Mar22nd,2012
คุณสุรีย์ มิตรราช อายุ 49 ปี ผู้โดยสารที่อยู่ในคลิปเล่าว่า ตนขึ้นรถเมล์เพื่อไปชำระค่าน้ำ โดยพกเงินไป 800 บาท พอขึ้นรถเมล์ตนให้แบงค์ร้อย แต่กระเป๋ารถเมล์ก็ถามว่า ไม่มีตังค์แบงค์ย่อยหรือ แต่ตนก็บอกไปว่า ป้าไม่มีมีแต่แบงค์ร้อย ซึ่งเขาก็รับเงิน ทอนมาให้ 90 บาท แต่หลังจากนั้นเขาเดินไปหาคนขับรถ พร้อมกับบอกกับคนขับว่า
“เบื่อจังเลยเงิน 10 บาท ให้แบงค์ร้อย คนขับก็ถามว่า คนไหน? เขาก็บอกว่า อีแก่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น “
ตนก็เลยบอกว่า หนู ทำไมหนูมาเรียกป้าว่าอีแก่ละคะ เขาก็บอกว่า ทำไม ทำไมจะเรียกไม่ได้ มึงอยากให้แบงค์ร้อย ตนก็ตอบไปป้าไม่มีจริงๆ เขาก็เลยให้คนขับจอดรถเพราะมันเถียง
ตนก็เลยลงรถ พอก้าวไปขั้นบันไดแรกตนก็หันไปว่าเขา บอกว่า “หนูทำงานด้านบริการทำไมถึงพูดจาแบบนั้นล่ะคะ ป้าอาจจะเป็นรุ่นแม่หนูก็ได้ ถ้ามีเงินย่อยป้าก็คงไม่ให้แบงค์ร้อย”
พอก้าวลงรถเขาก็วิ่งลงมาบอกว่า ปากดีนักอีแก่ ขอตบสักทีนึง ป้าก็หันไป โดนจิกหัว พยายามเอามือป้อง ไม่ได้สู้อะไร เขาตบเข้าที่หน้า ลงไปนอน เราก็ไม่มีแรงต่อสู้ สภาพถูกล็อค เขาก็บอกว่า กูจะเอามึงให้ตาย เขาพูดหยาบๆ แบบนี้
ถ้าเราสู้ได้ก็จะสู้ แต่เขาตัวใหญ่ ยังไม่พอเขายังเอากระบอกตั๋วตีที่แขนข้างซ้ายจนเป็นแผล จนสุดท้ายมีเด็กตะโกนว่า ทำไมทำร้ายคนแก่ ตำรวจมา ตำรวจมา แต่เขาก็ไม่หยุด บางคนก็บอกว่า คนขับทำไม…จัง ปล่อยให้กระเป๋ษทำร้ายผู้โดยสาร ห้ามเดี๋ยวนี้
จนคนขับลงไปดึงตัวเขาออกมา แต่เขาก็บอกพี่ไม่ต้องดึง จะตีมันให้ตาย จนสุดท้ายยังท้าทายด้วยว่า จะเอาเบอร์โทรร้องเรียนมั้ย ไปร้องเรียนด้วย ตนก็บอกว่า ไม่เอาหรอก ตอนนั้นน้ำตาไหล จนตรอกมาก ทำไมต้องมาโดนตีแค่เงินแบงค์ร้อย ตายก็ตาย ไม่ไหวจริงๆ หัวโดนโขกพื้นจนชาหมด
ตอนนั้นคิดว่าจะไปบอกลูกชายให้โทรแจ้งความ แต่มาคิดอีกทีเขาคงไม่แจ้งความอาจจะไปดักทำร้ายเขาถ้ารู้ว่าแม่โดนแบบนี้ จึงตัดสินใจไปแจ้งความด้วยตนเอง พอเราไปถึงตำรวจด้วยความดีใจที่เรารอดมาตรงนั้น จึงร้องไห้โฮออกมา
แต่ตำรวจกลับถามว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม จนตำรวจบอกให้เอาใบรับรองแพทย์ แล้วค่อยมาแจ้งความ พอไปหาหมอกลับมาที่โรงพัก มาหาสารวัตร เขากลับถามว่า คุณไปทำร้ายเขาหรือเปล่า คุณไปด่าเขาหรือเปล่า ไม่งั้นเขามาตีคุณไม่ได้หรอก
ตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะไม่มีหลักฐาน จนสุดท้ายปรับกระเป๋าค่ารถเมล์ 100 บาท และดำเนินคดีไม่ได้เพราะเป็นคดีทะเลาะวิวาท ไม่มีหลักฐาน จนกระทั่งตำรวจจ่ายค่ายาให้ 3,000 บาท และไม่สามารถเอาเรื่องได้ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เลยต้องยอมความกันไป ก่อนที่คลิปจะเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต
คุณสุรีย์ ยังบอกอีกว่า มีคนเห็นพนักงานกระเป๋ษรถเมล์ยังคงทำงานอยู่ และทางบริษัทไม่เคยมาขอโทษ ผลไม้สักกิโลก็ไม่เคย แถมยังมาออกข่าวไปบอกกับผู้อำนวยการเขต ว่าบริษัทได้มาเยียวยา จ่ายค่าสินไหม ซึ่งตนไม่เคยได้รับแม้แต่บาทเดียว
โทรศัพท์ก็ไม่เคย เสียความรู้สึกมาก ขอบคุณคนที่ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากนี้ตนได้แจ้งความใหม่ ปรึกษาท่านสารวัตรอีกคนหนึ่ง แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท ที่เระบุว่า ทางบริษัทได้ไปเยียวยาตน แต่จริงๆแล้วไม่เป็นความจริง ซึ่งผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม