เฉิงตูซังเป้า - ใครว่าสัตว์เลี้ยงไม่มีหัวใจ และใครเลยจะรู้ว่าในหัวใจของสุนัขตัวหนึ่งจะมีความภักดีต่อผู้เป็นนายมากแค่ไหน ล่าสุดสื่อจีนได้เผยแพร่เรื่องราวความรักของสุนัขกับเจ้าของรายหนึ่ง ที่ความตายมิอาจพรากความผูกพันของพวกเขาไปได้
ไฉสี่เอ๋อร์ น้องหมาพันธุ์ปักกิ่งอายุ 2 ขวบ ตรอมใจเพราะคิดถึงเจ้านายผู้ล่วงลับ
ที่เมืองจื้อก้ง มณฑลเสฉวน น้องหมา "ไฉสี่เอ๋อร์" เพิ่งจะสูญเสียเจ้านายอันเป็นที่รักไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ในคืนนั้น หน้าที่ตั้งศพของผู้เป็นนาย เจ้าหมาน้อยมีอาการคลุ้มคลั่งพยายามที่จะกัดเชือกคล้องคอให้ขาด อีกทั้งยังวิ่งไปมาและส่งเสียงเห่าไม่หยุด สร้างความรันทดใจต่อผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นอันมาก หลังจากนั้น ไฉสี่เอ๋อร์เริ่มอดอาหาร จนกระทั่งเวลาผ่านไป 16 วัน กลางดึกคืนนั้น ไฉสี่เอ๋อร์ ก็สิ้นใจตามผู้เป็นนายไป โดยหลุมศพของเจ้าหมาน้อยถูกจัดให้ฝังไว้เคียงข้างกับหลุมศพของผู้เป็นนายนั่นเอง
ที่ผ่านมา "หวัง ซูฉวิน" ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงมาก่อน จนกระทั่งวันที่ 18 มี.ค. 2010 "หวัง ฟัง" ผู้เป็นบุตรสาวได้อุ้มลูกสุนัขพันธุ์ปักกิ่งอายุ 2 เดือน ตัวหนึ่งมาจากบ้านญาติ สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า "ไฉสี่เอ๋อร์" นับตั้งแต่นั้นมาสุนัขตัวนี้ก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของหญิงชราวัย 88 ปีผู้นี้
แม้แต่เวลาอยู่บนรถเข็น ผู้เฒ่าก็ต้องมีเจ้า ไฉสี่เอ๋อร์ นอนอยู่บนตัก ช่วงเดือน มี.ค. ของปีนี้ เจ้าหมาน้อยได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา หวัง ซูฉวิน ผู้เป็นนายก็เพียรรักษาด้วยการนวดขาให้มันอยู่เสมอ ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นเนื่องจากกลัวว่า ไฉสี่เอ๋อร์ จะไปกินของไม่ดีเข้า หวัง ซูฉวิน จึงมักป้อนผลไม้ที่ต้นเองเคี้ยวจนแหลกแล้วให้มันโดยวางให้ที่กลางฝ่ามือของตัวเอง ซึ่งการดูแลเอาใจใส่ของผู้เป็นนายทำให้ ไฉสี่เอ๋อร์ ติดเป็นนิสัย หากป้อนอาหารที่เป็นชิ้นๆ ไม่บดละเอียดให้ มันจะไม่ยอมกินเลย อย่างไรก็ตามนอกจากผลไม้แล้ว ไฉสี่เอ๋อร์ยังได้กินอาหารอื่นๆ เช่นเครื่องในสัตว์บดอีกด้วย
เนื่องจาก หวัง ซูฉวิน อายุมากแล้ว บุตรหลานจึงมักกังวลเรื่องสุขภาพของหญิงชราและซื้อนมสดมาไว้ให้รับประทานอยู่เสมอ โดยกำหนดเวลาดื่มนมประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวัน แต่วันไหนที่ผู้เฒ่าหลงลืม ก็ได้เจ้าหมาปักกิ่งคู่ใจนี่แหละคอยเตือน เมื่อได้เวลาดื่มนม ไฉสี่เอ๋อร์จะเห่าไม่หยุด จากนั้นเดินไปเดินมา หรือบางทีก็คาบแก้วนมเปล่า จนกระทั่งผู้เฒ่านึกขึ้นมาได้ว่าลืมดื่มนม มันจึงจะหยุด
ยามที่ หวัง ซูฉวิน นอนหลับ จะให้หมาน้อยนอนในลังเบียร์หน้าประตูห้อง และหากวันไหนผู้เฒ่านอนเกินเวลาที่เคยไปมาก ไฉสี่เอ๋อร์ ก็จะเห่าเพื่อปลุกเจ้านายให้ตื่นได้แล้ว
20 มี.ค. หวัง ซูฉวิน มีอาการโรคหัวใจกำเริบจึงถูกส่งไปนอนรักษาตัวยังโรงพยาบาลประจำเมืองจื้อก้ง ช่วงเวลาที่เจ้านายไม่อยู่บ้าน ไฉสี่เอ๋อร์ อยู่ไม่ติดที่ ทุกๆ วันเอาแต่ตะกายประตูหน้าที่พัก จนกระทั่ง หวัง ฟัง บุตรสาวสงสารจึงพามันไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลด้วย และเมื่อพบหน้ากันอีกครั้ง ไฉสี่เอ๋อร์ ดีใจมาก พยายามวิ่งเข้าไปเลียหน้าตาของเจ้าของที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความคิดถึง ซึ่งครั้งนั้นนับเป็นครั้งสุดท้ายที่สุนัขและเจ้าของได้พบหน้ากัน
31 มี.ค. 2555 เวลา 03:18 น. เป็นเวลาที่ผู้เฒ่าล่วงลับจากโลกนี้ไป บุตรสาวของผู้ตายเล่าทั้งน้ำตาว่า ในคืนนั้น ณ หน้าที่ตั้งศพของผู้เป็นนาย ไฉสี่เอ๋อร์ มีอาการคลุ้มคลั่งพยายามที่จะกัดเชือกคล้องคอให้ขาด อีกทั้งยังวิ่งไปมาและส่งเสียงเห่าไม่หยุด หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา สุนัขน้อยไม่ยอมกินอะไร ไม่ส่งเสียง เอาแต่นอนน้ำตาไหล แม้ว่าบุตรสาวของหวัง ซูฉวินจะพามันไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 16 เม.ย. หลังจากที่ทนทุกข์ทรมานมากว่า 16 วัน ไฉสี่เอ๋อร์ ก็สิ้นใจไปตามเจ้านายแสนรักของมันไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หวัง ฟัง นำร่างไร้วิญญาณของ ไฉสี่เอ๋อร์ ไปฝังไว้ ณ สุสานลี่หยวน ข้างๆ หลุมฝังศพมารดาผู้ล่วงลับของตน เพราะเชื่อว่า ณ ที่นั้น จะเป็นที่ที่สุนัขน้อยนอนตายตาหลับ