ตะลึง ปลาทูนับแสนโผล่อ่าวกระบี่
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายวีรพงศ์ นบนอบ นายท้ายเรือกลประจำศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน จ.กระบี่ เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่าพบฝูงลูกปลาทูขึ้นบริเวณปากอ่าวกระบี่และอ่าวกระบี่ ต.ไสไทย อ.เมือง เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อไปตรวจสอบพบว่าจุดที่อยู่ห่างท่าเทียบเรือออกไป 3 กิโลเมตร มีฝูงลูกปลาทูนับแสนตัวจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน 20-30 ฝูง โผล่ขึ้นมาเล่นแสงแดดเหนือผิวน้ำทั่วบริเวณ สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวประมงและนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือโดยสารผ่านไปยังเกาะพีพีเป็นอย่างมาก
นายเจริญ โอมณี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวว่า หลังประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลาวางไข่มาได้ 3 ปี ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนมิ.ย. จะมีปลาทูเข้ามาวางไข่และหาอาหารบริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดกระบี่โดยเฉพาะช่วงคลื่นลมสงบ จากนั้นฝูงปลาทูแรกเกิดขนาดลำตัวยาว 2-3 นิ้ว จะออกมาเล่นแดดกันเป็นฝูงๆ ละ 2-3 หมื่นตัว ปรากฏการณ์ดังกล่าวพบเห็นไม่บ่อยครั้ง ปีนี้มากกว่าทุกปี คาดว่าเป็นผลมาจากการขยายพื้นที่และขยายเวลาประกาศปิดอ่าวเพิ่มจาก 2 เดือนเป็น 3 เดือน ทำให้สัตว์น้ำมีโอกาสวางไข่เลี้ยงลูกและเจริญเติบโต
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ฝูงปลาทูโผล่ผิวน้ำเกิดขึ้นทุกปีในช่วงที่มีการปิดอ่าว ปีที่ผ่านมาพบบริเวณท่าเรือบ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม แต่ปีนี้พบมากเนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างดี ไม่มีเหตุน้ำป่าไหลหลากส่งผลให้มีฝูงปลามากขึ้น อย่างไรก็ตามหากชาวประมงไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ใช้อวนปลากะตักจับปลาตอนกลางวัน จะทำให้ฝูงลูกปลาทูติดอวนไปด้วย ไม่มีโอกาสเจริญเติบโต จึงให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันจับกุมและขอความร่วมมือชาวประมงพื้นบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา จะได้มีทรัพยากรสัตว์น้ำให้ชาวประมงมีกินอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ที่ทำให้ปลาทูได้วางไข่และเติบโตเป็นจำนวนมาก ยังทำให้แมงกะพรุนบริเวณชายฝั่งอ่าวกระบี่เติบโตอย่างสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดกระบี่ นำเรือประมงออกจับแมงกะพรุนจานที่บริเวณริมชายฝั่งอ่าวกระบี่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตั้งแต่ท่าเรือบ้านตลิ่งชัน ไปจนถึงชายฝั่งบ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง มีเรือประมงพื้นบ้านลอยลำจับแมงกะพรุนไม่ต่ำกว่า 50 ลำ จากนั้นนำไปขายให้พ่อค้าที่บริเวณท่าเทียบเรือตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง สาเหตุเพราะปีนี้แมงกะพรุนมีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ตัวละ 5-6 บาท ปีที่แล้วตัวละ 3-4 บาท ชาวประมงจึงหันมาจับแมงกะพรุนมากขึ้น ประมาณ 5,000 บาทต่อวัน