อดีต "โจรเรียกค่าไถ่" ชื่อกระฉ่อนแดนใต้อย่าง "ไข่หมูก" หรือ "เจิม เส้งเอียด" กับน้องชาย "เอียด เส้งเอียด" เริ่มกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้กระทำความผิด ซึ่งมีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว พ่วงด้วยโทษประหารและจำคุกที่ชดใช้ชีวิตทั้งชาตินี้ชาติหน้าไม่จบสิ้น
แต่กลับมาในนาม "ผู้อนุรักษ์ปกป้องผืนป่าบนเทือกเขาบรรทัด"
หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ทั้งคู่ก็ตั้งใจจะอุทิศชีวิตเพื่อรักษาป่าไม้ ถวาย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานอภัยโทษหลายครั้งจนพ้นคุก
ก่อนหน้านี้ "ไข่หมูก" กับ "เอียด" ได้ช่วยแก้ปัญหาเส้นทางสัญจรเข้า-ออกอุทยาน ระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ยอมให้มีเส้นทางสัญจร เพียงแต่ลดขนาดลง
กระทั่ง "ดำรงค์ พิเดช" อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ชักชวนให้สองพี่น้องมาเป็นแนวร่วมในการอนุรักษ์ผืนป่าแผ่นดินใต้
โดยอธิบดีฯ ให้เหตุผลว่า เกิดเป็น "เสือ" ต้องปกป้องป่า ป่ารกเพราะเสือบัง ป่ายังเพราะเสือมี
หลังพบอธิบดีฯ ปรากฏว่ายังมีเหตุการณ์บุกรุกป่าเกิดขึ้นต่อเนื่อง ช้างยังลากไม้ในป่า เจ้าหน้าที่บางคนยังใช้อิทธิพลตัดไม้เป็นธุรกิจใหญ่โต บนทุกพื้นที่ของเทือกเขาบรรทัด
ทั้ง 2 คน จึงตัดสินใจประกาศตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยการขึ้นป้ายประกาศปวารณาตัวปกป้องผืนป่า ขอความร่วมมือจากประชาชน 4 ข้อ ได้แก่
1.ห้ามตัดไม้ทำลายป่า แผ้วถางป่าในเขตหวงห้าม
2.ห้ามนำช้างชักลากไม้ ในเขตหวงห้าม
3.ห้ามนำอุปกรณ์เลื่อยยนต์ทำลายป่า ในเขตหวงห้าม
4.หากผู้ใดยังฝ่าฝืน กระทำการดังที่กล่าวมา
"กระผมไข่หมูกคนนี้จะปกป้องด้วยชีวิต"
จีงเรียนมาเพื่อทราบกันทุกๆ คน
พร้อมลงชื่อ ไข่หมูก
ด้านน้องชายไข่หมูก "เอียด เส้งเอียด" กล่าวสมทบว่า
"เราสองคนพร้อมที่จะตาย เพื่อปกป้องแผ่นดิน ป่าตรงนี้ ตอบแทนบุญคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ให้ความเมตตากรุณาให้พวกเรามี ชีวิตอยู่ เรามั่นใจว่าแม้จะมีคนมายิงในวันพรุ่งนี้ เราก็จะทำ รบกับนายทุน เราก็ไม่กลัว ข้าราชการเราก็ไม่กลัว เป็นใครเราก็ไม่กลัว ถ้าทำลายป่าเราสู้ สู้ทั้งนั้น ต่อให้ท่านอธิบดี ถ้าทำในสิ่งไม่ถูกต้อง เราก็สู้ เพราะเราไม่ขึ้นกับใคร เราเป็นกลุ่มชนจิตอาสาพิทักษ์ป่าเทือกเขาบรรทัด ผมมั่นใจว่า ผมและพี่ชายจะรวบรวมพลังชนในจังหวัดพัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช เข้ามาดูแลป่าตรงนี้ให้ได้ เพราะมีเสียงสนับสนุนพอสมควร และถ้าได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชน ประชาชน อธิบดี ผมมั่นใจว่าป่าคงถูกทำลายน้อยลง"
"ที่ผ่านมาความชั่วเราก็ประกาศ เราจับคนเรียกค่าไถ่ ผมบอกว่าผมจับลูกชายคุณไปแล้ว ให้เอาเงิน 10 ล้านมาไถ่ เรายังกล้าประกาศ เป็นการประกาศทำความชั่ว บัดนี้ทำความดี เราจะกลัวอะไร ตายเราก็ยอม ผมเชื่อตรงนี้ครับ เชื่อด้วยความมั่นใจว่าเราอาจจะตาย แต่ตายบนผืนแผ่นดินที่เราทำความดี ดีกว่าตายเป็นเสือ เหมือนอย่างที่สังคมประนาม"
"เราเข้าใจเรื่องอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เราจะบอกลูกบอกหลาน เอาเลือดไปล้างเลือด เหมือนตระกูลเส้งเอียดที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว ลูกเอ๋ย ถ้าเอาเลือดไปล้างเลือด มีแต่กลิ่นคาว เลือดต้องล้างด้วยน้ำ น้ำสะอาดถึงจะล้างกลิ่นคาวได้ ความแค้นต้องทดแทนด้วยความดี ใครแค้นเรา เราไปขอ ถ้าเขาโกรธว่าเราขัดขวางเรื่องการทำไม้ ให้เราไปกราบเท้าเขาก็ยังได้ ขอให้ป่าไม้ยังอยู่ อันนี้เราทำได้"