อันดับ 10 โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติปารากวัยผู้นี้ คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าสร้างขึ้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของเขา มันมากกว่าการที่เขาถูกยกย่องให้เป็นตำนานนักเตะของประเทศ แต่ความภาคภูมิใจของเขาคือความกล้าบ้าบิ่นรวมไปถึงพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัว เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะเห็นเขาออกมาจากบริเวณปากประตูของตัวเอง ขึ้นมายังปากประตูของคู่แข่งเพื่อรับหน้าที่สังหารลูกฟรีคิกให้กับทีมอยู่เสมอ หลายประตูด้วยกันที่ถูกสร้างสรรค์โดยเท้าซ้ายข้างถนัด จนติดตราตรึงใจกันมานักต่อนักแล้ว และสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออีกอย่างที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ก็คือ ครั้งหนึ่งเขาเคยทำประตูได้จากระยะกว่าครึ่งสนามในแดนของตนเองมาแล้ว
อันดับ 9 โรแบร์โต้ คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์ลอส อดีตแบ็กซ้ายหมายเลขหนึ่งของโลกทีมชาติบราซิล เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อเสียงด้านการสังหารฟรีคิกอีกคนที่เรารู้จักกันดี คาร์ลอส พยายามหาหนทางพลิกแพลงลูกฟรีคิกจากระยะที่ไกลมาก จนวันหนึ่งเมื่อมันได้ผล มันคือความยอดเยี่ยมหาที่ติไม่ได้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการสังหารฟรีคิกเมื่อปี 1997 ในแมตช์ที่ทีมชาติบราซิล ของเขาพบกับ ฝรั่งเศส จากฟรีคิกระยะร่วม 35 หลา คาร์ลอส บรรจงวางลูกบอลที่จุดเตะ ก่อนที่จะถอยหลังร่วมๆ 10 หลา และวิ่งเข้าไปสับไกด้วยซ้ายอันทรงพลัง บอลหนีกำแพง และกรอบประตูออกไปร่วมๆ 3 หลาบอลทำท่าว่าจะออกหลังแบบไม่ได้ลุ้น แต่สิ่งที่เห็นก็คือมันเหลือเชื่อที่บอลเปลี่ยนทิศทางเลี้ยวกลับเข้าหากรอบประตูกะทันหันและเข้าประตูไปในที่สุด ชนิดที่ ฟาเบียง บาร์เตซ ไม่ทันได้ขยับตัวด้วยซ้ำ และจากฟรีคิกของ คาร์ลอส ลูกนี้เองมันถูกตั้งชื่อว่า “บานาน่า” คิก ในภายหลัง
อันดับ 8 พอล แกสคอยน์ พอล แกสคอยน์ หรือ “แกสซ่า” คือหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่มีลีลาการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยเวทมนตร์ชื่อของ “แกสซ่า” ถูกจดบันทึกไว้ในประวัตศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามเวมบลีย์ เมื่อปี 1991 ในแมตช์ที่ สเปอร์ส พบ กับ อาร์เซน่อล ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในปีนั้น ผลจบลงที่ สเปอร์ส เอาชนะ อาร์เซน่อลไป 3-1 เป็นลอนดอนดาร์บี้แมตช์ที่แฟนๆ สเปอร์ส จะต้องจดจำไปอีกนาน เพราะนอกจากที่ทีมรักชนะคู่ปรับร่วมเมืองได้แล้ว สิ่งที่ยังติดตาตรึงใจมิอาจลืมก็คือฟรีคิกของ “แกสซ่า” ในเกมวันนั้นที่สุดแสนจะน่าทึ่ง
อันดับ 7 ดิเอโก้ มาราโดน่า เทพบุตร และ ซาตาน ของวงการลูกหนังที่ผู้คนทั่วโลกมิอาจลืมเลือน ดิเอโก้ มาราโดน่า คือนักเตะที่ดีที่สุดที่โลกเคยมี และเป็นนักเตะในตำนานของประเทศอาร์เจนติน่า การทำประตูที่น่าทึ่ง 2 ประตูในศึกฟุตบอลโลกปี 1986 ในแมตช์ที่ทีมชาติอาร์เจนติน่า พบกับทีมชาติอังกฤษ คือสิ่งที่บอกความเป็นตัวตนอย่างชัดเจนที่สุดในอาชีพนักเตะของเขา แต่น้อยคนนักที่จะรู้ดีถึงความสามารถอีกอย่างของ มาราโดน่า นั่นก็คือการสังหารฟรีคิก ที่นักเตะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาในสมัยนั้น จะรู้ดีว่าเขาคือตัวสังหารฟรีคิกที่อันตรายที่สุด ด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นตัวของตัวเองก็คือ เขาจะยืนห่างจากลูกบอลเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
อันดับ 6 สจ๊วต เพียซ เมื่อใดก็ตามที่เราเห็น สจ๊วต เพียซ ใส่อารมณ์กับลูกฟุตบอล เรารู้ได้ทันทีว่าหายนะกำลังจะเกิดขึ้น มันเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 ยังไงยังงั้น เท้าซ้ายอันทรงพลังของเขา เป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุดในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 1991 ในแมตช์ที่พบกับ สเปอร์ส
