ไฟไหม้ กุฏิ ไม้สักทรงไทยวัดพนัญเชิงวอด คาดต้องใช้เงินบูรณะถึงร้อยล้าน!
พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด รองผบก. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ ผกก. พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผกก.สส. สภ.พระนครศรีอยุธยา นายสุริยะ รื่นเวช ปลัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำรถดับเพลิงจำนวน10คันและเรือดับเพลิง 2 ลำ ไปยังที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้กุฎิทรงไทยจตุรมุขไม้สักครึ่งตึกไม้ 2 ชั้น อยู่ติดกับกุฎิพระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัด ที่มีพื้นที่ขนาดกว้าง150 ตารางวา
เพลิงได้ลุกไหม้ชั้นบนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกุฎิอยู่ระหว่างการบูรณะ มีการทาแลกเกอร์เคลือบเงาตัวกุฎิจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว กระจายไปทั่วอาคาร รอบๆตัวอาคารมีกระจกปิดทุกด้านทำให้เพลิงลุกไหม้ภายใน เจ้าหน้าที่ต้องทำการทุบกระจกแล้วระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุเพลิงใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงและเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวอาคารหลังนี้ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนส่วนชั้นที่สอง ใช้ไม้สัก และไม้หอม ในการปรับปรุงเพื่อเป็นอาคารห้องสมุดเฉลิมพระเกรียติ ยังบูรณะไม่เสร็จ กำลังวางระบบไฟฟ้า และติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ยังไม่มีพระจำพรรษา มีตู้พระไตรปิฎกและตู้ไม้สักโบราณอยู่จำนวนหนึ่ง ยังไม่มีหนังสือ อาคารหลังนี้ อาคารหลังนี้ใช้งบประมาณในการบูรณะไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท ดูจากภาพแล้วคงจะต้องทำการบูรณะใหม่ทั้งหมด ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ไปตรวจสอบ เดิมอาคารนี้ใช้เป็นอาคารเรียนปริยัติธรรมของพระเณร เป็นอาคารเก่าแก่ เกือบ 100 ปี ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกหน่วยที่มาช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเกิดเพลิงไหม้ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปไหว้หลวงพ่อโตต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆวิ่งออกมาดูบางคนถึงกับสวดมนต์ให้หลวงพ่อโตช่วยปัดเป่าให้ไฟดับ
สำหรับวัดพนัญเชิงเพิ่งจะทำบุญครอบรอบวันเกิดให้กับหลวงพ่อโต เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นปีที่ 688 คาดว่าในการบูรณะใหม่หลังจากไฟไหม้น่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ ต้องรอให้ไฟดับจนสนิทจึงจะให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจสอบ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในอาคาร โดยจะให้พนักงานสอบสวนสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ภายในวัด เป็นอาคารที่กำลังบูรณะไม่ทราบว่าคนงานที่กำลังก่อสร้าง ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดหรือไม่ในการปิดเปิดไฟ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร