4 สถานที่หวงห้าม ประกาศชัด "ห้ามตาย"





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก iaaheritage.org , japan-guide.com  , contentwire.com , webexpedition18.netdna-cdn.com , cancelloedarnonenews.com , francethisway.com

          เป็น สัจธรรมชีวิตอย่างหนึ่งของมนุษย์เราที่มีการเกิด แก่ เจ็บ และตายในที่สุด ซึ่งเมื่อมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ต้องมีการนำศพไปทำพิธีต่าง ๆ ตามความเชื่อของแต่ละศาสนา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณรู้หรือเปล่าว่าในโลกนี้มีสถานที่ซึ่งห้าม "ความตาย" อย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย แถมบางแห่งยังออกกฏด้วยว่าใครฝ่าฝืนมีบทลงโทษตามกฏหมายอีกต่างหาก

          ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขอพาทุกท่านไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ว่านี้ เพื่อให้คุณ ๆ ได้ทราบกันซะหน่อยว่า เป็นสถานที่แอนตี้เรื่องศพและความตายกันจริง ๆ ซึ่งจะมีที่ไหนในโลกนี้บางนั้น ตามมาดูกันเลย..
 


ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น (Itsukushima, Japan)

          ตามความเชื่อของศาสนาชินโตบอกไว้ว่า ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ บนเกาะมิยาจิม่าแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นเคารพบูชาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่เชื่อกันว่าที่นี่เป็นสถานที่ของเทพเจ้าที่คอยปกปักรักษาและ คุ้มครองภัยจากทะเล อีกทั้งยังมีการเล่ากันปากต่อปากมาเรื่อย ๆ ด้วยว่าเรื่องของความบริสุทธิ์ ที่นี่จะเคร่งครัดมาก ๆ ถึงขนาดที่ว่า ห้ามไม่ให้มีการคลอดลูกบนเกาะ ถ้ามีคนป่วยก็ให้ย้ายออกไป รวมถึงการฝังศพ ก็ยังเป็นสิ่งต้องห้ามของศาลเจ้าแห่งนี้อีกด้วย
 


เมืองลองเยียร์เบียน ประเทศนอร์เวย์ (Longyearbyen, Norway)

          นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในฝั่งประเทศยุโรปที่ขึ้นชื่อกับเรื่องต้องห้ามที่ เกี่ยวข้องกับความตาย แม้ว่าที่เมืองลองเยียร์เบียนจะมีสุสานเล็ก ๆ เหมือนตามเมืองอื่น ๆ ทั่วไป แต่คุณรู้กันหรือไม่ว่า สุสานที่ว่านี้ไม่ได้รับศพใดเพิ่มมาเป็นเวลากว่า 70 ปี เข้าให้แล้ว ด้วยเหตุผลทางภูมิอากาศที่หนาวจัด เลยคงสภาพให้ศพทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ ไม่เคยย่อยสลายไปตามกาลเวลาเลย หรือจะอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ สภาพศพก่อนจะโดนฝังนั้นเป็นยังไง ณ ตอนนี้ก็ยังคงสภาพเหมือนเดิม

          มี อยู่ครั้งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์มาสำรวจว่าข้อเท็จจริงนี้มีความเป็นไปได้ มากน้อยขนาดไหน ก็เลยลองนำเศษกระดาษทิชชู่ที่ติดมากับศพไปตรวจวิเคราะห์ ซึ่งผลที่ได้ก็พบว่า ยังคงมีเชื้อไวรัสของโรคไข้หวัดใหญ่ติดมาจากศพซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ได้ย่อยสลายหายไปไหน แม้ว่าศพนี้จะเสียมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1917 หรือกว่า 95 ปีมาแล้วก็ตาม
 


เมืองฟัลเซียโน่ เดล มัสซิโก้ ประเทศอิตาลี (Falciano del Massico, Italy)

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของอิตาลีนี้ จะได้รับคำสั่งจากนายกเทศมนตรีอย่างที่หลาย ๆ คนไม่เคยคาดคิดกันอย่างแน่นอน เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางนายกเทศมนตรีของเมืองได้ออกมาประกาศให้ประชาชนได้ทราบกันอย่างชัดเจนเลย ว่า "ห้ามมีคนตายเพิ่มเด็ดขาด" ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลอื่นใดนอกเสียจาก สุสานของเมืองนี้ไม่มีพื้นที่เหลือพอจะฝังศพใด ๆ เพิ่มแล้วนั่นเอง

          ทางนายกเทศมนตรี บอกว่า กำลังเจรจากับเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ ในการหาพื้นที่เพื่อขยายสุสานให้ชาวเมือง แต่ในระหว่างนี้ก็ขอให้ประชาชนดูแลตัวเองกันก่อน อย่าเพิ่งล้มหายตายจากกันไปไหน เพราะไม่มีที่จะให้ฝังศพจริง ๆ
 



         

      
เมืองซาร์ปูร็องซ์ ประเทศฝรั่งเศส (Sarpourenx, France)

          ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 นายเกราร์ด ลาล็องน์ นายกเทศมนตรีเมืองซาร์ปูร็องซ์ เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ประกาศให้ชาวเมืองได้ทราบโดยทั่วกันเลยว่า นับตั้งแต่ช่วงเวลานั้นจนถึงปัจจุบันและต่อ ๆ ไป ทางเมืองจะไม่ทำการขยายสุสานเพื่อฝังศพใครเพิ่มทั้งนั้น นอกจากนั้นแล้ว หากใครที่มีอาการร่อแร่ว่าใกล้จะถึงฝั่งของชีวิตแล้วนั้น ก็ขอให้ไปรักษาตัวหรือไปทำพิธีฝังศพนอกเมืองด้วย ไม่อย่างนั้น จะถือเป็นการละเมิดข้อกฏหมายทันที

          ส่วน เหตุผลที่ทำให้เขาออกมาประกาศแบบนั้นก็เพราะทุกพื้นที่ของสุสานเต็มแล้ว ครั้นจะขยายพื้นที่สุสานออกไปก็ไม่สามารถทำได้ นี่เองเลยส่งผลให้นายลาล็องน์ออกมาประกาศว่าจะไม่มีการฝั่งศพเพิ่มเติมอีก แล้ว

          และนี่ก็คือเมืองต่าง ๆ กับเรื่องแปลก ๆ ที่แบนการเสียชีวิตโดยเด็ดขาด ซึ่งจะว่าไปโลกเราก็มีอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมายมากมายพอสมควร แม้แต่คนจะตายจะหาที่ฝังศพก็ยังไม่มีเลย โอ้ล่ะหนอโลกมนุษย์!!


 
Credit: kapook.com
22 มี.ค. 55 เวลา 10:26 10,964 10 180
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...