หนุ่มทิเบตเผาตัว-วิ่งไฟลุกผ่าถนนนิวเดลี ประท้วงผู้นำจีนเยือนอินเดีย

  เอเอฟพี - ชายชาวทิเบตจุดไฟเผาร่างกายตัวเอง และวิ่งไปตามถนนกลางกรุงนิวเดลี ในวันนี้ (26) ระหว่างการประท้วงการเดินทางเยือนอินเดียของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ที่จะร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ (บริกส์) ในสัปดาห์หน้า
       
       จันเพล เยชิ อายุ 27 ปี จุดไฟเผาตัวเองที่ลานชุมนุมจันตาร์มันตาร์ ใกล้กับอาคารรัฐสภาอินเดีย โดยมีชาวทิเบตชุมนุมประท้วงอยู่ประมาณ 600 คน พยานเล่าว่า เยชิ ร้องตะโกนเสียงหลง ขณะวิ่งไปตามถนนพร้อมกับไฟที่ลุกท่วมร่างกาย และควันที่พวยพุ่งจากศีรษะ ก่อนล้มลงเมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 50 เมตร
       
       “เขาวิ่งมาถึงก็ล้มลง พวกเราตกใจมาก แล้วตำรวจก็มาพาตัวเขาส่งโรงพยาบาล” เอ็นยิมา ทาชิ นักธุรกิจชาวทิเบตอายุ 39 ปี ที่ร่วมประท้วงครั้งนี้ เปิดเผย “ผมเคยเจอเขาในการประท้วงครั้งก่อนๆ เราต่างก็ต่อต้านจีนเหมือนกัน”
       
       เซวัง ดอลมา สหายร่วมอุดมการณ์อีกคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า เยชิ ผู้ลี้ภัยมาจากทิเบตในปี 2005 ถูกไฟเผาไหม้เกือบทั้งตัว “อาการของเขาหนักมาก หมอบอกว่าร่างกายถูกเผาไปกว่า 98 เปอร์เซ็นต์”
       
       การประท้วงวันนี้เป็นหนที่ 2 ที่มีชาวทิเบตเผาตัวเองในกรุงนิวเดลี โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งชายทิเบตคนหนึ่งจุดไฟเผาตัวอยู่ด้านหน้าสถานทูตจีน ประจำอินเดีย แต่โชคดีที่เขาได้บาดเจ็บเล็กน้อย
       
       ทั้งนี้ ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน มีกำหนดเดินทางเยือนอินเดีย เพื่อร่วมเวทีประชุมของกลุ่มบริกส์ ซึ่งประกอบด้วย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ ในวันพฤหัสบดี (29)
       
       ตั้งแต่เริ่มปี 2011 เป็นต้นมา มีชาวทิเบตในจีนจุดไฟเผาตัวเองไปแล้ว 29 คน เพื่อประท้วงการปกครองของปักกิ่ง โดยคนทิเบตจำนวนมากต่อต้านการกดขี่ทางศาสนา รวมถึงการทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิม ซึ่งเป็นผลจากการหลั่งไหลของชาวฮั่นสู่ถิ่นอาศัยของชาวทิเบต อย่างไรก็ตาม ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และยังตอบโต้ว่า ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต เป็นผู้ปลุกปั่นกระแสการเผาตัวเอง โดยหวังผลให้ทิเบตแยกตัวออกจากจีน
       
       
       
       
       
       
Credit: Manager Online
27 มี.ค. 55 เวลา 08:25 4,957 4 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...