สามีไม่ได้ต่อย รปภ. BTS ก่อน

จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันระหว่าง นายประสาน ถาวงษ์กลาง พนักงานรักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ และ นายจอห์น บีฮัน อายุ 37 ปี ครูสอนภาษาชาวไอร์แลนด์ กรณีที่นายจอห์น ได้นำลูกโป่งเข้ามายังสถานีบีทีเอส ซึ่งเป็นหนึ่งในของต้องห้ามที่ห้ามนำเข้ามาในสถานี เนื่องจากลูกโป่งเป็นวัตถุไวไฟ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

นายจอห์น อ้างว่า ได้นำลูกโป่งเข้าสถานีอื่น ๆ แต่ไม่ได้ถูกห้ามแต่อย่างใด เมื่อมาถึงที่สถานีพร้อมพงษ์ กลับถูกห้าม จึงเกิดบันดาลโทสะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกันท่ามกลางผู้คนมากมาย จนนายจอห์น ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีคนสามารถบันทึกภาพได้ และกลายเป็นคลิปที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง นั้น

นายจอห์น พร้อมนางพัชรมาศ ภรรยา เดินทางเข้าพบ ผกก.สน.ทองหล่อ โดยนำหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่สวมในวันเกิดเหตุ และเอกสารการศึกษาของลูกสาวมามอบให้ด้วย

ยนางพัชรมาศ กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ยอมรับว่าวันเกิดเหตุสามีและ รปภ.มีปากเสียงกันจริง แต่สามีของตนไม่ได้ลงมือทำร้ายใครก่อนแน่นอน

ส่วนที่เหตุจากวิดีโอคลิป ที่ดูเหมือนว่า สามีของตนพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ความเป็นจริงแล้ว เป็นภาพของสามีตนโมโหที่ถูก รปภ.ตีจนเลือดออกก่อน จึงอยากให้สังคมเข้าใจด้วย

ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนี้เพิ่งได้รับการติดต่อจากผู้บริหารของบีทีเอส โดยผู้บริหารได้กล่าวขอโทษ และพร้อมที่จะเยียวยาสภาพจิตใจให้ครอบครัว โดยเฉพาะลูกสาวที่เห็นเหตุการณ์พ่อถูกทำร้ายตั้งแต่ต้น

ผู้บริหารกลับไมได้บอกว่าจะรับผิดชอบเรื่องที่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งที่สามีของตนถูกทำร้ายจนเย็บที่คิ้ว 4 เข็ม กลางศีรษะอีก 6 เข็ม รวมทั้งหมด 10 เข็ม

นายจอห์น ได้โชว์ร่องรอยและบาดแผลการถูกทำร้าย พร้อมกับกล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้ทำผิด เนื่องจากไม่ทราบว่า การนำลูกโป่งขึ้นมายังสถานีไม่ได้ เพราะสถานีก่อนหน้าที่จะถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ห้าม

จึงรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่บีทีเอสพร้อมพงษ์ กระทำการรุนแรงเกินกว่าจะเป็นการรักษาความปลอดภัย เหตุการณ์ดังกล่าว ยังทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ต้องหยุดงานหลายวัน แต่ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ

ลูกสาวของตนได้รับความกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ เพราะเห็นตนถูกทำร้ายและร้องไห้เสียงดังตลอดเวลา ถึงแม้ว่า ทางบีทีเอสจะติดต่อมาเพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมมอบกระเช้า แต่ก็ไม่สามารถชดเชยความรู้สึกที่เสียไปได้

เบื้องต้นตำรวจจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมให้ผู้เสียหายดูภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ต้องรอผลการสอบปากคำและผลตรวจร่างกายจากแพทย์ เพื่อที่จะสามารถแจ้งข้อหาว่าเป็นการทำร้ายร่างกายในระดับใด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

Credit: Talkstory
24 มี.ค. 55 เวลา 14:22 1,808 5 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...