อันดับ 5 ปีแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ ปีแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ ชื่อนี้ไม่เคยถูกโจมตี หรือถูกซบประมาทว่าเขาเป็นนักเตะที่เร่ร่อนไปทั่ว, ฮอยดองค์ พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่มีอยู่ในตัวในเรื่องการสังหารฟรีคิก และความหมายของคำว่าฟรีคิกได้เป็นอย่างดี แม้มันอาจดูไม่น่ากลัวถึงขั้นเทพ แต่แฟนๆ เซลติก และ น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรส จะยกมือเป็นพยานให้กับเขา ว่าตลอดระยะเวลาที่ ฮอยดองค์ อยู่ที่นั่นมันมีความพิเศษเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นเสมอๆ ในแต่ละเกมที่เขาลงสนาม
อันดับ 4 แมตธิว เลอ ทิสซิเอร์ เป็นที่ทราบกันดีว่าในทศวรรษที่ 90 แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ศูนย์หน้ามาดละเมียดผู้นี้ คือทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสรเซาแธมป์ตัน และมันก็เป็นแบบนั้น เช่นเดียวกับจำนวนประตูนับโหลที่สุดแสนจะมหัศจรรย์อันเกิดจากการเล่นลูก โอเพ่น เพลย์ จนเขาถูกขนานนามให้เป็นพระเจ้าแห่งความตาย เขามักจะทำอะไรให้มันผิดแผกแตกต่างไปจากคนทั่วไป ในปี 1994 แมตช์ที่พบกับ วิมเบิลดัน เลอ ทิสซิเอร์ จงใจที่จะฝ่าฝืนประเพณีทั้งหมดในการที่จะปั่นฟรีคิกจากระยะหวังผลให้ข้ามกำแพง เขากระดกบอลขึ้นจากพื้น แล้วตัดสินใจฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะ 25 หลาเข้าประตูไปแบบเหนือจิตนการของมนุษย์ธรรมดาจะมี และจนถึงวันนี้ฟรีคิกลูกนั้นของเขายังอยู่ในความทรงจำ
อันดับ 3 ซินิซ่า มิไฮจ์โลวิช ภาพเหตุการณ์ที่คุณมักจะเห็นอยู่เสมอๆ ในโลกของฟุตบอลอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อทีมของคุณตัดสินใจขายซูเปอร์สตาร์ในทีมให้กับทีมคู่แข่ง และในซีซั่นต่อมาเรามักจะได้เห็นเขาเหล่านั้นกลับมาทำประตูทีมเก่าอยู่เสมอๆ มิไฮจ์โลวิช คือหนึ่งในนั้น แฟนๆ ของทีมซามพ์โดเรีย คงยังจำกันได้ ในปี 1998 มิไฮจ์โลวิช ซึ่งในขณะนั้นกลับมายังซามพ์โดเรีย ถิ่นเก่า แต่คราวนี้เขากลับมาในฐานะนักเตะของ ลาซิโอ เขาสามารถทำแฮททริกได้ในเกมวันนั้น ที่แปลกก็คือโดยตำแหน่ง มิไฮจ์โลวิช คือผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ที่แปลกไปกว่านั้นและหาดูได้ยากมากก็คือ 3 ประตูที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากผลงานการสร้างสรรค์ลูกฟรีคิกของแบ็กอดีตทีมชาติเซอร์เบียร์ ผู้นี้ทั้ง 3 ประตู ซึ่งมันไม่ได้ฟลุค 27 ประตูจากลูกฟรีคิกในกัลโช่ เซเรีย อา จนบัดนี้ยังไม่มีใครมาทำลายสถิตินั้นได้
อันดับ 2 จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ มาถึงอันดับ 2 กันแล้วเรากำลังพูดถึงผู้เชี่ยวชาญการยิงลูกนิ่งของ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ เพลย์เมคเกอร์ ชาวบราซิเลี่ยนผู้ที่ถูกจารึกชื่อให้เป็นผู้สร้างสรรค์ฟรีคิกที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ ทันทีที่แสงไฟของฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สว่างขึ้นลูกยิงอันน่าทึ่งของเขาจะปรากฏสู่สายตาแก่ทุกคนอยู่เสมอ ในปี 2006 ลียง ถูกยกให้เป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดในยุโรป และกว่า 45% ของจำนวนประตูที่ ลียง ทำได้ มันมาจากฟรีคิกของ จูนินโญ่ ด้วยฟุตบอลที่มีลักษณะส่าย และเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วขณะลอยอยู่กลางอากาศจนไม่อาจคาดเดาทิศทางของลูกได้ คือเอกลักษณ์เฉพาะ ที่หาใครลอกเลียนแบบไม่ได้ 35 ประตูคือสถิติที่ จูนินโญ่ ทำประตูได้จากลูกฟรีคิกให้กับ โอลิมปิก ลียง
อันดับ 1 เดวิด เบ็คแฮม เมื่อชาติต้องการเขามากที่สุดในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ทีมชาติอังกฤษ ของ เบ็คแฮม ลงเล่นเกมสุดท้ายของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2002 กับกรีซ อังกฤษต้องการหนึ่งประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพื่อแรกกับการได้ตั๋วไปเตะรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ และแล้ว เบ็คแฮม ก็โกงความตายให้กับอังกฤษได้สำเร็จ เขาบรรจงปั่นฟรีคิกลูกนั้นท่ามกลางความกดดัน และความหวังของคนทั้งประเทศ พาทีมชาติอังกฤษทะยานผ่านเข้าไปเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2002 ได้สำเร็จ มันเหมือนพระเจ้าจะลิขิตเอาไว้ล่วงหน้า เพราะท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้น มันมักจะสร้างวีรบุรุษอยู่เสมอ
ชอบฟรีคิกแบบไหน?