การตรวจเลือดในห้องทดลองเป็นสิ่งห่างไกลความคิดของคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา เพราะนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว การเดินทางไปยังจุดที่สามารถตรวจที่มีจำนวนไม่มากยังเป็นเรื่องที่ลำบาก ต้องใช้เวลาเดินทางนานมาก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิตอย่าง HIV และมาลาเรียแพร่กระจายอย่างหนักในประเทศที่กำลังพัฒนา

นักวิจัยจาก University of Texas (UT) ได้พัฒนาสิ่งที่เค้าคิดว่าจะใช้เป็นอีกทางเลือก ที่นอกเหนือจากการทดสอบเลือดในห้องทดลองเพื่อค้นหาเชื้อมาลาเรียและ HIV นั่นก็คือ เซนเซอร์กระดาษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการพับกระดาษแบบโอริกามิของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเซนเซอร์ตัวใหม่นี้มีราคาในการผลิตที่ถูกมากแค่ 10 เซนต์หรือ 3 บาทเท่านั้นเอง

เซนเซอร์กระดาษอาจจะไม่ใช้สิ่งที่แปลกใหม่ มันได้ถูกนำไปใช้กับชุดทดสอบการตั้งครรภ์โดยปัสสาวะ แต่เซนเซร์กระดาษแบบนั้นเป็นเซนเซอร์กระดาษแบบมิติเดียว ในขณะที่เซนเซอร์กระดาษพับได้เป็นรูปทรงสามมิติที่พัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยจาก UT สามารถใช้ทดสอบในบริเวณที่มีพื้นที่เล็กกว่าแต่ให้ผลที่ดีกว่า นั่นหมายความว่ามันมีความสามารถในการทดสอบที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

เซนเซอร์นี้ประกอบไปด้วย hydrophobic material (แบบเดียวกับแวกซ์) ใส่เข้าไปใน “canyons” ที่อยู่บนโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ (chromatography paper) เจ้า canyons จะทำหน้าที่ควบคุมสารตัวอย่าง (ปัสสาวัหรือเลือด) ให้เคลื่อนที่ไปยังจุดที่กำหนดไว้บนกระดาษ ซึ่งจุดนั้นจะมีสารที่ใช้ทดสอบเชื้อโรคอยู่

Richard Crooks หนึ่งในนักวิจัยของโปรเจคนี้กล่าวว่า “ ปัจจุบันตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarkers ) สำหรับทดสอบเชื้อโรคทุกชนิดก็มีอยู่แล้ว โดยพื้นฐานของเซนเซอร์ตัวนี้ก็คือ ควบคุมการไหลของของเหลวไปยังสารทดสอบเหล่านี้ คุณก็แค่หยดสารตัวอย่างลงไปหลังจากนั้นก็กางกระดาษออกมา ถ้ากระดาษยังเป็นสีเดียวเหมือนเดิมแสดงว่า ร่างกายคุณมีปัญหาติดเชื้อแล้ว แต่ถ้ากระดาษมีการเปลี่ยนสีแก็แสดงว่าคุณไม่เป็นอะไร

นอกจากนี้เซนเซอร์ของ UT ยังสามารถใช้พิมพ์จากเครื่อง photolithography หรือเครื่องปริ้นเตอร์ธรรมดาๆก็ได้ หลังจากพิมพ์เสร็จก็ใช้เวลาพับไม่ถึงหนึ่งนาทีเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่าเซนเซอร์ตัวนี้จะผลิตออกมาวางจำหน่ายจริงได้เมื่อไหร่ แต่ในอนาคตมันอาจได้รับการพัฒนาให้ทำงานร่วมกับแอพบนมือถือเพื่อเก็บข้อมูลโรคมาลาเรียในแบบในแบบ real-time ได้ค่ะ