วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความค่ายป.ประมุข ยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง กรณี “ดำดอทคอม” บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยแห่งยุค ทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.มวย ฝ่าฝืนขึ้นชกศึกไทยไฟต์ 2012 เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา จ.ชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าค่ายต้นสังกัดคือค่ายป.ประมุข ที่มี “กำนันแก๊” นายประมุข โรจนตัณฑ์ เป็นเจ้าของค่าย และลูกชาย “เสี่ยอุ” นายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ เป็นหัวหน้าค่าย
นายวิวรรธน์ เปิดเผยว่าการยื่นฟ้องคดีแพ่งครั้งนี้ ได้ยื่นฟ้อง 5 ราย ได้แก่ เดย์ 1. บริษัทสปอร์ต อาร์ต จัด ผู้จัดศึกไทยไฟต์,2.นายวิษณุ อ่ำอนันต์ โปรโมเตอร์ศึกไทยไฟต์ 2012,3.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม นักกายภาพบำบัด,4.บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ และ 5.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท พร้อมขอความคุ้มครองชั่วคราว ห้าม บัวขาว เดินสายชกหรือโชว์ตัว ในรายการต่าง ๆ รวมทั้ง นายธีรวัฒน์ ยื้วยิ้ม ห้ามยุ่งเกี่ยวกับ บัวขาว อีก เพราะยังมีคดีความในศาล เนื่องจากที่ผ่านมา ค่ายป.ประมุข ได้ชี้ว่า นายธีรวัฒน์ เป็นผู้ชักจูงบัวขาว ออกจากค่าย และอ้างตัวเป็นผู้จัดการของบัวขาว โดยศาลรับคำฟ้องแล้ว และจะนัดไต่สวนนัดแรก วันที่ 16 ก.ค. นี้
วันเดียวกัน ที่ห้อง 309 อาคารรัฐสภา 2 นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เพื่อพิจารณาปัญหาเรื่องนี้ เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง มี นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพ และสิทธิประโยชน์ กกท. พ.อ.อ.อรรถพงษ์ อ่ำอนันต์ ที่ปรึกษาโปรโมเตอร์ไทยไฟต์ และนายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการบริษัทสปอร์ตอาร์ต จำกัด ในฐานะรองประธานการจัดศึกไทยไฟต์ เข้าชี้แจง แต่ทางค่ายป.ประมุจ ไม่ได้เดินทางมาร่วมชี้แจงในการประชุม แม้ว่าคณะกรรมาธิการฯจะได้ทำหนังสือเชิญเข้าชี้แจงไปแล้วก็ตาม
นายสกล กล่าวว่า ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยในวันที่ 30 เม.ย.จะเชิญ บัวขาว กับ ฝ่ายจัดไทยไฟต์ มาชี้แจงพร้อมกับแจ้งข้อกระทำผิดพ.ร.บ.มวย และในวันที่ 2 พ.ค. เชิญค่าย ป.ประมุข และบัวขาวมาให้ข้อมูล ทั้งนี้ขั้นตอนแรกคงใช้มาตรการไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่ายยอมความกันก่อน ส่วนเรื่องเอาผิดตามพ.ร.บ.ต้องดำเนินการแน่นอน ต้องถูกถอนใบอนุญาต แต่จะเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับอนุกรรมการวินัยและจรรยาบรรณจะพิจารณา แต่ไม่เกิน 6 เดือน ทั้งนี้กกท.ต้องดูข้อเท็จจริงในหลายๆด้าน เพราะถ้าค่ายดูแลนักมวยไม่ดี นักมวยก็สามารถย้ายค่ายได้ เพราะพ.ร.บ.มวยระบุชัดเจนในมาตรา 14 วรรค 1 และยอมรับว่าพ.ร.บ.มวยมีช่องโหวไม่ชัดเจน หลายฝ่ายยังมองว่าการลงโทษผู้ทำผิดพ.ร.บ.ยังอ่อนไป มีไว้เพื่อให้คนแหกกฎ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะจัดสัมมนาเชิญค่ายมวยและนักมวยมาระดมสมอง สะท้อนปัญหา เพื่อนำมาประกอบการร่างพ.ร.บ.ให้ทันสมัย และบังคับใช้อย่างได้ผลที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก ที่สำคัญบทลงโทษต้องน่าเกรงขามกว่านี้
ด้านพ.อ.อ.อรรถพงษ์ แสดงหลักฐานสัญญาระหว่างบริษัทสปอร์ตอาร์ต และบัวขาว โดยมี "เสี่ยอุ" หัวหน้าค่ายป.ประมุขลงนามเป็นพยานในสัญญา ต่อที่ประชุม และชี้แจงว่า ตามที่ทางค่าย ป.ประมุข ได้ยื่นหนังสือคัดค้านไม่ให้บัวขาวขึ้นชกศึกไทยไฟต์ และอ้างว่าไม่ได้รับการยินยอมจากทางค่ายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะทางบริษัทสปอร์ตอาร์ต ได้ทำสัญญากับบัวขาว ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2553 แล้ว โดยมี "เสี่ยอุ" ลงนามเป็นพยาน ส่วนกรณีที่ตนฝ่าฝืน พ.ร.บ.กีฬามวย ปี 2542 นั้น ตนพร้อมที่จะรับผิด และยอมรับโทษพักใบอนุญาติตามที่ทางกฎหมายกำหนด เพราะถ้าหากว่าไม่สามารถนำ บัวขาว ขึ้นชกได้ตามที่ได้ตกลงกับทางผู้จัดไว้ ก็อาจจะโดนสปอนเซอร์ที่สนับสนุนงานฟ้องร้องได้ เนื่องจากได้โปรโมตการชกไปแล้วก่อนที่จะเกิดเรื่อง ส่วนกรณีบัวขาว ไม่ได้ชั่งน้ำหนักแต่กลับขึ้นชกได้นั้น ตนยืนยันว่าบัวขาวได้ชั่งนำหนักแล้วในช่วงเช้าวันที่ 17 เม.ย.ก่อนขึ้นชก โดยคู่ชกชาวรัสเซียก็ทราบแล้วว่ามีการเปลี่ยนคู่มวย
ขณะที่นางนฤมล กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่เคยทราบมาก่อนในการประชุมครั้งนี้ ทั้งหนังสือสัญญาระหว่างบัวขาว กับสปอร์ตอาร์ต และใบรับรองแพทย์ของบัวขาว ที่ไปตรวจเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อประกอบหนังสือคัดค้านการขึ้นชก ที่ทางป.ประมุขได้ยื่นให้ กกท. ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยแก้ไขปัญห าเพื่ออนาคตของวงการกีฬามวยอาชีพของประเทศ ที่ประชุมเห็นด้วยในการปรับแก้ไขพ.ร.บ.มวย เมื่อพิจารณาจากหนังสือสัญญาระหว่างสปอร์ตอาร์ตกับบัวขาวแล้ว ระบุว่าทางค่ายป.ประมุขได้ลงนามเป็นพยาน แสดงให้เห็นว่าค่ายป.ประมุขรับรู้เนื้อหาในสัญญาฉบับดังกล่าว แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาเนื้อหาเรื่องระยะเวลาในการชกที่ระบุในสัญญาว่ามีการกระทำเกินกว่าสัญญาหรือไม่ โดยจะเชิญหัวหน้าค่ายป.ประมุข และแพทย์ที่ลงนามรับรองใบรับรองแพทย์ของบัวขาวมาชี้แจงตามเอกสารที่ปรากฎ ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ว่าเป็นความจริงหรือไม่ รวม ทั้ง บัวขาว ด้วย
สำหรับกรณีใบรับรองแพทย์ของ บัวขาว นั้น ระบุว่าไปตรวจเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา แพทย์ยืนยันว่ามีอาการบาดเจ็บ ที่ขา ไม่สามารถเดินทางไปชกโชว์ญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือน ที่ผ่านมา ซึ่งไทยไฟต์ชี้ว่า ค่ายป.ประมุข ดูแลนักมวยไม่ดี ทั้งที่มีกำหนดชกวันที่ 17 เม.ย. รออยู่ ส่วนหนังสือสัญญาของไทยไฟต์กับค่ายป.ประมุข ระบุว่า บัวขาว ต้องชกไทยไฟต์ สัญญา เดือนก.ย.-ธ.ค. 2554 และ เดือนก.ย.-ธ.ค.2555 แต่ไทยไฟต์ชี้ว่า มีการเลื่อนชก และมีการเจรจากับทางค่ายป.ประมุขมาก่อน