เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.อ.สมชัย รักษ์ศรีทอง ร้อยเวร สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันที่ถนนบริเวณ ม.14 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน กง-2425 พัทลุง จอดอยู่บนถนนในหมู่บ้านโดยกระจกด้านหลังเป็นรอยพรุนทั้งแผ่น และยางล้อรถยนต์เสียหายจากการถูกยิง และพบรอยเลือดจำนวนมากในรถ ส่วนคนเจ็บได้มีการนำส่ง ร.พ.ร่อนพิบูลย์ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนางโสภา พิบูลย์ อายุ 60 ปี อยู่ม.14 ต.ร่อนพิบูลย์ จากการสอบสวนนายสุจินต์ พิบูลย์ อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบริษัทปูนซิเมนต์ไทย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ สามีของผู้เสียชีวิต ทราบว่าขณะขับรถกลับจากส่งญาติพร้อมนางโสภาภรรยา มีรถยนต์กระบะสองคันขับสวนทาง โดยมีชายฉกรรณ์หลายคนนั่งอยู่กระบะหลัง และคนในรถกระบะได้ลดกระจกรถลงเรียกให้ตนจอดรถ แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใครจึงไม่กล้าจอด สักพักรถกระบะคันเดิมได้เลี้ยวกลับมาและขับไล่ตนเพื่อจะให้จอด ตนยิ่งตกใจนึกว่าโดนปล้นก็รีบเหยียบคันเร่งเพื่อกลับให้ถึงบ้าน แต่ทันใดนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนจึงเร่งขับรถเพื่อจะหนีไปจากจุดดังกล่าว และยังคงมีเสียงปืนดังขึ้นมาอีกหลายนัดซ้อนเกือบ 10 นาที
"ภรรยาบอกว่าโดนยิงเจ็บมาก ผมตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงรีบขับรถเพื่อจะไปให้ถึงป้อมตำรวจที่สามแยกสวนผัก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่รถไปไม่ไหวเพราะล้อโดนยิงจนพัง และได้ยินเสียงตะโกนว่าหยุดรถนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้ยินคำว่าตำรวจผมจึงรีบลงจากรถ และขอให้บรรดาชายฉกรรณ์เหล่านั้นช่วยนำภรรยาซึ่งโดนยิงส่งรพ.ด้วย โดยกลุ่มชายฉกรรณ์ที่ระบุว่าเป็นตำรวจและมีอาวุธครบมือตะคอกใส่ผมถามว่ามีใครอยู่ในรถมั๊ย ใครแอบซ่อนอยู่รึเปล่า ผมพยายามชี้แจงว่าไม่มีใคร มีแต่ผมกับภรยยาซึ่งโดนยิงบาดเจ็บขอให้ช่วยภรรยาก่อน แต่ชุดดังกล่าวก็รื้อค้นในรถอยู่พักใหญ่เมื่อไม่พบอะไร จึงได้นำร่างภรรยาขึ้นรถไปส่งร.พ.ร่อนพิบูลย์ แต่ก็ไม่ทัน ภรรยาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา"
นายสุจินต์ กล่าวว่า หลังจากนั้นได้มีรถของตำรวจในพื้นที่คนหนึ่งขับเข้ามาและถามจนว่าเกิดอะไรขึ้นและชวนตนขึ้นรถโดยตำรวจคนนั้นตนรู้จักดีชื่อจ่าชวนฯ ตนนั่งรถมากับจ่าชวนเพื่อไปดูอาการของภรรรยาที่ร.พ.ได้ยินจ่าชวนฯโทรศัพท์รายงานผู้กำกับสภ.ร่อนพิบูลย์ ว่ายิงผิดตัวแล้วถูกชาวบ้าน ตนเสียใจมากที่ได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราเป็นชาวบ้านที่ทำมาหากินสุจริต เจ้าหน้าที่ทำงานทำไมถึงไม่ตรวจสอบเหตุการณ์และข้อมูลให้ดีก่อน การยิงใส่รถชาวบ้านโดยคิดว่าเป็นผู้ค้ายาเพียงแค่คิดว่าเป็นผู้ค้ายาก็ตายแล้วมันยุติธรรมกับครอบครัวตนหรือไม่ ตนอยากจะเรียกร้องให้ทุกส่วนที่รับผิดชอบได้หันมาใส่ใจเรื่องนี้เพราะหากเกิดกับครอบครัวคุณจะทำอย่างไร ตนอยากให้กรณีของภรรยาตนเป็นอุทาหรณ์และเป็นรายสุดท้ายที่สังเวยให้กับความชุ่ยของเจ้าหน้าที่
ด้านนายไพโรจน์ สิริมา ผู้ใหญ่บ้านม.14ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ นครฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องและถือว่าสะเพร่าอย่างรุนแรงก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาเกือบ 10 คน ไม่ได้แต่งเครื่องแบบตำรวจแต่อย่างใด ตนก็เกือบยิงเจ้าหน้าที่ไปแล้วเหมือนกันเพราะเห็นมาซุ่มๆอยู่ละแวกบ้านของชาวบ้าน
ด้าน พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ. นครฯ ซึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เผยว่า ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ซึ่งก่อเหตุยิงใส่รถของนายสุจินต์เป็นชุดปราบปรามยาเสพติดของ ตชด.42 ซึ่งทราบว่าเข้าใจผิดคิดว่ารถนายสุจิน เป็นผู้ต้องหายาเสพติด เนื่องจากสายรายงานให้ทราบว่าผู้ต้องหาใช้รถสีขาว เนื่องจากช่วงกลางวัน ทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้จับกุมยาบ้า 4 พันเม็ด และยาไอซ์ 1 กก.ได้ที่อ.จุฬาภรณ์ นครฯ ก่อนจะขยายผลมาตรวจค้นที่เพิ่มเติมที่ ม.6 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งทราบว่าเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติดที่จับได้ และเมื่อค้นบ้านผู้ต้องสงสัยไม่พบอะไรก็ได้ขับรถกลับออกมา และมาสวนทางกับรถผู้เสียชีวิตจึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถผู้ต้องหาตามที่สายแจ้งมา ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง