เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกสถานที่ราชการและสำนักงานของชาวต่างชาติหลายแห่งพร้อมกันในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน เสียงปืนดังระงม และระเบิดดังกึกก้องไปทั่วเมืองมากกว่า 10 ครั้ง นับเป็นปฏิบัติการโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยกลุ่มตาลิบันประกาศตัวเป็นผู้ลงมือ ในวาระเริ่มต้นฤดูก่อการโจมตี

นายซาบิฮุลเลาห์ มูจาห์เอ็ด โฆษกตาลิบันโทรศัพท์ถึงสำนักงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นสารที่ส่งถึงรัฐบาลอัฟกานิสถานและกองทัพชาติตะวันตกที่หนุนหลังด้วย จากเดิมที่มีความเชื่อว่า ตาลิบันจะไม่ก่อเหตุในช่วงนี้ จะได้คิดเสียใหม่

นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อ 13.35 น. ในย่านวาซีร์ อัคบาร์ข่าน ที่ตั้งของฐานทัพกองกำลังนาโต้ ขณะเดียวกันกลุ่มติดอาวุธพยายามบุกเข้าไปในรัฐสภา แต่เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ไว้ได้ ขณะที่เกิดเหตุระเบิดในบริเวณสถานทูตอังกฤษและเยอรมนีจนกลุ่มควันพวยพุ่ง ส่วนสถานทูตแคนาดาและญี่ปุ่น รวมถึงสำนักงานธนาคารโลกถูกโจมตีด้วยจรวดอาร์พีจีเช่นกัน ด้านเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกันแจ้งว่า ถูกโจมตีในบริเวณใกล้เคียงกับอาคารสถานทูต

ด้านเอพีและเอเอฟพีรายงานว่ามีกลุ่มติดอาวุธเข้ายึดโรงแรม "คาบูลสตาร์" ที่เพิ่งสร้างเสร็จและอยู่ใกล้สถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ฐานทัพสหรัฐ สำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกัน โดยคนร้ายยิงปืนและจรวดออกมาเป็นระยะๆ ทำให้เกิดการต่อสู้จนไฟลุกท่วมบางส่วนของโรงแรม ซึ่งการโจมตีเหล่านี้เกิดขึ้นในเขตที่ไม่ค่อยมีเหตุรุนแรงมาก่อนหน้านี้ และปกติมีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์อยู่จำนวนมาก

นอกจากนี้ มีรายงานว่ากลุ่มตาลิบันโจมตีเมืองทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ได้แก่ โลการ์ ปักเตีย และนันการ์ฮาร์ กลุ่มติดอาวุธบุกเข้าอาคารของรัฐ และยิงดวลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนที่เมืองจาลาลาบัด กลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีสนามบินด้วยวิธีระเบิดพลีชีพ