ผู้หญิงมีกิ๊กเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
จาก การสำรวจของถุงยางอนามัยดูเร็กซ์พบว่า ชายไทยนอกใจคนรักมากเป็นอันดับ 1 คือ 54% และหญิงไทยนอกใจคนรักถึง 59% ติดอันดับ 2 ของโลกรองจากผู้หญิงประเทศไนจีเรีย ปัจจุบันผู้หญิงไทยนิยมการมีกิ๊ก มากขึ้น ซึ่งกรณีนี้ นางเบ็ญจพร มงคลธง นักจิตวิทยา คลินิกเครือ รพ.กล้วยน้ำไท กล่าวว่า สิ่งที่ส่งผลให้ผู้หญิงปัจจุบันในทุกอาชีพ ทุกวัย เริ่มเลียนแบบพฤติกรรมผู้ชาย คือ จีบและคบผู้ชายครั้งละหลาย ๆ คน เพื่อชดเชยปัญหา
โดยความสัมพันธ์มักเริ่มจากการใกล้ชิด เช่น การไปเที่ยว นั่งทำงานเห็นกันทุกวัน หรือทำกิจกรรม, งานอดิเรกที่ต้องใช้เวลาด้วยกัน เกิดความเห็นอกเห็นใจกันจากการปรับทุกข์ ให้คำปรึกษา ก่อเป็นความสัมพันธ์ขึ้น ซึ่งอาจเป็นที่รู้กันในออฟฟิศ และในกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้อง รู้จักใกล้ชิดกับสามีหรือแฟน โดยอาจมีความสัมพันธ์ทางกายร่วมด้วย
ทั้งนี้ การมีกิ๊กอาจยิ่งก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวมากขึ้น มีเรื่องคาใจ ไม่คุยกัน การเสียชื่อเสียง ไม่เป็นที่ยอมรับ ฯลฯ และรวมถึงโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย
นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ คลินิกเครือ รพ.กล้วยน้ำไท กล่าวว่า "โรค ที่อันตรายจากการมีกิ๊กหลายคนของผู้หญิง และเกินเลยถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ จะยิ่งเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ยิ่งมีกิ๊กมากยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อมากขึ้น คนส่วนใหญ่คิดว่าถุงยางอนามัยป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกโรค แต่ไม่ได้ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่เป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้หญิงไทยเสีย ชีวิตเป็นอันดับ 1 เพราะเชื้อเอชพีวีที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกมีอยู่ร้อยกว่าสายพันธุ์ แต่ชนิดที่จะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมีประมาณ 15 สายพันธุ์ ซึ่งเชื้อนี้อาศัยอยู่ทั่วไปบนร่างกาย ผิวหนัง เสื้อผ้า ขน ฯลฯ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถทนความร้อนและอยู่ในที่แห้งได้ แต่ไม่ก่อเกิดโรคในผู้ชาย
การ ใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ดี เพราะสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส เวลามีเพศสัมพันธ์ เชื้อที่อาศัยอยู่บนอวัยวะ ผิวหนัง และขนของทั้งชายและหญิงอาจติดเข้าไปกับอวัยวะเพศชายหรืออวัยวะเพศหญิง การ มีเพศสัมพันธ์เป็นการนำเชื้อเอชพีวีจากด้านนอกเข้าไปสู่บริเวณปากมดลูก และเกิดการติดเชื้อขึ้นในบริเวณปากมดลูก ทำให้เริ่มมีการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ หรือกรณีมีแผลถลอกบริเวณเยื่อบุภายในก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน
คุณหมอแนะนำว่า มะเร็งปากมดลูกลดความเสี่ยงได้โดยการรักเดียวใจเดียว หรือไม่ไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนที่มีคู่นอนหลายคน แต่ถ้าไม่แน่ใจควรรีบเข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายในเพื่อหาเซลล์มะเร็ง ถ้าตรวจพบก่อนในระยะที่เซลล์เริ่มมีการผิดปกติ ก็สามารถรักษาได้
"ใน กรณีที่คุณเคยมีกิ๊ก, กำลังมีกิ๊กถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีหรือเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูก และฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่ง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HPV 16, 18 ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หากมีการติดเชื้อก่อนหน้าการฉีดก็ไม่สามารถป้องกันเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย แล้วได้ แต่เป็นการป้องกันเชื้อใหม่ที่อาจได้รับหลังการฉีด การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ได้ผลดีคือ การฉีดเมื่ออายุประมาณ 9 ปี"