สาวสวย-หน้าตาดี-หุ่นเป๊ะ-ผิวขาววิ้ง ดูจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนนึกถึงเมื่อเอ่ยถึงงานมอเตอร์โชว์ นอกเหนือจากรถรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาอวดโฉมล่อสายตาและดึงดูดเงินในกระเป๋าผู้บริโภค

แน่นอนว่าในงานมอเตอร์โชว์นั้นนอกจากจะโชว์รถรารุ่นใหม่ๆ ลดแลกแจกแถมเพื่อการทำยอดขายของเซลส์แต่ละรายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แต่ละค่ายทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ต่างขนกันมาประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใครก็คือ...พริตตี้

เป็นที่แน่นอนอีกเช่นกันว่า พริตตี้ที่ว่านั้น จะต้องคัดแล้วคัดอีก ต้องประเภทที่หน้าตาดี มีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศสูงพอสมควร มายืนโพสท่าเรียกความสนใจของผู้เข้าชมงาน รวมทั้งแสงแฟลช จากช่างกล้องทั้งหลายแหล่ที่ตระเตรียมเลนส์ประเภทที่ซูมจนเห็นรูขุมขนไปเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ในความเป็นจริงผู้ที่เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ใช่ว่าจะมีแต่หนุ่มๆ แต่มีสาวๆ ที่สนใจเข้าชมงานเช่นกัน

...เอิ่ม...ถ้าได้พริตตี้แบบว่า...เกาหลีๆ มีซิกแพคสักหน่อย สูงๆ ขาวๆ จะดีไม่น้อย

ทว่า ใช่ว่าจะไม่มี!

ในงาน "บางกอก มอเตอร์ โชว์ 2012" ที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ (หนุ่มๆ) คึกคักเป็นที่ยิ่ง ใครที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมีวี่แววว่าจะชอบดูรถ แห่กันไปเที่ยวงานนี้กันหมด...ร้อนจนเลือดกำเดาแทบพุ่ง

แต่มีบูธหนึ่งที่แตกต่างออกไป

บูธ "ฮอนด้าบิ๊กวิง" ส่วนงานจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ของฮอนด้า ที่นำ "พริตตี้บอย" มานำเสนอและโพสท่าเท่ๆ คู่กับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่

นับเป็นปีแรก และเป็นครั้งแรกของค่ายฮอนด้าที่ปิ๊งไอเดีย นำพริตตี้หนุ่มมาเป็นพรีเซ็นเตอร์มอเตอร์ไซค์

"บางทีผู้หญิงที่เข้ามาดูงานมอเตอร์โชว์ก็คงไม่ชอบดูผู้หญิงคนอื่นสวย"

จิรัฏฐ์คุณ อภิธนพนต์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายขายและวางแผนการตลาด ส่วนงานฮอนด้าบิ๊กวิง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวติดจะขำๆ ก่อนจะอธิบายถึงการเลือกผู้ชายมาเป็นคนพรีเซนต์รถแทนพริตตี้ผู้หญิงว่า

เนื่องมาจากปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มจำหน่ายฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมทั้งสโลแกนของฮอนด้าในปีนี้คือ "ชีวิตสนุก ถ้าไม่หยุดค้นหาอะไรใหม่ๆ" ทางฮอนด้าบิ๊กวิงเลยคิดว่าการทำอะไรใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ตัวโปรดักส์อย่างเดียว เพราะความจริงแล้วบรรยากาศในบูธหรือตัวของพริตตี้เองก็น่าจะเสริมอะไรไปได้ จากตรงนี้เอง เลยคิดว่าจะเอาผู้ชายมาคู่กับตัวรถ

"ถ้าเราใช้พริตตี้เป็นผู้หญิง ดูแล้วสบายตาดี แต่คุณจะนึกไม่ออกว่า ถ้าคุณขึ้นไปอยู่บนมอเตอร์ไซค์แล้วจะดูดีขนาดไหน ที่เราต้องการสื่อคือ เมื่อเราอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของฮอนด้าแล้วคุณเท่นะ คุณจะรู้สึกคูลนะ" จิรัฏฐ์คุณบอก

ส่วนความสนใจของผู้เข้าชมงานนั้น จิรัฏฐ์คุณบอกว่า คนให้ความสนใจเยอะนะ เพราะอย่างแรกเลย เท่าที่ได้คุยกับผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ คือ เขาไม่เคยเห็นการนำผู้ชายมายืนคู่กับรถมาก่อนเลย

"เราเป็นบูธเดียวในโซนมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดที่ใช้ผู้ชายมายืนโพสท่ากับรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจอย่างมากโดยเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ เห็นได้จากเวลาที่นั่งโพสท่าอยู่บนตัวรถจะมีตากล้องมาถ่ายรูป แล้วก็มีผู้หญิงมาให้ความสนใจค่อนข้างเยอะ เพราะผู้หญิงจะมองว่าผู้ชายที่อยู่กับมอเตอร์ไซค์จะเท่ ดูดี สังเกตว่าเราไม่ได้ให้ใส่ชุดสูทหรืออะไร ให้ใส่ชุดขี่มอเตอร์ไซค์เลย ให้รู้สึกว่าเป็นของจริงจับต้องได้จริง"

จิรัฏฐ์คุณเล่าถึงเกณฑ์การคัดเลือกนายแบบมาเป็นพริตตี้บอยว่า ต้องเลือกคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วย เพราะต้องสามารถตอบคำถามผู้เข้าชมได้ว่าขี่แล้วเป็นอย่างไร เมื่อตบเกียร์หรือเวลาเร่งเครื่องเป็นอย่างไรบ้าง ต้องสามารถตอบข้อมูลเบื้องต้นได้

ด้าน พริตตี้บอย หนึ่งในสองคนของฮอนด้าบิ๊กวิง ณัชชพัฒน์ สรณ์อัครนนท์ อายุ 22 ปี นักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ชั้นปีที่ 2 ที่ตอบคำถามแรกว่า

จะเรียกตนเองว่า "พริตตี้บอย" ก็ได้

ก่อนจะเล่าต่อว่า เป็นพริตตี้บอยมาหลายงานแล้ว ถ้าจะให้นับก็คงจะนับไม่ถ้วนแล้ว ถึงตอนนี้ก็ทำมาทั้งหมด 3 ปีแล้ว

ณัชชพัฒน์บอกว่า ที่เข้ามาสมัครกับทางฮอนด้าเพราะเป็นบูธเดียวที่เปิดให้ผู้ชายมายืนคู่กับรถ และตัวเองก็ชื่นชอบและขับรถมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว จึงถือเป็นโอกาสดีที่ได้ข้อมูลของรถรุ่นใหม่ๆ ด้วย

"ผมว่าเราเป็นเหมือนนายแบบพรีเซนต์รถ นำเสนอข้อมูลต่างๆ ของรถให้กับผู้เข้าชมงาน เนื่องจากทางบูธต้องการนายแบบ

ที่มีข้อมูลเทคนิคในการขับรถ และสามารถนำเสนอข้อมูลรถได้ อย่างเวลาลูกค้าถามเราก็สามารถตอบได้ว่า ตัวนี้ขับขี่เป็นยังไง อัตราเร่ง หรือการเปลี่ยนเกียร์ หรืออื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราขี่มอเตอร์ไซค์จริง"

ณัชชพัฒน์กล่าวถึงความรู้สึกที่มาเป็นพริตตี้หนุ่มท่ามกลางพริตตี้สาวๆ ในงาน ว่า ไม่รู้สึกเขินครับ เพราะว่าด้วยความที่เป็นผู้ชายก็ต้องอยู่กับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว เลยไม่เขิน

"ผมว่าที่ฮอนด้าให้ผู้ชายมายืนคู่กับมอเตอร์ไซค์อาจเป็นเพราะบุคลิก รูปร่างของตัวรถ เพราะบิ๊กไบค์ก็ถือว่าเป็นรถที่มีขนาดใหญ่"

เรียกว่านอกจากหน้าตาต้องโอเค บุคลิกต้องได้ ยังต้องมีความรู้เรื่องมอเตอร์ไซค์ค่อนข้างละเอียดเพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำและตอบคำถามแก่ผู้สนใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และแน่นอนว่า ค่าตัวของหนุ่มพรีเซ็นเตอร์ของฮอนด้าบิ๊กวิงย่อมไม่เบา

ณัชชพัฒน์ยิ้มๆ ก่อนจะตอบว่า รายได้ไม่แน่นอนครับ แล้วแต่จำนวนงานที่รับ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000-100,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งนอกจากงานนี้แล้ว ยังมีงานเดินแบบ ถ่ายโฆษณา ฯลฯ

จากค่ายฮอนด้า ข้ามฟากไปค่าย ฮุนได ที่แม้จะใช้พริตตี้สาวสวยเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้เข้าชมงาน แต่ในส่วนของแดนซ์โชว์ที่เป็นอีกน้ำจิ้ม เริ่มมีแดนเซอร์หนุ่มๆ เช่นกัน

ดาริกา รัตนานันท์ เจ้าหน้าที่สื่อสาร

การตลาด แผนกการขายและการตลาด บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เล่าว่า เนื่องจากพริตตี้เป็นตัวหลักที่ต้องมายืนคู่กับรถอยู่แล้ว แต่ในส่วนของรถรุ่น "เวลอสเตอร์" ที่เป็นรถประกอบซีรีส์เกาหลี เรื่อง "ซิตี้ฮันเตอร์" พระเอกในเรื่องคือ

"อีมินโฮ" เป็นคนขับและค่อนข้างจะเป็นตัวชูโรงที่ดึงลักษณะของรถคันนี้ออกมา ทางฮุนไดเลยประยุกต์จากการที่จะต้องมีพริตตี้ผู้ชายสักคนเพื่อสื่อถึงอีมินโฮ โดยปรับเป็นแดนซ์โชว์แทน ซึ่งจะมีผู้ชายร่วมเต้นด้วยในส่วนที่สื่อถึงอีมินโฮ

เห็นความสนใจที่ผู้เข้าร่วมชมงานทั้งผู้ชายและผู้หญิงให้ความสนใจกับพริตตี้บอยแล้ว ไม่แน่ว่าคราวหน้าค่ายรถต่างๆ อาจหันมาใช้พริตตี้บอยเป็นผู้นำเสนอรถเก๋งบ้างก็เป็นได้