จับแล้ว5มือบึ้มใต้

ขึ้นค่าหัวเป็น2ล. ระเบิดหาดใหญ่

รวบแล้ว 5 แก๊งคาร์บอมบ์หาดใหญ่-ยะลา ส่งสอบเครียด ขยายผลจับกุม สงขลาเพิ่มค่าหัวมือบึ้มอีก 1 ล้าน นักวิชาการดาหน้าหนุนเจรจาหาทางออกดับไฟใต้ อังคณาจี้รัฐต้องมีเอกภาพ แก้ปัญหาด้วยสันติ พร้อมรับฟังคนในพื้นที่ มท.1 หนุนกระจายอำนาจ ส่งเสริมท้องถิ่นให้มีอำนาจมากขึ้น หาดใหญ่-ยะลา สั่งตรวจเข้มทั้ง 4 มุมเมือง รวมทั้งรถเข้าออก ลุยตรวจสอบตามหมายจับ พร้อมตั้งเซฟตี้โซนคุมเข้ม 24 ชั่วโมง สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว เผยจ่ายชดเชยเหยื่อเท่ากับ 3 จว.ใต้ ยินดีน้องกัณต์วัย 2 ขวบ พ้นขีดอันตราย บิ๊กอ๊อดห่วงก่อเหตุอีกถึงพ.ค. รับอภิปรายไฟใต้ได้ แต่ขออภิปรายลับ บัน คีมุน แถลงการณ์ประณามมือระเบิด

ปูพร้อมถกไฟใต้ในสภา

เวลา 17.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่ท่าอากาศ ยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านเสนอให้เปิดประชุมสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปในวาระแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เรายินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกส่วนที่จะร่วมกันแก้ปัญหา เมื่อถามว่าจะพร้อมเปิดอภิปรายหรือไม่ นายกฯ กล่าวเพียงว่า ขอทำงานก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน ขอเวลาทำงาน เพราะเราต้องได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงก่อน แต่ยินดีรับฟังข้อคิดเห็น

เมื่อถามว่าจะเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงเพื่อเตรียมพร้อมช่วงสงกรานต์เมื่อไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้ แต่ขอทำการติดตามกับหน่วยงานที่รับผิดชอบลงไปว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง

เหลิมสั่งระวังอีสเตอร์ยิว

ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า นายกฯ มอบให้ตนรับผิดชอบงานด้านการข่าว ทั้งนี้ การข่าวไม่ได้รายงานให้เฝ้าระวังอะไรเป็นพิเศษในช่วงสงกรานต์ แต่ในพื้นที่กทม.ก็ต้องระวังและไม่ประมาท เพราะต่างประเทศเขาทะเลาะกัน เราต้องเป็นกลางไม่ยุ่งกับใคร แต่ถ้ามาทำผิดกฎหมายในบ้านเราก็ยอมไม่ได้ โดยเฉพาะในวันที่ 6 เม.ย. เป็นวันอีสเตอร์ของประเทศอิสราเอล ตนกำชับให้ตำรวจเข้มงวดในพื้นที่ล่อแหลม ขณะนี้ให้เฝ้าระวังเพิ่มเติมที่ซอยเดวิด ย่านสุขุมวิท และถนนรามคำแหง แม้สถานการณ์ภาพรวมจะยังไม่ได้มีสิ่งบอกเหตุก็ตาม

บิ๊กอ๊อดห่วงช่วงมี.ค.-พ.ค.

เมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตือนให้เฝ้าระวังเหตุรุนแรงในช่วงปลายเดือนมี.ค. กลางเดือนเม.ย. และต้นเดือนพ.ค.ที่จะมีกิจกรรมหลายงาน เช่น เทศกาลสงกรานต์ การประชุมองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) และจะมีการปฏิบัติการเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ ว่า เป็นการเตือนให้ระวัง เพราะคนที่คิดปลุกปั่นจ้องจะก่อเหตุในช่วงนี้ หากสำเร็จก็จะได้รางวัลเป็นเงินสนับสนุนจากต่างชาติ อย่างไรก็ตามยังไม่มีข่าวว่าจะก่อเหตุนอกพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะยังเป็นพื้นที่เป้าหมายอยู่ รัฐบาลจึงต้องทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะด้านการข่าว และต้องบูรณาการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะหารือกับนายกฯ หลังจากกลับจากต่างประเทศ โดยให้เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ชี้แจงการทำ งานกับรัฐมนตรีทั้ง 19 กระทรวง เพื่อได้รับรู้ว่าตัวเองต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง

ตามคาร์บอมบ์อีก 10คัน

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเรื่องความคืบหน้าของคดี ตำรวจทราบแล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ และออกหมายจับหัวโจกบางรายแล้ว บางคนอยู่ระหว่างติดตามตัว และทราบว่ายังอยู่ในประเทศ โดยจะรวบรวมภาพถ่าย ระบุตัวบุคคลออกมาให้ชัดเจน ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุมีหลายกลุ่ม ทุกกลุ่มอยากมีความหมายและอยากมีความสำคัญในการปฏิบัติการ

เมื่อถามถึงการข่าวระบุมีรถต้องสงสัยประกอบระเบิดคาร์บอมบ์เหลืออีก 10 คัน พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังติดตามอยู่ รถที่ต้องสงสัยประกอบเป็นคาร์บอมบ์อีกหลายคัน ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ จากนี้จะต้องลงทะเบียนยานพาหนะ รวมทั้งวางมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ทั้งการเข้าออก การจอดรถในแต่ละพื้นที่ อีก 2-3 วัน ตนจะไปประชุมเรื่องนี้ และต้องดูว่าเป็นกรณีที่มีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ เพราะช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นเช่วงเวลาที่เปลี่ยนรปภ. และเอารถเข้าไปจอดพอดี

เสนอขออภิปรายลับ

เมื่อถามว่าเหตุระเบิดในอนาคตจะพัฒนาเป็นระเบิดพลีชีพหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น ส่วนที่มีข่าวว่ามีนักการเมืองเข้าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนยังไม่มีข่าวในเรื่องนี้ กำลังตรวจสอบอยู่ เมื่อถามว่ามีข่าวว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เจรจากับกลุ่มนายสะแปอิง แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็นเดิม พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวเลี่ยงว่า ขออนุญาตไม่พูดเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเพราะมีการล้มโต๊ะเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไม่จริง ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเสนอให้เปิดการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติหารือเกี่ยวกับเหตุระเบิดในภาคใต้นั้น ส่วนตัวไม่ขัดข้องและพร้อมชี้แจง แต่ขอให้เป็นการประชุมลับ ถ้าไม่ประชุมลับก็คงจะพูดในรายละเอียดไม่ได้

ยงยุทธยัวะผวจ.ทำขายหน้า

ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกระทรวงผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมร่วมกับผู้ว่าฯทั่วประเทศ โดยเน้นย้ำให้รายงานสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพราะบางครั้งนายกฯ ทราบสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ก่อน ขณะที่ตนไม่รู้เรื่องทำให้ขายหน้า ดังนั้นผวจ.ต้องทันท่วงที

มท.1 หนุนกระจายอำนาจ

นายยงยุทธให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายเรื่องเขตปกครองพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า คิดอยู่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากจะปรับเป็นพื้นที่เขตปกครองพิเศษคงไม่มี ถ้าจะมีคงเป็นเรื่องของการทำอย่างไรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหาร และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนเอง ให้มากขึ้น ทำอย่างไรที่รัฐบาลจะทำให้การปกครองท้องถิ่นของ 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ เข้มแข็ง เป็นองค์กรของประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง หากทุกอย่างเกิดความเข้มแข็ง ประชาชนก็จะดูแลท้องถิ่นของตนเองได้ดีกว่าที่จะให้ภาครัฐเข้าไปดูแลฝ่ายเดียวโดยพยายามหารูปแบบที่เหมาะสมในการกระจายอำนาจการบริหาร โดยเป็นรูปแบบที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ซึ่งจะต้องหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันพระปกครอง ผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้นำศาสนาต่อไป

ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้ช่วยรมว. มหาดไทย กล่าววว่า ผวจ.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องตั้งศูนย์ปฏิบัติงานดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หากมีเหตุต้องดำเนินการทันที และเป็นห่วงศาลากลางทุกจังหวัด เพราะถือเป็นที่ทำงานของผวจ.หากเกิดระเบิดเท่ากับไม่มีอำนาจอะไรเหลืออยู่


น้ำพระทัย - ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โปรดให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้แทนพระองค์เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.



กอ.รมน.ปัดตอบเจรจา

ที่ บก.ทบ.พล.ต.ดิฎฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการพูดถึงกันมาก ว่า กอ.รมน. ไม่มีความเห็น เราปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล ตามหน้าที่ ส่วนความคืบหน้าของการลอบวางระเบิดที่ โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ซึ่งจะต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการค้นหาความจริง

ประยุทธ์สั่งตรวจเข้มพื้นที่

เวลา 09.00 น. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เน้นย้ำในเรื่องการตรวจสอบข้อมูลบุคคลและยานพาหนะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรมีการกำหนดมาตรการควบคุมบุคคลและยานพาหนะ สำหรับในพื้นที่ย่านชุมชน โรงเรียน ตลาด จะต้องมีมาตรการเข้มงวดตลอดเวลา เช่น การเปิดเบาะรถมอเตอร์ไซค์ทุกคัน และหากจำเป็นต้องจัดทำพื้นที่ปลอดภัยเพิ่มเติมจะต้องชี้แจง สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็น ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งอาจสูญเสียความสะดวกสบายไปบ้าง ให้หน่วยเฉพาะกิจที่มีความพร้อมด้านกำลังพลกดดันผู้ก่อเหตุรุนแรงให้มีประสิทธิภาพ และเป็นเอกภาพในทุกหน่วยงาน และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยไม่สร้างเงื่อนไขที่จะเป็นประเด็นเข้าสู่องค์กรสหประชาชาติ หรือโอไอซี เช่น การละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน หรือการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

"เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประณามการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรสิทธิต่างๆ ควรออกมาประณาม และปกป้องสิทธิมนุษยชนของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด แต่กลับไม่มีองค์กรใดๆ ออกมาเรียกร้องเพื่อปกป้องสิทธิเลย ความจริงผู้ก่อเหตุรุนแรง กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์มาโดยตลอด จึงจำเป็นต้องนำกฎหมายพิเศษบางฉบับมาบังคับใช้ในพื้นที่ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อปกป้อง คุ้มครองชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ และใช้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่จะนำไปสู่การดำเนินคดีต่อไป" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

สั่งกำหนดเซฟตี้โซน

ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.สงขลา กล่าวว่า จำเป็นต้องกำหนดเซฟตี้โซน ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ให้ชัดเจน โดยให้ตำรวจเป็นหลักในการกำหนดพื้นที่และกรอบเวลา และมอบให้ปลัดจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัย บริเวณสนามบินนานา ชาติหาดใหญ่ สถานีรถไฟหาดใหญ่ สถานีขนส่งผู้โดยสารและอาคารสถานที่ราชการ ให้มีการตรวจสอบความพร้อมใช้กล้องซีซีทีวี ทุกพื้นที่ของอ.หาดใหญ่เป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และชี้แจงให้ทุกภาคส่วนรับทราบสถานการณ์ที่เป็นจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์

เกณฑ์เยียวยาเหมือนจชต.

นายกฤษฎากล่าวว่า การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติของครม.เมื่อปี"48 โดยผู้เสียชีวิตหรือเป็นข้าราชการรายละ 5 แสนบาท ส่วนประชาชนรายละ 1 แสนบาท บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวเกิน 20 วัน จ่าย 5 หมื่นบาท น้อยกว่า 20 วัน จะลดหลั่นกันไป ในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ช่วยเหลือให้กับผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 337 คนไปแล้ว รายละ1.4 หมื่นบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน

เด็ก 2 ขวบพ้นขีดอันตรายแล้ว

รายงานข่าวว่า ผู้บาดเจ็บที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ มี 54 ราย ผู้ป่วยหนัก 19 ราย ส่วนอาการของ ด.ช.กันต์ณภัทตร์ อินทรสุวรรณ อายุ 2 ขวบ พ้นขีดอันตรายแล้ว แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก แต่ยังมีอาการปอดติดเชื้อ มีเสมหะและหลอดลมบวม คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะออกจากโรงพยาบาล แต่ต้องระวังเรื่องปอดติดเชื้อซ้ำซ้อน

เผยจับมือบึ้มหาดใหญ่ได้แล้ว

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดที่โรงแรมลี การ์เดนส์ ว่า รับรายงานว่าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดด้วย จึงให้เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการใน อ.หาดใหญ่ ส่วนเรื่องก่อเหตุรายวันที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะปรับแผนใหม่ จากตั้งรับมาเป็นรุก ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ไม่ใช่ว่าพอไฟลุกแล้วถึงจะมาดับไฟ

เปิดแผนคุมเข้ม"หาดใหญ่"

ที่ห้องประชุมหอการค้าจ.สงขลา พล.ต.อ. สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร.พล.ต.อ. ฉัตรชัย โปตระนันท์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ประชุมร่วมนายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา และตัวแทนภาคธุรกิจในอ.หาดใหญ่ทุกฝ่าย เพื่อกำหนดมาตร การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อ.หาดใหญ่ร่วมกัน เพื่อฟื้นฟูบรรยากาศการท่องเที่ยวและเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์โดยเฉพาะในระยะสั้นก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์

พล.ต.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า จะตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักทั้ง 4 สาย รวมทั้งสายรองและเส้นทางลัดอีกอย่างน้อย 40 เส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง เน้นการตรวจค้นรถยนต์และบุคคลต้องสงสัย ป้องกันการเข้ามาก่อเหตุ โดยใช้กำลังทั้งฝ่ายตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมกัน นอกจากนี้จะกำหนดโซนนิ่งพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ให้เป็นสัดส่วน และรถยนต์ที่ติดแก๊สห้ามลงไปจอดชั้นใต้ดินของโรงแรมหรือศูนย์การค้าเด็ดขาด รวมทั้งตรวจเช็กสภาพความพร้อมของกล้องวงจรปิดทุกจุดในเมืองหาดใหญ่ กว่า 100 ตัว ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมทั้งนำสุนัขดมกลิ่นเข้ามาตรวจหาวัตถุระเบิด และจัดอบรม รปภ.ตามสถานประกอบการต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการตรวจและสังเกตรถต้องสงสัยและป้ายทะเบียนปลอมซึ่งจะจัดอบรมในวันที่ 10 เม.ย.

จี้รัฐประกันนักเที่ยว 10 ล.

นายสุรชัยเผยว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจขณะนี้ประมาณ 800 ล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยกเลิกการเดินทางทั้งหมด และชาวมาเลเซียยกเลิกบางส่วน เช่นเดียวกับนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนในหาดใหญ่ก็ยกเลิกทั้งหมด ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ต้องการให้รัฐประกันภัยให้นัก ท่องเที่ยวคนละ 10 ล้านบาท กรณีเกิดเหตุวินาศกรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น การรักษาความปลอดภัยจะต้องครอบคลุมสถานที่สำคัญโดยเฉพาะสนามบิน ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวนั้น จะเชิญสื่อมวลชนมาเลเซียมาดูพื้นที่จริงและมาตรการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ เพราะข่าวที่ออกไปนั้นคลาดเคลื่อนและเสียหาย

