โดยทั่วไปแล้ว รอยสักเป็นงานศิลปะบนเรือนร่างอย่างหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด แต่ในอดีตนั้น ความนิยมในการสักยังอยู่ในวงจำกัด และสังคมยังมองว่า คนที่สักมักเป็นคนไม่ดี หรือเคยติดคุกมาก่อน แต่ตอนนี้ ทัศนคติเหล่านั้นได้เริ่มเปลี่ยนไป และการสักกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่ผู้ที่สนใจทั้งหญิงชาย แต่ส่วนมาก เราก็มักจะสักกันเล็ก ๆ ตามหลัง ข้อมือ ข้อเท้า แต่มาวันนี้ ได้มีกลุ่มคนที่ชืนชอบและคลั่งไคล้ในรอยสัก เริ่มสักตามอวัยวะที่ไม่น่าจะมีคนคิดว่าจะทำได้ ซึ่งทางเว็บไซต์รวมเรื่องแปลกจากทั่วโลกอย่าง oddee.com ได้รวบรวม 10 สุดยอดรอยสักที่แปลกแหวกแนวมากที่สุด มาให้ได้ชมกันค่ะ

 

         เฮน เบรก วัย 33 ปี ชาวนอร์เวย์ ได้เสียแขนของเขาไปจากอุบัติเหตุรถไฟทับในวัยเด็ก จึงทำให้เขาต้องตัดแขนข้างขวาทิ้ง เหลือเพียงแขนส่วนที่กุดสั้น ๆ เท่านั้น เขา รู้ว่าส่วนของแขนที่กุดลงดูแล้วคล้ายกับหัวปลาโลมา  ดังนั้น เขาจึงขอให้ นายวาลิโอ สกา ช่างสักลายชาวบัลแกเรีย เป็นคนสักแขนกุดของเขาให้กลายเป็นรอยสักรูปโลมาแบบ 3 มิติ ซึ่งช่างสักลายใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น

 

         หากใครที่มีปัญหาศีรษะล้าน อาจจะใช้วิธีการสวมวิก หรือปัดผมด้านข้างมาปิด แต่ตอนนี้ ร้านสักแห่งหนึ่งในอังกฤษ สามารถปกปิดอาการหัวล้าน ด้วยการสักผมให้ดูคล้ายกับผมทรงสกินเฮด โดยร้านสักแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองเบอร์มิ่งเเฮม ของอังกฤษ ซึ่งทางร้านใช้วิธีการสักแบบนุ่มนวล เพื่อเปลี่ยน ศีรษะล้านให้กลายเป็นผมทรงสกินเฮด หรือคล้ายกับผมตัดสั้นเกรียน ส่วนขั้นตอนในการทำที่ทางร้านเรียกว่า วิธีการจำลองรูขุมขนนั้น ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ แต่ทางร้านยังต้องนัดลูกค้ามาเรื่อย ๆ เพื่อติดตามผล

 

         ดูแล้วอาจจะสยองไปหน่อย เพราะนี่คือการสักเข้าไปในตาขาว ให้เป็นสัญลักษณ์รูปทรงเลขาคณิต อาจจะนับได้ว่า นี่เป็นการสักที่อันตรายที่สุดแบบหนึ่งก็ว่าได้

 

         ตอนแรกที่หลาย ๆ คนเห็นภาพนี้ อาจจะคิดว่า นี่เป็นรอยสักบนเล็บเท้า แต่จริง ๆ แล้ว นี่เป็นรอยสักใต้เล็บเท้า ซึ่งเป็นภาพที่ร้านสักแห่งหนึ่งในแอทแลนติค ซิตี้ สหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่าร้าน โฮลด์ฟาสท์ แทททู โค เป็นผู้สักให้กับหนุ่มคนหนึ่งนามว่า จอห์น และแน่นอนว่า ก่อนที่จะสักลงไป ต้องมีการถอดเล็บเท้าออกก่อน ดูแล้วแอบน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย

 

         ตามปกติแล้ว สีที่ใช้ในการสักจะประกอบด้วยเม็ดสีและสารเคมีที่จะนำเม็ดสีเหล่านี้เข้าไป ติดบนผิวหนังอย่างถาวร แต่รอยสักสีขาวเป็นสิ่งที่ต่างออกไป เพราะรอยสักแบบนี้จะไม่มีเส้นรอบนอก และรอยสักทั้งหมดจะออกมาเป็นสีขาว ซึ่งรอยสักสีขาวนี้ เป็นเทรนด์ใหม่มาแรงของผู้ที่ชื่นชอบในการสักลาย และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

         แรกเริ่มเดิมที การสักบนอวัยวะเริ่มต้นขึ้นในอุตสาหกรรมการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อที่จะรับประกันว่า คนไข้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายจะได้รับอวัยวะที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ การสักบนอวัยวะกลายมาเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง อาทิ การสักลงบนถุงน้ำดี สมอง หัวใจ เป็นต้น

 

         โดยทั่วไปแล้ว คนทั่วไปมักจะสักเล็ก ๆ ตามเเขน ขา หรืออวัยวะอื่น ๆ แต่บางคน กลับชื่นชอบการสักบนในหน้า ซึ่งการสักแบบนี้ เป็นหนึ่งในการสักที่ดูแล้วบ้าคลั่งมากที่สุด เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในสายตาของผู้คนในสังคม

 

         นี่เป็นรอยสักของนายริชาร์ด แอชตัน อายุ 27 ปี อาชีพเทรนเนอร์ส่วนตัวจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า เขาจะไม่มีวันลืมหรือทำพาสปอร์ตหายแน่นอน เพราะตอนนี้ พาสปอร์ตกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เมื่อเขาสักลายพาสปอร์ตลงไปที่หลัง ซึ่งนี่เป็น หนึ่งในความทรงจำของเขาเมื่อเขาแพ็คกระเป๋าเดินทางไปที่ออสเตรเลียเมื่อปี 2005 และแม้ว่าเขาจะมีพาสปอร์ตสักลงไปที่หลังของเขา แต่ทาง ตม. ก็ยังต้องการพาสปอร์ตตัวจริงของเขาอยู่ดี แต่ที่น่าแปลกคือ เขาออกมาเผยว่า เขาเคยถอดเสื้อแล้วโชว์รอยสักรูปพาสปอร์ต เพื่อที่จะถอนเงินในประเทศออสเตรเลียมาแล้วด้วย

 

         การควบคุมน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจจะยากสักหน่อย แต่ตอนนี้ มีนวัตกรรมน้ำหมึกในรอยสัก ที่จะเปลี่ยนสีไปตามระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ซึ่งหมึกสักดังกล่าว พัฒนาขึ้นมาโดย เดรปเปอร์ ลาบอราทอรี่ ที่ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา และด้วยหมึกแบบนาโนเทคดังกล่าว จะทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ต้องเจ็บตัวจากการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดอีกต่อไป

 

         คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อตอนที่เราเด็ก ๆ เจ้าหญิงดิสนีย์เป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กทั่วโลก  แต่เมื่อเราโตขึ้นเเล้ว ก็ดูเหมือนว่า ความทรงจำของเจ้าหญิงดิสนีย์จะเลือนรางไปตามกาลเวลา แต่สิ่งเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นกับ เเอนเฟย์ เคา อายุ 27 ปี จากเมืองไต้ชุง ประเทศไต้หวัน เมื่อเธอลงทุนสักลายรูปตัวการ์ตูนจากเรื่องสโนวไวท์และคนแคระทั้ง 7 ลงทั่วแผ่นหลังของเธอ ซึ่งรอยสักชิ้นนี้ ได้รับรางวัลจากเทศกาลรอยสักนานาชาติที่สิงคโปร์มาแล้ว

        เห็นแล้ว อยากเดินเข้าร้านสักกันบ้างไหมเอ่ย แต่ขอเตือนสติกันไว้ก่อนว่าควรเลือกร้านสักที่ไว้ใจได้ และอย่าสักบนอวัยวะที่มีความบอบบาง เพราะถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา รอยสักสวย ๆ อาจมีค่าเท่ากับชีวิตของเราได้เลยนะ ^^