ศาลกรุงนิวเดลี นครหลวงของอินเดีย มีคำพิพากษาว่า การปฏิเสธของภรรยาที่บ่ายเบี่ยงการมีเซ็กซ์กับสามี ถือเป็นความผิดฐานทรมานร่างกายสามี
ผู้พิพากษาชี้ว่า การปฏิเสธการมีเซ็กซ์เป็นต้นเหตุของการหย่าร้างที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นในอินเดีย หลังชายคนหนึ่งกล่าวว่า ภรรยาของตนปฏิเสธที่จะหลับนอนกับเขา ในวันแต่งงาน และในช่วง 5 เดือน ที่อยู่กินด้วยกัน ทั้งคู่มีเซ็กซ์ด้วยกันเพียง 10-15 ครั้ง
หนังสือพิมพ์ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานว่า นายไกลาส กัมเบีย ผู้พิพากษาศาลฏีกาของอินเดียกล่าวว่า จากคำให้การของสามี ที่ระบุว่าภรรยาของตนไม่ยินยอมตอบสนอง และนอนนิ่งไม่มีอารมณ์ร่วมระหว่างการร่วมรัก ยังคงเป็นสิ่งไม่สามารถหักล้างได้ อีกทั้งยังเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า ภรรยาต้องการปฏิเสธการร่วมรักกับสามีโดยไม่มีเหตุที่สมควร และถือเป็นการกระทำการทรมานฝ่ายสามี
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาศาลฏีกาอินเดีย ยังระบุด้วยว่า เซ็กซ์ เป็นพื้นฐานของการแต่งงาน และ การแต่งงาน ที่ไม่มีการร่วมรักกัน ถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และการแต่งงานที่ไม่มีการเสพเพศรสจะนำไปสู่การหย่าร้างกัน
คำพิพากษาของศาลสูง ได้หักล้างคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ที่ยินยอมตามคำขอของฝ่ายภรรยา ที่ขออำนาจศาลหย่าร้างจากสามี เมื่อปี 2001 หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 1991
ผู้พิพากษาระบุว่า เซ็กซ์ถือเป็นพื้นฐานของการสมรส และการสมรสที่ปราศจากเซ็กซ์ ถือเป็นสิ่งที่สมควรถูกประณาม และถือเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้รสชาติ แม้ว่าจะเคยมีคดีที่หนึ่งในคู่สมรสออกมาร้องเรียนว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความต้องการเพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป ขณะที่อีกฝ่ายกลับไม่ต้องการเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นที่เข้าใจได้
คำพิพากษาดังกล่าว ยังสวนกระแสการแก้ไขกฏหมายของฝ่ายนิติบัญญัติในรัฐสภาอินเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ทำให้การหย่าร้างเป็นไปได้ง่ายขึ้น ขณะที่อัตราการหย่าร้างในอินเดียสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่