ตามติดคดีรถหาย

พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวถึงคดีรถยนต์หายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องยกให้เป็นคดีสำคัญ เนื่องจากรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมาทั้งสิ้น และรถที่แจ้งหายจะต้องมีการรวบรวมทำเป็นรูปเล่ม แจกจ่ายให้สายตรวจและฝ่ายปราบปราม และทำเป็นไวนิลติดตามจุดตรวจต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และจะต้องมีการทำประวัติอู่ซ่อมรถทุกแห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะรถยนต์ที่ขโมยไปบางส่วนจะนำไปเปลี่ยนสีรถ ขณะที่สินค้าบางตัว เช่น ซิมการ์ดหรือโทรศัพท์ แบตเตอรี่ ก็จะต้องปรับให้เป็นสินค้าที่มีการควบคุม เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการค้ามีความหละหลวมเช่นกัน

ให้ค่าหัวเพิ่มเป็น 2 ล.

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 กล่าวว่า อีกไม่เกิน 2 วัน จะสามารถขออนุมัติหมายจับ 2 คนร้ายที่เห็นในกล้องวงจรปิดได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ระเบิดใน จ.ยะลา เนื่องจากสารที่ประกอบระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน และคนร้ายมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเชื่อว่าขณะนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ทางตำรวจยังได้ตั้งรางวัลนำจับทั้งสองคนเพิ่มเป็นคนละ 1 ล้านบาท รวม 2 คน เป็น 2 ล้านบาท นอกเหนือจากที่ทางผู้ว่าราชการจ.สงขลา ได้ตั้งรางวัลนำจับไปเมื่อวานนี้คนละ 5 แสนบาท

นายสุกิจ วัฒนาวงศ์ ผอ.สำนักกองช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่าวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมลี การ์เดนส์ อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุระเบิด ว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้างเพื่อความปลอดภัย

ที่โรงแรมลี การ์เดนส์ หาดใหญ่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะผู้แทนพระองค์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เดินทางมาพูดคุยกับนายวันชัย ลีละศิธร เจ้าของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า และครอบครัว และพบปะพูดคุยให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ จากนั้นเป็นผู้แทนพระองค์ไป เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ ทั้งผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หาดใหญ่

"ทวี"ย้ำไม่ได้เจรจาบีอาร์เอ็น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เคยไปเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่เดินทางไปมาเลเซีย เป็นเพียงการไปพบปะผู้ประกอบการกลุ่มต้มยำกุ้ง ที่ไปทำร้านอาหารในมาเลเซียเท่านั้น อย่างไรก็ตามการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นนั้นมีจริง เพราะทุกคนก็ต้องการให้สันติสุขกลับมาโดยไว ส่วนที่ระบุว่า ศอ.บต.ตั้งนายนัจมุดดีน อูมา อดีตส.ส. มาเป็นที่ปรึกษาศอ.บต.ก็ไม่จริง เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยตั้งที่ปรึกษาแม้แต่คนเดียว

2 มือคาร์บอมบ์จะหนีไปมาเลย์

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธร จ.สงขลา เผยว่า ทราบเบาะแสคนร้ายที่ขับคาร์บอมบ์ ทั้ง 2 คนแล้ว โดยทั้งคู่เชี่ยวชาญการก่อวินาศกรรม โดยฝึกฝนมาจากประเทศที่ 3 ทั้งนี้กลุ่มก่อเหตุมีประมาณ 5 คน 2 ใน 5 คน คือ นายเจะมะ ยานิ มีภูมิลำเนาอยู่ อ.จะนะ และนายสบาเฮ นายิง มีภูมิลำเนาอยู่ อ.สะบ้าย้อย ทั้ง 2 คน มีหมายจับคดียิงนายสุนันท์ แก้วละเอียด นายช่างชลประทานลางา และทราบว่าทั้ง 2 คน กำลังเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ทุกหน่วยแล้ว

ค้นปอเนาะหลักฐานอื้อ

สำหรับความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายในคดีคาร์บอมบ์ 2 จุด ในจ.ยะลา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บนับร้อยรายนั้น หลังจากที่ทหารชุด ฉก.ยะลา 11 สนธิกำลังชุดสืบสวนของตำรวจ และฝ่ายปกครองจำนวนกว่า 150 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายชุมชนโรงเรียนตาร์เบียตุลวาตันมูลนิธิ หมู่ 1 บ.พงรือไร ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา และตรวจยึดอุปกรณ์ใช้ประกอบระเบิด หลายรายการ โดยเฉพาะเหล็กเส้นตัด แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ได้ที่บ้านเลขที่ 89/6 บ.พงยือไร หมู่ 1 และที่บ้านไม่มีเลขที่ ใกล้กัน พบลวดเชื่อมโลหะ สายไฟ รวมถึงถังแก๊สสภาพใช้งานแล้ว 17 ถัง อยู่ภายในบ้านเลขที่ 89/34 บ.พงยือไร หมู่ 1 จึงตรวจยึดสิ่งของที่พบเอาไว้ทั้งสิ้น 22 รายการ รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 3 คน

พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มของนายอิสมาแอ ระยะหลง หรืออุซตาสโซ๊ะ แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ ที่สั่งการให้แนวร่วมในพื้นที่ที่มีความชำนาญในการประกอบวัตถุระเบิด รวมตัวลงมือก่อเหตุ

ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.วรพงษ์ ที่ปรึกษา(สบ10) เผยว่า คดีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะหลักฐานด้านคดี ที่ทำให้ทราบจุดเริ่มต้นของรถที่ประกอบระเบิด และตรวจค้นเป้าหมาย ได้พยานวัตถุจำนวนมาก เชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงถึงผู้กระทำความผิดได้ ส่วนข่าวการควบคุมผู้ต้องสงสัยนั้น ขอไม่เปิดเผยในขณะนี้ ทั้งนี้การเชื่อมโยงเหตุของยะลากับที่หาดใหญ่นั้น พบว่ารถที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถที่ชิงทรัพย์มาจากในพื้นที่ ส่วนการประกอบระเบิดยังไม่ยืนยันว่าเหมือนกันหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอหลักฐานที่ชัดเจน

"ส่วนพยานหลักฐานที่พบในขณะนี้นั้น จะต้องรอผลพิสูจน์เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ก็จะสามารถออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ซึ่งจากข้อมูลเดิมก็จะเป็นกลุ่มเดิมๆ ในพื้นที่ แต่มีความมั่นใจที่จะสามารถออกหมายจับและสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แน่" พล.ต.อ. วรพงษ์กล่าว

รวบ 1 ผู้สงสัยบึ้มยะลา

มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้วัตถุพยาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่เชิญตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ 1 ราย คือ นายอนุวัฒน์ โต๊ะเจ๊ะ อายุ 22 ปี ชาวตำบลยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ที่เป็นผู้ขับรถติดตามรถยนต์กระบะที่ประกอบวัตถุระเบิดในจุดแรก เพื่อซักถาม ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยมีรายงานว่าในเบื้องต้นนายอนุวัฒน์ยังให้การปฏิเสธ

เวลา 11.00 น. ที่ถนนรวมมิตร นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ในส่วนของทรัพย์สินที่เสียหาย โดยมีผู้ประกอบการค้า และประชาชนเดินทางมารับเงินช่วยเหลือจำนวน 73 ราย โดยค่าเสียหายจากเหตุระเบิดในครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าประมาณไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท

ตั้งด่านระวัง 4 มุมเมือง

พล.ต.ต.พีระ ผบก.ภ.จว.ยะลา สั่งให้ตั้งจุดตรวจ 4 มุมเมืองที่จะเข้ามายังตัวเมืองยะลา ประกอบด้วย จุดตรวจท่าสาป จาก อ.ยะหา อ.กาบัง จุดตรวจมลายูบางกอก จาก อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ธารโต จุดตรวจขุนไว จาก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และจุดตรวจเมืองทอง จาก อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยตรวจเข้มรถยนต์ จักรยานยนต์ และบุคคล เพื่อตรวจหาผู้ที่มีหมายจับ ทั้งหมาย พ.ร.ก. และหมาย ป.วิอาญา นอกจากนี้ให้ควบคุมรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่ขาดการเสียภาษี ตลอดจนไม่สามารถนำหลักฐานการเป็นเจ้าของแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้

ตร.รือเสาะล้อมจับมือบึ้ม

เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 จำนวน 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกตรวจค้นบ้านต้องสงสัยไม่มีเลขที่ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านปูโปะ ม.2 ต.รือเสาะออก หลังสืบทราบมีกลุ่มคนร้ายที่พัวพันและรู้เห็นกับเหตุการณ์วางระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลาและวางระเบิดคาร์บอมบ์ชั้นใต้ดินใต้ของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา แฝงตัวมากบดานที่บ้านหลังดังกล่าว

เมื่อถึงเป้าหมาย พ.ต.อ.สะท้านฟ้า ผกก. สภ.รือเสาะ สั่งเจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันโอบล้อม แล้วใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ต้องสงสัยออกมามอบตัว โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที ได้มีบุคคลทั้ง 3 ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักทยอยเดินทางออกมามอบตัว ประกอบด้วย 1.นายดุลละหะเล็ง ยามาสกา อายุ 50 ปี 2.นายอับดุลอาซิ ฮะตะมะ อายุ 41 ปี และ 3.นายอัดนัน ดือราแม อายุ 31 ปี

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 มาสอบสวน ที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ และต่อมา พ.ต.อ. สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำตัวบุคคลทั้ง 3 มาเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

พบทะเบียนรถเชื่อมโยง

พ.ต.อ.สะท้านฟ้ากล่าวว่า จากการตรวจสอบขยายผลรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋งที่วางระเบิดคาร์บอมบ์จ.ยะลาและชั้นใต้ดินของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. พบว่าจากการแกะรอยรถทั้ง 2 คัน โดยเฉพาะกระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ของนางเพ็ญศรี มานันตพงศ์ ซึ่งเป็น หน.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ที่ถูกคนร้ายปล้นไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 54 มาจอดอยู่ที่บ้านพักของนายอับดุลอาซิ ซึ่งอยู่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน และพบว่าป้ายทะเบียนของรถคันดังกล่าวหายไป และถูกนำไปสวมรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีดำ ของนายธนศร เกื้อสุข ปลัด อบต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายบุกยิงและปล้นรถเมื่อวันที่ 21 ต.ค. และใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลาและชั้นใต้ดินของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า

ส่วนนายดุลละหะเล็ง จากการตรวจสอบประวัติพบเป็นโต๊ะอิหม่าม หลบหนีคดีป.วิ อาญา 9 หมายจับ คือ หลบหนีหมายจับของ สภ.รือเสาะ 2 คดี สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา 4 คดี ของสภ.รามัน 2 คดี และของสภ.เมืองปัตตานี 1 คดี ส่วนนายอัดนัน ขณะเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นได้อาศัยอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลต่อไป

ล่าสุดเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลบุคคลทั้ง 3 ว่า มีความเชื่อมโยงกับบุคคลอีก 4 คน คือ 1. นายมะอูเซ็ง เด็งสาแม อายุ 26 ปี 2.นายสาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ อายุ 28 ปี 3. นายอึสมาน เด็งสาแม อายุ 34 ปี และนายอับดุลรอเซะ เด็งสาแม ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีวางระเบิดคาร์บอมบ์ จ.ยะลา หรือไม่อย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าในเร็ววันนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถทราบตัวบุคคลว่ามีผู้ใดบ้างที่ร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่จ.ยะลา และชั้นใต้ดินของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อย่างแน่นอน

