ระบบ cloud กำลังจะกลายเป็น digital center สำหรับเก็บข้อมูลของเรา เมื่อพิจารณาจากความนิยมของสมาร์ทโฟน, ไอแพดและอุปกรณ์อื่นๆที่สามารถเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์เพื่อให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้

กระแส client computing ได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมที่มุ่งเน้นที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่รวมทุกอย่างไว้ในนั้น แต่ตอนนี้แนวโน้มก็คือการทำให้อุปกรณ์ต่างๆอย่างสมาร์ทโฟน, แท็ปเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆเชื่อมต่อเข้าด้วยกันหมด บริการ cloud ที่เกิดขึ้นจะทำหน้าเสมือนเป็นกาวที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับเว็บหรือบริการที่ผู้ใช้เลือก ในช่วงเวลาต่างๆของวันที่ใช้อุปกรณ์ที่ต่างกันได้

ปัจจุบันระบบ cloud ได้กลายเป็นเรื่องปกติและกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้คอมพิวเตอร์ไปซะแล้ว ทั้ง Microsoft และ Apple ต่างก็นำความสามารถของ cloud มาใส่ไว้ในระบบปฎิบัติการของตนเอง ทางฟากกูเกิ้ลก็เพิ่งเปิดตัว cloud-centered initiative ชื่อว่า Google Play ที่มาพร้อมกับบริการเก็บข้อมูล cloud storage ส่วนตัว

แน่นอนว่ายังมีอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ cloud-centered computing ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร นั่นก็เกิดมาจากการพัฒนาซอพท์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำงาน แต่ถ้า cloud เป็นที่ต้องการของตลาดมาก ปัญหาเหล่านั้นก็จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

ในโลกขององค์กรสมัยใหม่ การพึ่งพาอุปกรณ์แค่ตัวใดตัวหนึ่งเริ่มจะลดบทบาทลงไปเรื่อยๆ ผู้ใช้จะสามารถใช้อุปกรณ์พกพาหลายๆตัวพร้อมกับพีซีที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเลือกพีซีหรืออุปกรณ์ตัวใดให้ทำหน้าที่เป็น primary hub แต่ระบบ personal cloud จะทำหน้าที่นั้นให้เอง นอกจากนี้การเข้าใช้และคอนเท้นท์ที่อยู่บนระบบ cloud จะถูกบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง แทนทีจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยที่ตัวอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว