฉีกกฎเกณฑ์ของไลฟ์สไตล์ที่ว่า ขาดกระจุย ด้วยภาพลักษณ์แปลกตาใหม่ๆ ที่ดูเป็นมิตรขึ้น และลดความเกรี้ยวกราดลงไป เผลอๆ บางรายคร่อมอาน Forty-Eight ในชุดทำงานออฟฟิศด้วยซ้ำ
ด้วยจุดกำเนิดของยานพาหนะที่อยู่ในไลน์ของ Sportster นำเสนอความคล่องแคล่วให้คนเมืองใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขิน อีกทั้งการใช้วันหยุดออกไปแสวงหาอากาศบริสุทธิ์ในต่างเมือง ก็ไม่บกพร่องด้านสมรรถนะแม้แต่น้อย Forty-Eight นั้นมีความแตกต่างจาก Sportster รุ่นอื่น ตั้งแต่การพกเครื่องยนต์ Evolution V-Twin สีดำขัดเงา ขนาด 1200 ซีซี. บังโคลนหน้าหลังทรงบ๊อบที่มีรูปร่างป้อมสั้น ยางหน้าขนาดใหญ่ของ Dunlop MT90 ประดับกระจกข้างไว้ใต้แฮนด์ แผ่นป้ายทะเบียนด้านข้าง (ในสเปกอเมริกา) รวมถึงเบาะนั่งเดี่ยวในระดับความสูง 26 นิ้ว และแน่นอนเอกลักษณ์ถังน้ำมันรูปถั่ว ขนาด 2.1 แกลลอน เพนต์ลายถังสัญลักษณ์ที่นักบิดทั่วโลกหลงใหล
ซึ่ง Harley-Davidson นั้น หวังให้ Forty-Eight ครองใจกลุ่มคนวัยต่ำกว่า 40 ปี เป็นหลัก เพราะเล็งเห็นว่า คนกลุ่มนี้มักมีแนวทางและไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจน และไม่ชอบอะไรที่ “เยอะ” เกินไป โดยตั้งราคาค่าตัวเริ่มต้นไว้ที่ 10,499 USD โดยในโฉมแรกนั้น มีสีถังให้เลือก สีดำ สีบรอนซ์เงินและสีส้ม ต่อมาในโฉมปี 2012 ที่เรียกตามภาษารถว่า Minor Change (หรือเข้าใจง่ายๆ ว่า เปลี่ยนนิดหน่อย) ด้วยการเปลี่ยนลายที่ถังน้ำมัน และเพิ่มทางเลือกด้วยสีน้ำเงิน และเหลือง อีกด้วยครับ