ขึ้นชื่อเรื่องไว้อย่างนี้ อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องการค้ายาเสพติดในคุก
เพราะว่าเงิน 7 แสนบาทที่หาได้นี้ไม่เกี่ยวกับการค้ายาเสพติดแต่ประการใด
แล้วทำได้ไง ต้องเร่เข้ามาฟังทางนี้
ชายหนุ่มนามว่า ต้น (นามสมมติ) วัย 40 ปี ติดคุกด้วยข้อหาค้ายาเสพติด เมื่อ 13 ปีก่อน โดยศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุก ตลอดชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดเหลือ 25 ปี ซึ่งต้นก็พอใจ ไม่ยื่นฎีกา ด้วยเกรงว่า ศาลฎีกาจะตัดสินออกมาแบบไม่มีตัวเลขดังศาลชั้นต้น
แต่ด้วยการเป็นนักโทษชั้นดี จึงได้ลดโทษเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับอิสรภาพ เมื่อเร็วๆ นี้
ต้นเล่าให้ "มติชนออนไลน์" ฟังว่า ค่าของเงินไม่มีความหมาย สำหรับคนที่อยู่ในคุก ดังนั้น คนที่มีเงิน จึงใช้เงิน “ซื้อ” ทุกอย่าง ทั้งสินค้าและบริการ
ต้นติดคุกอยู่หลายปี และมองเห็นช่องทางการหารายได้จากจุดนี้
เริ่มตั้งแต่รับจ้างซักผ้า มีลูกค้าอยู่ราวๆ 40-50 คน คิดคนละ 300 บาทต่อเดือน แต่บางคนกระเป๋าหนัก ก็ให้เดือนละ 400-500 บาท เพราะเห็นใจที่ต้องทำงานแลกเงิน ซึ่งเสื้อผ้าก็เป็นเสื้อผ้านักโทษบางๆ ซักไม่ยาก คนละ 2 ชุด ต่อวัน
อีกงานหนึ่งที่มีรายได้ไม่น้อย คือรับจ้างต่อคิวรับข้าว ทั้งเช้า กลางวัน เย็น เพราะนักโทษบางคน ขี้เกียจกระทั่งไปยืนต่อคิว รับข้าวเอง ต้นจะมีลูกค้าประเภทนี้ 4-5 คน ได้ค่าจ้างคนละ 300 บาท
แม้ว่า กฎระเบียบในคุก จะห้ามมีสิ่งของมากมาย ทั้ง โทรศัพท์ เงิน อุปกรณ์การพนัน วัตถุไวไฟ ฯลฯ แต่ต้นบอกว่าในคุกก็มีเกือบทุกอย่างที่กฎระเบียบห้ามไว้ โดยเฉพาะเงิน
นักโทษที่อยู่ร่วมกับต้น ส่วนใหญ่เป็นนักโทษคดีหนัก ติดหลายปี ดังนั้นสภาพสังคมภายในคุก ก็พยายามให้เหมือนข้างนอกคุก นั่นคือมีการซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภค มีเงินใช้จ่ายกันตามปกติ เพราะทุกคนล้วนอยากมีชีวิตปกติ แม้ว่าราคาสินค้าจะขยับขึ้นไป 50-100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
ใครที่ต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค ต้องนำเงินไปให้พ่อค้า (นักโทษด้วยกันนี่แหละ) แล้วเมื่อไปรับสินค้ามาใช้ มากินแล้ว ก็หักเงินกันไปเรื่อยๆ ทำนองจ่ายก่อน กินทีหลัง เพราะนี่คืออีกสังคมหนึ่งที่มีระบบต่างไปจากสังคมภายนอก
กฎระเบียบในคุก ห้ามมีโทรศัพท์เด็ดขาด แต่ต้นเล่าว่า หากข้างนอกมีไอโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวไม่กี่วัน นักโทษในคุกก็ถือไอโฟนแล้ว แต่ขอบอก เครื่องละ 80,000 บาท เพียงแต่ เอาเข้ามาให้ได้หรือเปล่า เท่านั้น
ส่วนไอแพด ใหญ่ไปนิดหนึ่ง ซ่อนลำบาก เลยไม่ใช้กัน
ดังที่กล่าว ค่าของเงินในคุกไม่มีความหมาย .....ขอให้มีสินค้าและบริการเข้ามาเถอะ
นักโทษที่มีเงินซื้อสินค้าและบริการเช่นนี้ เป็นใคร?
ต้น บอกว่า ก็พวกค้ายาเสพติดไง..เงินหามาได้ง่าย ก็ใช้ง่าย
แล้วยาเสพติดในคุกล่ะ.?
ผู้มีประสบการณ์ตรงอยู่ในคุก 13 ปี กระซิบว่า...ไม่เคยขาด ...(เฮ้ย จริงรึ?)
ต้นว่า มีเป็นขบวนการค้ายาในนั้น อย่ามาบอกว่า ไม่จริง !!
เพื่อนนักโทษบางคนเข้ามาในคุกด้วยคดียาเสพติด อาจจะเป็นผู้เสพ หรือผู้ขายรายย่อย แต่พอเข้ามาอยู่ในคุก ได้วิชาจาก “มหา′ลัยโจร” แปลงร่างเป็นผู้ค้ารายใหญ่ได้ในเวลาไม่นาน
ต้น เล่าว่า นักโทษพวกนี้เข้ามาใหม่ๆ ยังไม่มีเครือข่าย แต่พออยู่ไปสักพัก ไปรู้จักกับ “ตัวจริง” ตัวจริงเหล่านี้ก็ครอบวิชาภาคทฤษฎีให้ ตั้งแต่บอกแหล่งผลิต แนะนำให้รู้จักเอเย่นต์ การส่งของ ต่อมาอีกสักพัก ก็เข้าสู่ภาคปฏิบัติ ด้วยการโทรศัพท์ออกไปข้างนอกให้พรรคพวก ไปรับของ ส่งของ ตรงนั้น ตรงนี้ ตามที่ “ตัวจริง” ชี้ช่องทาง กลับกลายเป็นเครือข่ายใยแมงมุมที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น
ต้นบอกว่า อยู่ในคุกไม่ต้องใช้เงินสักบาท ถ้ารู้จักประหยัด มีเงินเก็บ ถึงวันที่มีอิสรภาพเขาก็เก็บออมมาได้ ราว 7 แสนบาท ในเวลา 13 ปี
แต่ ณ เวลานี้ เขาออกมาแล้วเกือบ 1 เดือน ยังไม่มีรายได้สักบาท แต่ก็ไม่คิดจะกลับเข้าไปหาเงินในคุกอีกหรอกนะ (เขาบอกอย่างนั้น)
เพราะที่บ้านเขายังมี ที่นา ที่สวนมรดก ซึ่งแม่ของต้นเพิ่งขายที่ดินได้หลายล้านบาท รอลูกชายออกมาดูแล กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนภรรยาของต้นน่ะหรือ แต่งงานใหม่ไปตั้งแต่ที่ต้นติดคุกได้ 2 ปีแล้ว
และนี่คือ เรื่องราวของต้น ที่เสียโอกาสในชีวิตไปหลายอย่างในช่วง 13 ที่อยู่ในคุก แต่อย่าไปถามเลยว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ... เพราะเป็นไปไม่ได้ เอาแค่ว่า วันนี้ และวันพรุ่งนี้ เขาตั้งใจดูแลแม่ที่กำลังป่วยอย่างดีที่สุดเท่านั้น