สุสานฝังศพนับร้อย เรียงรายอยู่บนผืนดินกว่า 50 ไร่ ที่อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นของ "สุสานบางบัวทองมูลนิธิ" โดยมี นายมนตรี โม่สิงห์ หรือ ตี๋ วัย 52 ปี เป็นผู้ดูแลสุสานมานานกว่า 30 ปี

ที่ดินทั้งหมดที่มูลนิธิซื้อมาราว 40 ปี จำนวน 110 ไร่ ปัจจุบันถูกใช้ไปแล้ว 50 ไร่เศษ และยังเหลืออีก 50 ไร่เศษ

สุสานที่นี่แต่ละหลัง ใช้พื้นที่ตั้งแต่ราว 2.6 ตารางเมตร ไปจนถึง 60 ตารางเมตร โดยมีราคาลดหลั่นกันลงไป ตั้งแต่ 10,000 บาท ไปจนถึง 1 ล้านบาท และมีแบบที่วางได้ 1 โลงศพ ไปจนถึง 3 โลงศพ เรียงกัน

นั่นคือ ตรงกลางเป็นของสามี ด้านขวาเป็นของเมียเบอร์ 1 และด้านซ้ายเป็นของเมียเบอร์ 2

ตี๋ เล่าว่า คนที่มาใช้บริการที่สุสานแห่งนี้ เข้ามาใน 2 รูปแบบ คือ มาซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้า และแบบที่เมื่อมีคนตาย และต้องการฝัง ก็เดินเข้ามาเลือกว่าต้องการสุสานขนาดใด เพราะ ที่สุสานแห่งนี้จะทำฮวงซุ้ยไว้ล่วงหน้า เป็นล็อคๆ

ราคาฮวงซุ้ย ขึ้นทุกปีๆ ละ 20,000 -30,000 บาท แต่สำหรับคนที่ซื้อไว้ล่วงหน้าก็สบายใจได้ว่า ราคาจะไม่ขึ้นไปอีกเพราะจ่ายทีเดียวจบ

ตี๋ เล่าว่า บางคนซื้อไว้ล่วงหน้า 20 ปี ก็ยังไม่ตาย

ด้วยราคาฮวงซุ้ยที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ปัจจุบัน จึงได้เห็นลูกหลานชาวจีน เลือกวิธีเผาก่อน แล้วนำกระดูกไปฝัง เพื่อประหยัดงบประมาณ เนื่องจากใช้พื้นที่น้อยลง

นอกจากจะเป็นคนดูแลสุสานแห่งนี้ ตี๋ ยังมีอาชีพรับก่อสร้างฮวงซุ้ยด้วย ซึ่งเขาบอกว่า รายได้ดีกว่า งานก่อสร้างทั่วไป อีกทั้ง ยังไม่ใช่งานจุกจิกเพราะแบบการก่อสร้างคล้ายๆ กัน

คนที่มีฐานะ มักจะตกแต่งฮวงซุ้ย ด้วยหินอ่อนประดับรูปมังกร สิงห์ หงส์ หรือ กวาง

ตี๋ เล่าถึงความเชื่อที่ว่า หากคนตายไม่มีลูกเป็นข้าราชการ ก็จะทำเป็นรูปสิงห์ไม่ได้ เพราะเชื่อว่าจะข่มคนตาย ทำให้ลูกหลานทำมาค้าขายไม่รุ่งเรือง

นายชวลิต พฤกษ์ทวีศักดิ์ หรือ คุ้ย วัย 76 ปี ประธานสุสานบางบัวทองมูลนิธิ เล่าว่า เป็นประธานมูลนิธิมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2521 โดยมูลนิธิแห่งนี้ รวบรวมเงินบริจาคจากผู้ใจบุญ ซื้อที่ดินในเขตอำเภอบางบัวทอง ราคาไร่ละ 1 พันบาท เมื่อราว 40 ปีทีแล้ว ปัจจุบัน ราคาที่ดินผืนนี้ ถีบตัวขึ้นไปสูงถึงราว 10 ล้านบาท แต่นโยบายของเขา คือเปิดให้บริการไปเรื่อย ๆ ไม่เร่ง ไม่รีบร้อน

คุ้ย เล่าอีกว่า คนจีนมีความเชื่อเรื่องฮวงซุ้ยอย่างมาก หากตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ลูกหลานจะทำมาค้าขึ้น และส่วนใหญ่ ก่อนที่จะนำร่างคนตายไปฝังที่ใด ลูกหลาน ก็มักจะปรึกษาซินแส หรือหมอดูก่อน

และจุดนี้เองที่ ซินแส มากระซิบเขาว่า ถ้ายินดีแบ่ง 20% จากค่าฮวงซุ้ยที่เก็บจากญาติคนตายให้ซินแส ซินแสคนนั้น ก็จะช่วยเชียร์หรือช่วยแนะนำคนที่จะหาฮวงซุ้ย ให้มาที่นี่ รับรองแป๊บเดียวเต็ม แต่คุ้ย ไม่ตกลง เพราะเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องให้สุสานนี้เต็มเร็วๆ อีกทั้งการดำเนินการที่เป็นอยู่ในป้จจุบันก็อยู่ในรูปมูลนิธิ ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร หรือหากมีเงินเหลือมาก ก็นำไปทำบุญต่อ

นั่นหมายความว่า ถ้าคุ้ย ตกลง หากเก็บค่าจัดทำฮวงซุ้ยได้ 1 ล้านบาท ก็ต้องแบ่งให้ซินแส ถึง 200,000 บาท ทีเดียว!!

ที่สุสานแห่งนี้ ไม่มีระบบดังกล่าว แต่มิได้หมายความว่า ที่อื่นจะไม่มีด้วย
 

นอกจากนี้ บางคนยังเชื่อหมอดู เชื่อซินแส ที่ให้เปลี่ยนฮวงซุ้ย โดยถึงกับให้สัปเหร่อ ขุดเอาศพขึ้นมา แล้วต้มในปี๊บ 5-6 ชั่วโมง เลาะเนื้อศพออก เอาแต่กระดูก ไปฝังที่ฮวงซุ้ยใหม่ ตามที่ซินแสแนะนำ

ซึ่งเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า "เป็นความเชื่อล้วนๆ"