P { margin: 0px; }

เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เวียดนามเน็ต รายงานว่า แฟนละครเวียดนามสุดช็อก ฉากหนุ่มเลียหน้าอกสาวโผล่ในละครช่วงไพร์มไทม์ ชาวเวียดนามจวกเละ ไม่เหมาะสมอย่างที่สุด เรียกร้องให้ผู้กำกับออกมาขอโทษสาธารณชน

รายงานระบุว่า ละครเรื่องดังกล่าว คือละครเรื่อง ฮวานั้ง (ดอกไม้แห่งตะวัน) เป็นละครแนวดราม่าที่สะท้อนภาพชีวิตเหลวแหลกของหนุ่มสาวชาวเมือง ออกอากาศเวลา 21.15 น. ซึ่งเป็นช่วงไพรม์ไทม์ในเวียดนาม และมีแฟนละครทุกเพศทุกวัยติดตามอยู่มากกว่า 327,000 คน เรียกว่าค่อนข้างได้รับความนิยมในเวียดนามตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ออกอากาศ แต่แล้วเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ละครเรื่องนี้กลับทำให้แฟนละครอึ้งและไม่พอใจสุด ๆ เมื่อมีฉากหนุ่มเลียหน้าอกสาวปรากฎขึ้น ทำให้ฉากนี้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาทันที

โดยฉากที่เป็นต้นเหตุของการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว เป็นฉากที่ชายหนุ่มคนหนึ่งพาแฟนสาวไปสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อน และในขณะที่แฟนสาวในชุดเกาะอกกำลังนั่งดื่มไวน์ ไวน์ก็เกิดหกรดหน้าอกแฟนสาว ชายหนุ่มคนดังกล่าวจึงก้มลงไปเลียไวน์ที่หกรดบนหน้าอกแฟนสาว ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเพื่อน ๆ และแค่นั้นยังไม่พอ เพื่อนของชายหนุ่มยังท้าให้ทำแบบนั้นต่อ แฟนสาวจึงเทไวน์ให้หกรดหน้าอกของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มลงไปเลียหน้าอกยกใหญ่ ขณะที่เพื่อนก็หยิบกล้องขึ้นมาบันทึกคลิปวิดีโอเก็บไว้

หลังจากฉากนี้ออกอากาศในวันนั้น ปรากฎว่ามันได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในชั่วข้ามคืน เมื่อผู้ชมส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับการเสนอภาพดังกล่าว เนื่องจากละครเรื่องนี้มีเยาวชนติดตามอยู่มากมาย แถมยังออกอากาศในช่วงที่มีคนดูเยอะที่สุดอีกด้วย ดังนั้น การเสนอฉากเลียหน้าอกซึ่งเป็นภาพที่ส่อไปในเรื่องเซ็กส์ จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ทางผู้กำกับและสถานีโทรทัศน์ควรพิจารณาอย่างด่วน พร้อมทั้งมีการเรียกร้องให้ทางผู้กำกับออกมาขอโทษสาธารณชนอีกด้วย

อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว นายมิงกวาง ผู้กำกับละครเรื่องนี้ได้ออกมาขอโทษสาธารณชนแล้ว โดยกล่าวว่า เหตุผลที่เขาต้องถ่ายฉากนี้นั้น ก็เพราะอยากจะสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองว่าเหลวแหลกเพียงใด แต่ลืมนึกถึงช่วงเวลาในการออกอากาศไป ซึ่งเขาก็รู้สึกเสียใจกับการปล่อยฉากนี้หลุดออกไปมาก และยอมรับว่าเป็นฉากที่ไม่เหมาะสมและทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจ แต่จากนี้ไป เขายืนยันว่าจะไม่มีฉากที่ส่อไปในเรื่องเซ็กส์เช่นนี้เผยแพร่ออกไปอีกอย่างแน่นอน