เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เกิดเหตุสุดสลดขึ้นในไต้หวัน เมื่อหญิงสาววัย 31 ปีได้ก่อเหตุรมควันตัวเองในห้อง แล้วเผยวินาทีก่อนตายผ่านเฟซบุ๊กแชท และถ่ายรูปก่อนตายโพสต์ลงเฟซบุ๊ก พร้อมเผยเป็นประโยคสุดท้ายก่อนตายว่า แม้กำลังจะตายก็ขาดเฟซบุ๊กไม่ได้

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อ แคลร์ หลิน หญิงสาววัย 31 ปี ได้เกิดอาการเซ็งและน้อยใจมากที่แฟนหนุ่มไม่ยอมอยู่กับเธอในวันเกิดเธอวัน นั้น จึงนำถ่านไม้มาก่อเตาบาร์บีคิวใน ห้องนอน  ปล่อยควันให้ค่อย ๆ ลอยคลุ้งไปทั่วห้อง แต่ในขณะนั้นเอง เธอกลับนั่งเล่นเฟซบุ๊กหน้าตาเฉย โดยเปิดโปรแกรมแชทในเฟซบุ๊กคุยกับเพื่อนกว่า 9 คน เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในห้อง และไม่เพียงแค่นั้น เธอยังถ่ายรูปห้องขณะควันโขมงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กให้เพื่อน ๆ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกคนได้เห็น จนกระทั่งควันเริ่มทำให้เธอแสบตาและสำลัก เธอจึงบอกเพื่อนว่า อย่าพิมพ์อะไรมาอีก เพราะเธอแสบตาและกำลังจะมองไม่เห็นอะไรแล้ว ก่อนจะโพสต์ข้อความสุดท้ายลงเฟซบุ๊กว่า "มัน สายไปแล้ว ห้องของฉันเต็มไปด้วยควันไฟ  ฉันเพิ่งโพสต์รูปอีกรูปหนึ่งให้ดูนะ และถึงแม้ว่าฉันกำลังจะตาย ฉันก็ยังคงต้องการเฟซบุ๊กอยู่ นี่แหละพิษของเฟซบุ๊ก ฮ่า ๆ" และหลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตลงในห้องที่เต็มไปด้วยควันนั้น

          จากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อนที่พูดคุยกับเธอผ่านแชทวันนั้นได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนที่เธอนั่งแชทกับเพื่อนในเฟซบุ๊ก และก่อควันขึ้นมาเพื่อฆ่าตัวตาย เพื่อน ๆ ทุกคนก็ได้ขอร้องให้เธอเปิดหน้าต่างแล้วดับไฟ แต่เธอก็ไม่ฟัง ยังคงพูดคุยบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในห้องอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสำลักควันเสียชีวิตดังกล่าว

          ทั้ง นี้ รายงานระบุว่า นับตั้งแต่เธอเริ่มก่อควันไฟในห้อง จนถึงช่วงที่ควันไฟอัดอยู่เต็มห้องนั้น กินเวลานานถึงกว่า 1 ชั่วโมง แต่น่าแปลกที่เพื่อนในเฟซบุ๊กก็คุยโต้ตอบกับเธอผ่านแชทไปเรื่อย ๆ ตลอดช่วงเวลานั้น แม้จะรู้ว่าเธอกำลังรมควันตัวเองตายก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยฉุกเฉินใดมาช่วยเหลือเธอเลยสักคน