เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 เม.ย. ที่บ้านสร้างประทาย อ.เมือง จ.หนองคาย มีควายเพศเมียตกลงแฝด เป็นที่ฮือฮาไปทั่วหมู่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบพบเป็นบ้านของนายสอน พาณุรัตน์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 101 ม.19 ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย โดยมีชาวบ้านจำนวนมากรุมล้อมดูแม่และลูกควายเพศผู้อีก 2 ตัว อยู่ใต้ต้นไม้ข้างบ้าน ซึ่งลูกควายตัวหนึ่งลักษณะมีสีทอง ส่วนอีกตัวหนึ่งมีสีเงิน ซึ่งนางจันใด พาณุรัตน์ อายุ 57 ปี ภรรยานายสอนฯได้นำพวงมาลัยมาคล้องคอให้กับลูกควายทั้ง 2 ตัว

นางจันใด กล่าวว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นายสอนและตนซื้อควายตัวแม่มาจากพ่อค้าควายคนหนึ่งที่นำมาขายให้กับโรงฆ่าสัตว์ แต่แม่ควายตัวนี้ทางโรงฆ่าเขาไม่ซื้อเนื่องจากมีรูปร่างผอมมาก โดยซื้อมาในราคา 14,500 บาท จึงนำมาเลี้ยงและดูแลเป็นอย่างดีจนรูปร่างอ้วนขึ้น ในระหว่างที่นำมาเลี้ยงสังเกตเห็นว่าเป็นควายที่เชื่องมาก ไม่เคยเข้ารั้วสวนของใคร ไม่พาไปไหนก็จะไม่ไปห่างไกลจากพวกตน ปีแรกเคยตกลูกเป็นตัวผู้ 1 ตัว พอปีที่ 2 ให้ลูกเป็นตัวเมีย 1 ตัว ต่อมาได้ขายลูกตัวผู้(ตัวแรก)ให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงในราคา 14,000 บาท ยังเหลืออีกเพียง 500 บาทก็จะได้เงินทุนที่ซื้อแม่ควายมา

นางจันใด กล่าวว่า สำหรับลูกคอกที่ 3 นี้ สังเกตเห็นว่าท้องโตผิดปกติและเห็นว่าตัวแม่ไม่ค่อยจะเดินเหินมากนักอาจเป็นเพราะท้องโตคงเดินลำบาก จึงจัดหาหญ้าและน้ำมาให้กิน กระทั่งเวลา 09.15 น.วันที่ 14 เม.ย. ตนพร้อมครอบครัวซึ่งตั้งและเป็นเจ้าภาพผ้าป่าได้แห่กองผ้าป่าไปวัด เมื่อถึงหน้าโบสถ์หลานวิ่งไปตามว่าควายกำลังออกลูก ตนจึงรีบกลับมาดูก็พบว่าขากำลังโผล่ออกมาจึงช่วยทำคลอดแกะเล็บเป็นที่เรียบร้อยแล้วกลับไปวัดเพื่อถวายผ้าป่าจนเสร็จและรีบกลับมาที่บ้านพบว่าแม่ควายกำลังให้ลูกควายอีกตัวหนึ่งจึงช่วยทำคลอดจนแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นลูกควายเพศผู้ทั้ง 2ตัว

"ที่แปลก คือ ลูกควายตัวแรก(ตัวน้อง)มีขนสีทอง ส่วนตัวที่สอง(ตัวพี่)มีขนสีเงิน ทำให้ดีใจจนบอกไม่ถูกเพราะเกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็นควายให้ลูกแฝด ได้ตั้งชื่อลูกควายทั้ง 2 แล้ว คือ ตัวน้องที่ออกมาก่อน ชื่อ “ผ้าป่า” ส่วน ตัวพี่ที่ออกมาทีหลัง ชื่อ สงกรานต์ จะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันชาวบ้านได้ตีเป็นหวยตามบ้านเลขที่ และวันที่ควายตกลูกเป็น 47 และ 14 "นางจันใดกล่าว