วันที่ 10 เม.ย. เดลี่เมล์รายงานเรื่องราวสยองขวัญของป่าอาโอกิงาฮาระบริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่พบศพอย่างน้อย 100 รายทุกปี และคาดว่ามีอีกหลายศพที่หาไม่พบ โดยยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมผู้ที่คิดสั้นจึงเลือกป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ปลิดชีวิต

นายอาซูสะ ฮายาโนะ นักธรณีวิทยาที่ศึกษาป่าแห่งนี้และศึกษาเกี่ยวกับศพ แม้ชาวบ้านจะมองว่าเป็นคนแปลกหรือเพี้ยน แต่ทุ่มเทกับงานนี้มากว่า 30 ปี กล่าวระหว่างนำทีมถ่ายทำสารคดีเข้าไปยังบริเวณที่ลึกที่สุดของป่าว่า กว่า 20 ปีตนพบศพทั้งบนต้นไม้และตามทางเดินกว่า 100 ศพ คาดว่าการที่ป่าแห่งนี้ถูกใช้ถ่ายทำนวนิยายอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเลือกมาที่นี่ แต่ตนก็ไม่ทราบเหตุจูงใจที่แน่ชัด โดยตนพยายามรวบรวมร่องรอยและพยานหลักฐานที่ผู้ตายทิ้งไว้เพื่อวิเคราะห์ว่าขณะนั้นผู้ตายคิดอย่างไร บางคนเข้ามาแล้วเปลี่ยนใจ เช่น บางคนติดเทปกาวตามเส้นทางเดินที่เข้ามาเพื่อจะได้กลับออกไปถูกหากเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตาย แต่ส่วนใหญ่พอเดินไปตามเส้นทางที่ติดเทปกาวจะเจอศพ

นายฮายาโนะกล่าวอีกว่า มีกรณีหนึ่งที่พบรถจอดทิ้งไว้ชายป่าหลายเดือน และมีแผนที่กางบนเบาะหน้า แบบนี้แสดงให้เห็นว่าตั้งใจมาฆ่าตัวตาย บางครั้งตนเจอเต็นท์เปล่า คาดว่าคงเกิดความลังเลใจอยู่นาน แต่หาศพบริเวณนั้นไม่พบ โดยพบเพียงตุ๊กตาปักเข็มหมุดบนต้นไม้แทน ซึ่งเป็นวิธีสาปแช่งตามความเชื่อโบราณ ตนเชื่อว่าคนดังกล่าวคงโกรธแค้นบางอย่างมา

 นอกจากนี้ ระหว่างการถ่ายทำสารคดียังพบหนุ่มคนหนึ่งมาตั้งเต็นท์ ซึ่งนายฮายาโนะเข้าไปกล่อมว่าอย่าแขวนคอตาย ให้มองโลกในแง่ดีและใจเย็นๆ แต่ชายคนนั้นยืนยันว่าแค่มาตั้งแคมป์ แต่นายฮายาโนะยืนยันกับทีมสารคดีว่ามองแล้วรู้เลยว่านี่คือคนที่จะมาฆ่าตัวตาย และตอนท้ายของการถ่ายทำ นายฮายาโนะยังพาไปพบโครงกระดูกที่ยังใส่เสื้อผ้าและรองเท้า เป็นฉากจบสารคดีที่เดลี่เมล์ระบุว่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง

 ข่าวระบุว่า ในป่าแห่งนี้มีการปักป้ายไว้ตามเส้นทางเดินชมธรรมชาติเพื่อเตือนสติคนที่คิดสั้น โดยเป็นป้ายที่มาจากองค์กรป้องกันการฆ่าตัวตายของญี่ปุ่น ในป้ายตรงทางเข้ามีข้อความว่าชีวิตของคุณเป็นของขวัญที่มีค่าจากพ่อแม่ กรุณาคิดถึงพ่อแม่ คู่ชีวิต และลูกๆ และอย่าเก็บปัญหาไว้กับตัว จงระบายออกมาŽ

 นายฮายาโนะกล่าวเพิ่มเติมว่า รูปแบบการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาจากวิธีฮารีคีรี หรือคว้านท้อง ตนเชื่อว่าสังคมในยุคออนไลน์ ที่มีแต่ความโดดเดี่ยว เป็นสาเหตุทำให้อัตราฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ตลอด 14 ปีที่ผ่านมามีคนญี่ปุ่นฆ่าตัวตายปีละ 30,000 ราย ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจและความเครียด