เรื่องโดย Localita

สมัยนี้ผู้หญิงเราแต่งเสริมเติมสวยด้วยตัวเองอย่างง่ายและสะดวก ขึ้น แต่หลายครั้งที่การทำสวยด้วยตัวเอง ก็นำมาซึ่งฝันร้ายที่อาจต้องแลกด้วยความเจ็บป่วยทรมานร่างกาย และบางครั้งก็อาจหมายถึงชีวิต!

ดังเช่นเรื่องราวที่เป็นอุทธาหรณ์๋ของสาวน้อยเมืองผู้ดีวัย 22 ปีคนนี้ โซอี้ เวอร์นอน สาวจากเมืองแมนเชสเตอร์ที่ความตั้งใจแปลงโฉมครั้งนี้ทำให้เธอเกือบตาย! เพราะพิษของสารเคมีในครีมเปลี่ยนสีผมที่ทำให้ผิวหน้าเธอไหม้และเป็นรอยแดง ทำลายความสวยคมดังที่ภาพได้เปรียบเทียบให้เห็นความต่างระหว่างก่อนและหลัง เกิดอาการแพ้ครีมอันตรายนี้ไปไม่น้อย

โซอี้เผยหมดเปลือกถึงวินาทีที่การทำสีผมเกือบฆ่าเธอทั้งเป็นว่า เธอได้ซื้อครีมเปลี่ยนสีผมยี่ห้อ Boots Colour สีเอโบนี แบล็ค ในราคา 3.29 ปอนด์มาจากร้าน บูทส์ (Boots) บิวตี้แอนด์สกินช็อปชื่อดังของอังกฤษ โดยที่เธอไม่ได้เฉลียวใจใดๆ ถึงอันตรายจากสารเคมีในครีมย้อมผม ด้วยความนอนใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำของอังกฤษ ตัวเธอก็เึคยเปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองที่บ้านมาแล้วหลายครั้ง และทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง จึงไม่คิดว่าภัยร้ายนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

อาการแพ้ครีมย้อมผมของโซอี้ปรากฏชัดในวันรุ่งขึ้นหลังการทำสีผม เมื่อทั่วทั้งใบหน้า ดวงตา และลำคอของเธอเต็มไปด้วยรอยแดง แต่เธอก็ยังไม่ได้ไปพบแพทย์ในทันที จนกระทั่งอาการแพ้เข้าขั้นวิกฤติในอีก 2 วันถัดมา เมื่อเธอออกไปช็อปปิ้งกับแฟนหนุ่มและอาการแพ้ได้ก่อตัวอย่างรุนแรงเมื่อผิว หนังบริเวณลำคอเกิดรอยแดงไหม้ จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เธอต้องรักษาอาการแพ้สารเคมีจากยาย้อมผมอยู่ 3 วัน และผลจากอาการแพ้ครั้งนี้ ทำให้ตาข้างหนึ่งของเธอมีปัญหาประสิทธิภาพในการมองเห็นถูกทำลายเล็กน้อย ขณะที่รอยไหม้ที่ลำคอของเธอยังคงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นเกรงว่าระบบทางเดินหายใจของเธออาจมีอาการผิดปกติ

โซอี้ส่งจดหมายร้องเรียนไปถึงบูทส์ทันทีที่กลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยเธอได้แจงละเอียดยิบถึงอาการป่วยที่เธอได้รับ และัหวังว่าบูทส์จะออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ...แต่นั่นคงไม่อาจเทียบได้กับความเจ็บปวดทางจิตใจ เพราะเธอสูญเสียทั้งความมั่นใจจาการที่ผิวหน้าถูกสารเคมีทำลายจนไหม้ และเข็ดขยาดที่จะทำสีผมไปตลอดชีวิต

ดร.คริส ฟลาวเวอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ความงาม ให้ความเห็นว่า อันที่จริงแล้วโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้สารเคมีในครีมเปลี่ยนสีผมของคนยุโรป นั้นเกิดขึ้นเพียง 3 ใน 1 ล้านคนเท่านั้น และสารเคมีที่น่าจะมีผลต่ออาการแพ้ของผู้ใช้มากที่สุดคือ พาราฟีนิลีนดิอามีน หรือ พีพีดี Paraphenylenediamine (PPD) จึงอยากเตือนให้ผู้ใช้ระมัดระวังในการซื้อหาผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองที่มีส่วนผสมของสารที่ว่า

ด้านโฆษกของบูทส์แม้จะออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโซ อี้ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่้าจะเก็บผลิตภัณฑ์เจ้าปัญหาที่วางจำหน่ายในร้านบูทส์ ครั้งแรกเมื่อปี 2006 ออกจากร้านทุกสาขาในอังกฤษ นอกจากกล่าวเตือนลูกค้าเพียงสั้นๆ ว่า "ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำในกล่องทุกครั้ง"

จะเกิดขึ้นหนึ่งในล้านหรือมากกว่านั้น แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากโชคร้าย กลายเป็นคนหมดสวยด้วยมือของตัวเองแบบนี้สักเท่าไหร่