สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ว่า เกิดกระแสลือสะพัดทางอินเทอร์เน็ตของจีนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยมีการลือว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะก่อเหตุรัฐประหาร หลังกรณีความขัดแย้งภายในพรรค รวมทั้งรายงานข่าวว่า มีการนำรถถังออกมายังเมืองหลวงปักกิ่ง และมีการยิงปืนภายในที่พักผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์บางคน ส่งผลให้ต่างชาติเช่น สหรัฐ และอังกฤษ จับตามองอย่างใกล้ชิด
โดยก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ไมโครบล็อกชื่อดัง "ซีน่า เหว่ยป๋อ" รายงานว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์ผิดปกติในกรุงปักกิ่ง เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา จากการแตกหักกรณีมีการปลดหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์สาขาฉงชิ่ง รวมทั้งมีการลือว่า อาจเกิดเหตุรัฐประหาร เนื่องจากมีทหารนอกเครื่องและเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง ประจำบนถนนฉางอาน ใกล้จัตุรัสเทียนอันเหมิน อย่างไรก็ตาม ต่อมา ทางการจีนได้ทำการบล็อกและเซนเซอร์กระแสข่าวลือสะพัดเหล่านี้ทั้งหมด
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ พรรคคอมมิวนิสต์ถูกมองว่า กำลังเผชิญสถานการณ์ขัดแย้งและแตกหัก ภายหลังมีการปลดนายป๋อ ซี ไหล เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองฉงชิ่ง ผู้ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น 1 ใน 9 คณะกรรมการโปลิตบูโรที่ทรงอำนาจ ทั้งยังเป็นผู้นิยมลัทธิเหมา ในข้อหามีพฤติกรรมเข่าข่ายคอร์รัปชั่น ภายหลังจากคนสนิทของเขา ได้ลี้ภัยเข้าไปพำนักในสถานกงสุลสหรัฐ เมื่อเดือนที่แล้ว
หลายฝ่ายมองว่า การปลดนายป๋อ ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งสัญลักษณ์การฟื้นลัทธิเหมา เจ๋อ ตุง ได้สร้างความแตกแยกให้แก่บุคคลจำนวนมากภายในพรรค โดยเฉพาะกลุ่มของกลุ่มของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า และเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดกับนายโจวหยงคาง สมาชิกกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมาย คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์
โดยที่ผ่านมา นายป๋อ ถูกกล่าวหาว่า ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา โดยลูกชายได้เรียนในโรงเรียนฮาร์โรว์และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ และเขายังดำเนินมาตรการปราบปรามแก๊งมาเฟียที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายคน แต่สมาชิกจำนวนมากอ้างว่าเขาใช้นโยบายปราบมาเฟียกำจัดคู่แข่งทางการเมือง แต่เขาได้รับความชื่นชอบจากสมาชิกพรรคจำนวนไม่น้อย จากการเรียกร้องให้พรรคฟื้นฟูลัทธิเหมา ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกเคยนายกฯ จีนเตือนว่า เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพราะจะฉุดจีนกลับคืนสู่ยุคมืดอีกครั้ง