ในแทบทุกหนแห่งบนโลกใบนี้ มักจะมีพื้นที่แบ่งเขตระหว่างคนเป็นกับคนตายไว้อย่างชัดเจน นั่นคือ คนเป็นก็ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน ส่วนคนตาย ก็มีการจัดสรรสุสานไว้ให้โดยเฉพาะ แต่ใครเลยจะรู้ว่า ณ ชุมชนแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ที่เรานำเรื่องราวมาฝากกันวันนี้ คนเป็นใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่เดียวกันกับคนตายอย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้คนกลัวผีมีขนลุกซู่ไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว
โดย ชุมชนสุสานแห่งนี้ เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ มีศพถูกขนเข้ามาเก็บไว้เฉลี่ยวันละ 70-80 ศพ และเป็นที่ฝังและเก็บศพของชาวเมืองนับล้านมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว แต่ 30 กว่าปีที่ผ่านมานี้ มันกลับกลายเป็นชุมชนของคนยากจนจำนวนกว่า 10,000 คน ที่สู้ค่าเช่าบ้านไม่ไหว จึงเลือกใช้สุสานเป็นทำเลในการตั้งบ้านเรือนและใช้ชีวิตอยู่กันอย่างง่าย ๆ ใคร จะคิดว่าสุสานเป็นที่เฉพาะของคนตาย พวกเขาไม่สน พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่กับศพนับพันนับหมื่น ลบเส้นกั้นระหว่างคนเป็นกับคนตายออกไป แล้วทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นที่ที่คนเป็นคนตายอยู่รวมกันได้อย่างกลม กลืน
สำหรับ สภาพภายในของสุสานแห่งนี้ ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อยมากมาย ผู้คนอาศัยกันอยู่ด้านบนโรงเก็บศพบ้าง หรือบางคนก็ดัดแปลงโรงเก็บศพให้เป็นบ้านไปเลยก็มี และไม่เพียงแค่นั้น บางมุมของสุสานยังถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของชำไว้บริการชาวสุสานแห่งนี้ มีขายกันทั้งบัตรโทรศัพท์ อาหาร เครื่องดื่ม ขนมนมเนยต่าง ๆ รวมไปถึงเทียนสำหรับให้แสงสว่างในจุดที่ไฟฟ้าไปไม่ถึง
ส่วนผู้คนที่อาศัยอยู่ในสุสานแห่งนี้ ส่วนใหญ่ก็มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำศพ โดยเด็กวัยรุ่นมักจะรับจ้างหามโลงศพมาเก็บ ส่วนผู้ชายวัยผู้ใหญ่นั้นก็มักจะรับจ้างนำซากศพที่เก็บไว้เป็นเวลานานแล้วไป ใส่กระสอบ แล้วทำความสะอาดห้องเก็บศพเพื่อนำศพใหม่เข้ามาเก็บไว้ ขณะที่ผู้หญิงนั้น ส่วนใหญ่ก็จะช่วยทำความสะอาดและดูแลศพ รวมทั้งเก็บเศษขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ไปขาย และนอกจากผู้คนที่นี่จะทำอาชีพเกี่ยวกับศพแล้ว หลายคนยังมีอาชีพอื่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่างเสริมสวย ช่างตัดเสื้อ หรือ ครู อาจารย์ ก็ยังมี
อย่างไรก็ดี ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าทางการฟิลิปปินส์ได้ใช้ความพยายามในการจัดหาบ้านเช่าราคาถูกให้กับผู้ คนเหล่านี้แล้ว แต่ปรากฎว่า หลายครอบครัวไม่เลือกที่จะไปอยู่ในที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ที่ถูกจัดสรรอย่าง เป็นที่เป็นทางและสบายกว่า กลับยืนยันที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสุสานแบบนี้ต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่า พวก เขาเกิดและเติบโตในสุสาน บางคนก็ใช้ชีวิตในสุสานมากว่า 30 ปีแล้ว ดังนั้น สุสานจึงเป็นบ้านของพวกเขา และไม่มีที่ไหนที่จะทำให้พวกเขามีความสุข สบายใจ ได้มากไปกว่าที่นี่อีกแล้ว