สงกรานต์เลือด! โหรเตือนปีนี้มีเกณฑ์เกิดความรุนแรง
โหรชื่อดังทำนายนางสงกรานต์ "กิมิทาเทวี" ดุ-แรง ถืออาวุธประหารคนชั่ว แผ่นดินนองเลือด ชี้ภายในปีนี้จะเกิดชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาลลุแก่อำนาจ หลัง 21 เม.ย. กองทัพเข้มแข็งเป็นที่พึ่งได้
นายกรหริศ บัวสรวง โหราจารย์ชื่อดัง เปิดเผยว่า วันมหาสงกรานต์ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน นางสงกรานต์มีชื่อว่า กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จนอนลืมตามาเหนือหลังกระบือ โดยมีคำทำนายว่า บ้านเมืองจะเกิดไฟสงคราม ฆ่าฟันกันและฉิบหายเป็นอันมาก จากการวิเคราะห์ตีความบุคลิกลักษณะนางสงกรานต์ประจำปีนี้ประกอบกับการโคจรเคลื่อนย้ายของดวงดาวที่สำคัญแล้วพบว่า คำทำนายของตำราโบราณมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง เพราะนางสงกรานต์ปีนี้มีนิสัยดุดัน มือขวาถือพระขรรค์ ซึ่งเป็นอาวุธประจำเทพเทวดา พระสยามเทวาธิราชและพระมหากษัตริย์ อาวุธนี้ใช้ประหัตประหารคนชั่วที่ทรยศแผ่นดิน จึงอาจเกิดเหตุนองเลือดหรือใช้กำลังต่อสู้ปะทะกันอย่างรุนแรง มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
นายกรหริศ กล่าวว่า เมื่อแปลความหมายของชื่อนางสงกรานต์กิมิทาเทวี แปลว่า หนอน ซึ่งอยู่ในของเน่าเหม็น โดยส่วนตัวบอกได้เลยว่า ประเทศชาติมีหนอนบ่อนไส้ คนไทยบางส่วนมีพฤติกรรมสกปรกโสมมทำให้บ้านเมืองเน่าเฟะเหม็นโฉ่ อีกทั้งวันมหาสงกรานต์อยู่ในช่วงข้างแรม ก็จะมีสิ่งหม่นหมอง ดำมืด หรือความชั่วร้ายแผ่ปกคลุมบ้านเมืองจนแทบจะมองไม่เห็นแสงสว่าง อย่างไรก็ตาม นางสงกรานต์ถือพิณอยู่ในมือซ้าย ก็มีความหมายว่าจะต้องรู้จักเดินสายกลางเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤติ สมัยพุทธกาลก่อนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ก็ได้สดับเสียงพิณที่ขึงพอดีจึงมีเสียงไพเราะ จึงมองเห็นทางสายกลางนำไปสู่การตรัสรู้ได้ ดังนั้นผู้มีอำนาจบริหารประเทศต้องไม่ลุแก่อำนาจ ไม่ใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบธรรม มิเช่นนั้นจะถูกพระขรรค์ประหารกวาดล้างให้ตายไปตามกัน
"นางสงกรานต์เสด็จนอนลืมตาบนหลังควาย ทำนายได้ว่า คนไทยยังไม่สงบสุข เพราะนางสงกรานต์นอนไม่หลับ มีความวิตกกังวลเหมือนคนไม่สบาย แถมยังมีพาหนะเป็นควาย ซึ่งเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม จึงต้องระวังภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นรุนแรง เพราะรัฐบาลบริหารจัดการน้ำไม่เป็น กลัวน้ำท่วมก็รีบระบายน้ำในเขื่อนจนไม่เก็บเผื่อไว้ใช้ในหน้าแล้งนี้" นายกรหริศกล่าว
โหรชื่อดังกล่าวอีกว่า ในแง่ของการโคจรดวงดาวที่สำคัญ เริ่มต้นโดยดาวเสาร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาล ย้ายเข้าไปอยู่ในภพที่ 5 หรือภพอริ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรค การทำงานไม่ราบรื่นและจะมีประชาชนทุกกลุ่มตั้งแต่รากหญ้าจนถึงยอดหญ้าไม่พอใจรัฐบาลและมีปฏิกิริยาต่อต้านหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นรวมตัวชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลภายในปีนี้ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล
"ขณะนี้ดาวอังคารโคจรวิปริต ดาวอังคารเป็นตัวแทนสงคราม หลังวันที่ 12 เมษายนเป็นต้นไป ดาวเสาร์ ซึ่งเป็นธาตุไฟ โคจรใกล้ดาวอังคาร ธาตุลม จะทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่บนตึกสูงเกิดขึ้นหลายครั้งทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ผมก็จะได้ทำนายเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะมีเหตุไฟไหม้มากที่สุด รวมทั้งอุบัติเหตุทำให้มีคนตายหมู่" นายกรหริศกล่าว
ส่วนในวันที่ 15 พฤษภาคม ดาวพฤหัสบดีโคจรย้ายมาอยู่ในภพที่ 2 ของดวงเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเงิน การคลัง และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การย้ายครั้งนี้อยู่ในตำแหน่งไม่ดีคือ บรรลัยจักร จะทำให้เศรษฐกิจพังเสียหายย่อยยับ และยังถูกดาวราหูเล็งดาวพฤหัสบดี ยิ่งทำให้เกิดเงินรั่วไหลหรือทุจริตคอรัปชั่นอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย อีกทั้งเนื่องจากดาวพฤหัสบดียังเป็นตัวแทนของกฎหมายด้วย ดังนั้นหากรัฐบาลยิ่งเร่งแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้มีประชาชนต่อต้านและเกิดเหตุรุนแรงเร็วขึ้น
ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า การโคจรของดวงดาวที่สำคัญในช่วงสงกรานต์คือ ดาวพระอังคารกำลังโคจรถอยหลังอยู่ในราศีสิงห์ ซึ่งเป็นธาตุไฟ ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์จนถึงเดือนมิถุนายน ตามคัมภีร์อรรถสาลินีพยากรณ์ว่า จะเกิดความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ระมัดระวังปัญหาสุขภาพและโรคเจ็บป่วยร้ายแรงจะแพร่ระบาดรุนแรง บ้านเมืองจะเกิดความเสียหายวอดวาย พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน และพสุธาแตกแย่งแบ่งเป็นสองคือ ผู้คนแตกความสามัคคีและจะเกิดแผ่นดินไหว ลมพายุวิปโยค ทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย
"ดวงเมืองจะมีอายุครบ 231 ปีเต็ม ในวันที่ 21 เมษายนนี้ จะส่งผลให้กองทัพทหารมีความเข้มแข็งมากขึ้นและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ซึ่งขณะนี้ดวงทหารยังอยู่ในสภาพอ่อนแอ ประชาชนต้องอดทน ดาวอังคารจะเป็นมนตรี หมายถึงเป็นที่พึ่งหรือปกป้องคุ้มครองประเทศชาติได้" นายภิญโญกล่าว