นักเรียนดีเด่นขอไปทำงานกรุงเทพฯ ช่วยแม่หาเงิน เกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพพุ่งชน ไม่รู้สึกตัวนาน 15 วัน รักษาตัวนาน 1 ปีไม่ดีขึ้น กลับมีศีรษะปูดบวมใหญ่อีกเท่าตัว แพทย์ระบุต้องใช้เงินค่ารักษาให้หายร่วม 200,000 บาท

 

นางสังวาลย์เล่าว่า ขณะที่น้องลูกหมูสอบปลายภาค ม.5 โรงเรียนสวายจีกพิทยาคม และขอแม่ไปทำงานกับเพื่อนที่กรุงเทพฯซึ่งจะได้ค่าแรงวันละ 210 บาท บอกว่าจะหาเงินช่วยแม่ เพราะแม่ทำงานหนัก จึงอนุญาตให้ไป 

หลังจากทำงานได้ 15 วัน วันที่ 30 มีนาคม 2554 ลูกสาวโทรฯมาบอกจะโอนเงินให้แม่ หลังจากโอนเงินเสร็จได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก ได้มีรถปิกอัพพุ่งชนไม่รู้สึกตัวนาน 15 วัน แพทย์ที่ กทม.บอกว่าสมองด้านซ้ายได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก จากนั้นได้นำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ที่ตนเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลนี้ และจำเป็นต้องออกจากงานมาดูลูกสาว เนื่องจากสามีที่อาชีพขับรถรับจ้างที่กรุงเทพฯหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 4 ปีก่อน
นางสังวาลย์กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนเรียนเก่ง ได้เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.5 ได้รับใบประกาศเกียรติคุณหลายใบ ความฝันของลูกคือเป็นพยาบาล แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน แม้อาการเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่ศีรษะบวม หมอยังช่วยอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ศีรษะยุบตัวก่อนจึงจะนำกะโหลกเทียมใส่ให้ และหากต้องการรักษาให้ดีจะต้องใช้เงินร่วม 200,000 บาท ซึ่งครอบครัวไม่มีเงิน หนี้สินเดิมที่กู้ให้สามีไปออกรถรับจ้างยังใช้ไม่หมด