นักวิชาการย้ำต้องเจรจา

นายอิสมาแอ อาลี ผอ.วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาไฟใต้ต้องเจรจากับคนที่อยู่เบื้องหลังทุกกลุ่มทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน หากไม่มีการเจรจารัฐบาลจะหาแนวร่วมยาก เป็นอุปสรรค ต่อการทำงาน โดยรัฐบาลต้องเปิดใจให้กว้าง รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย อย่ามองข้ามหรือกีด กันความเห็นของคนในพื้นที่ เอ็นจีโอ และนักวิชาการ

นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาไฟใต้เกิดจากหลายปัจจัย การเจรจาเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงร่วมกันทั้งที่ยังไม่เข้าใจอาจไม่ได้ผล ควรเปลี่ยนมาใช้แนวทางสันติสนทนา หมายถึงพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ก่อความรุนแรง ยังไม่ต้องมีเป้าหมายร่วมกัน แค่พูดคุยเพื่อนำไปสู่ความไว้วางใจ ไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรง ถือเป็นปฏิบัติการจิตวิทยา

นายจรัญ มะลูลีม อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. กล่าวว่า รัฐต้องคำนึงถึงการเจรจา แม้บางส่วนอาจไม่เห็นด้วยเพราะไม่พอใจกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่เป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว หากใช้ความรุนแรงจะเกิดการตอบโต้ เหตุการณ์ไม่ยุติ การเจรจาไม่ใช่แค่คุยกับผู้ก่อการร้าย แต่ต้องคุยกับผู้นำแต่ละกลุ่มด้วย ผ่านองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น องค์การการประชุมอิสลาม(โอไอซี) หรือนักการเมืองเพื่อเป็นตัวกลาง โดยรัฐบาลต้องวางแผนการเจรจาให้ดี

ขอจนท.รัฐอย่าโทษกันเอง

นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า ความรุนแรงในภาคใต้ การแก้ไขเรื่องกระบวนการยุติธรรม หาหลักฐาน หาคนผิดมาลงโทษ เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่ต้องเคารพสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เอาใครมาซ้อมให้รับสารภาพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องยอมรับว่า ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของความขัดแย้ง ต้องหาทางพูดคุยกับคนที่เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่ใช่ไม่คุยกับใครเลย นโยบายที่ สมช. ทำในภาคใต้ มีข้อหนึ่งที่ให้ฟังความเห็น แล้วทำเป็นนโยบาย ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ควรสนับสนุนให้เปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องเสรีภาพ ดังนั้นกองทัพซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลควรนำนโยบายนี้ไปปฏิบัติด้วย

นางอังคณากล่าวอีกว่า การเจรจาที่ว่านี้ ต้องพูดคุยกันในทุกระดับ รวมถึงระหว่างประชาชนและประชาชนในชุมชนด้วยกันเอง ขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงรู้ดีว่าควรจะคุยกับใคร ที่สำคัญคือความเป็นเอกภาพของเจ้าหน้าที่รัฐ วันนี้เจ้าหน้าที่รัฐโทษกันเอง ทั้งที่แท้จริงแล้วหน่วยงานความมั่นคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รัฐบาลต้องกลับไปคุยกันเองและทำความเห็นให้เป็นเอกภาพ เพราะถ้ารัฐไม่มีเอกภาพก็ไม่รู้จะไปคุยกับใครได้

เว็บไซต์สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงถ้อยแถลงของนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น มีเนื้อความประณามเหตุก่อการร้ายคาร์บอมบ์ที่จังหวัดยะลาและสงขลา ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ราย และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลไทย ตลอดจนทุกคนที่สูญเสียคนรักในเหตุวินาศกรรมนี้

5 เม.ย. 55 เวลา 17:45 1,775 4 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...