วันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่าที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมตัวนายอลงกรณ์ หรือโต้ง เปรมปรีชา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/36 ซ.สายไหม 23/1 แขวง-เขตสายไหม กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรี ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ และใช้กำลังประทุษร้าย

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี น.ศ.มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะเดินทางกลับจากบ้านที่ต่างจังหวัด โดยขณะผู้เสียหายนั่งรถยนต์แท็กซี่มาถึงทางก่อนจะเข้าบ้านพักภายในซอยพหลโยธิน 69/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว พบว่ามีรถยนต์ซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นรถของผู้ต้องหา จอดปิดทางเข้าบ้านไว้ ทำให้ผู้เสียหายต้องลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้าบ้าน

ในขณะที่ผู้เสียหายกำลังจะไขกุญแจบ้าน ผู้ต้องหาก็วิ่งมาทางด้านหลัง แล้วใช้มีดจี้คอ ก่อนบังคับนำตัวไปขึ้นรถยนต์ของผู้ต้องหา แล้วขับพาผู้เสียหายไปยังที่เปลี่ยวภายในซอยพหลโยธิน 52 จากนั้นลงมือข่มขืนผู้เสียหายจนเสร็จ แล้วหยิบเอาทรัพย์สินของผู้เสียหาย ประกอบด้วยเงินสดประมาณ 9 พันบาท คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อูคูเลเล่ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หลังได้ทรัพย์สินแล้ว ผู้ต้องหาก็ขับรถนำตัวผู้เสียหายไปปล่อยลงในซอยประชาร่วมใจ ซ.21 แขวงมีนบุรี ก่อนจะขับรถหลบหนีไป โดยสภาพของผู้เสียหายขณะที่ถูกปล่อยตัวลงจากรถนั้นมีเพียงกางเกงในเพียงตัวเดียว ส่วนเสื้อผ้าที่เหลือผู้ต้องหาให้ลงไปใส่ข้างนอก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เหยื่อร้องขอความช่วยเหลือ หรือจดจำลักษณะรถของคนร้ายได้

ภายหลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม จากนั้นทางชุดสืบสวนตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เช่นภาพจากกล้องวงจรปิด จนทราบรถและทะเบียนของคนร้าย ก่อนที่จะตรวจสอบประวัติจนทราบชื่อและที่อยู่ โดยพบว่า นายอลงกรณ์มีประวัติเคยต้องคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง จากนั้นจึงนำกำลังเข้าจับกุมตามหมายศาล

จากการสอบสวนนายอลงกรณ์ ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเพิ่งพ้นโทษคดีลักรถจักรยานยนต์มาได้ไม่นาน หลังจากติดคุกอยู่ 2 ปี วันเกิดเหตุ ออกจากบ้านไปตระเวนหาเงินเพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ กระทั่งดึกก็ยังหาเหยื่อไม่ได้ ก็เลยมาจอดรถอยู่ใกล้ๆ กับบ้านของผู้เสียหาย เพราะเห็นว่าเป็นซอยเปลี่ยว

พอดีเห็นผู้เสียหายเดินลงจากรถแท็กซี่ เลยรีบฉวยโอกาสลงมือ ตอนแรกก็ต้องการเพียงทรัพย์สินอย่างเดียว แต่พอดีเกิดอารมณ์ขึ้นมาก็เลยพาตัวไปข่มขืนด้วย หลังก่อเหตุแล้วก็จะนำตัวไปปล่อยไว้ไกลๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ ส่วนวิธีการ จำมาจากภาพยนต์หลายๆ เรื่อง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะสงสัยว่าอาจเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จึงจะสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วนตัวผู้ต้องหาภายหลังการสอบสวนนำตัวส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป