สถานีเอ็นบีซีและฟ็อกซ์ของสหรัฐรายงานเปิดตัวเจ้าหนูอัจฉริยะ โมเช่ ไค คาวาลิน เด็กชาวอเมริกัน
ลูกครึ่งยิว-ไต้หวัน ที่เรียนจบวิทยาลัยชุมชนอีสต์ นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย
คว้าเกียรตินิยมด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 ด้วยวัย 11 ขวบ
"ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเด็กอัจฉริยะ เพราะโลกนี้มีคนตั้ง 6,500 ล้านคน
และทุกคนก็มีความฉลาดในเรื่องต่างๆ กันไป ความฝันของผม
ผมอยากเป็นดาราหนังแล้วก็ลงแข่งศิลปะป้อง กันตัวในกีฬาโอลิมปิก 2016"
เด็กชายโมเช่ กล่าวและว่า ในอนาคตอยากใช้ความรู้ที่มีช่วยเปลี่ยนแปลงโลกให้ดียิ่งขึ้น
เด็กชายฉายแววฉลาดตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ไม่มีโรงเรียนใดอยากรับ
เพราะเก่งกว่าครู พ่อแม่จึงสอนลูกที่บ้านตามแนวทางโฮมสคูล
กระทั่งอายุ 8 ขวบ วิทยาลัยดังกล่าวรับให้เข้าเรียน
ต่อมายังอนุญาตให้ลงทะเบียนเป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์
ขณะที่ด.ช.โมเช่ยังเตรียมเลือกเรียนเอกวิชาฟิสิกส์ดาราศาสตร์ วิชาโปรด ในระดับมหาวิทยาลัย
ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า โมเช่วางแผนหยุดพักการเรียนชั่วคราวเพื่อทำสิ่งที่ชอบ
เช่น เขียนหนังสือแนะนำเคล็ดลับการเรียนให้เด็กคนอื่นๆ อ่าน
รวมถึงเรียนดำน้ำ และฝึกฝนศิลปะต่อสู้ป้องกันตัวเพิ่มเติม
หลังคว้ารางวัลมาหลายรายการ
ส่วนวิดีโอเกม เด็กชายบอกว่า ไม่ชอบเล่น เพราะเสียเวลา ไม่ได้ช่วยให้มนุษยชาติดีขึ้น
กับเพื่อนๆนักศึกษา
เจ้าหนู อัจฉริยะ โมเช่ ไค คาวาลิน (Moshe Kai Cavalin)
เป็นเด็กอัจฉริยะที่ไม่ยอมให้เรียกเขาว่าเด็กอัจฉริยะ
ปัจจุบันอายุ 11 ปี และความสูงเพียง 4 ฟุต 7 นิ้ว ด้วยส่วนสูงดังกล่าวนี้
ทำให้เวลาที่เขานั่งเรียนในห้องร่วมกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ วัย 19 - 20 ปี
ใน East Los Angeles College นั้น เท้าของเขายังแตะไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ
Cavalin กับแม่ Shu Chen Chien ชาวไต้หวัน
พ่อของ Cavalin เป็นชาวอิสราเอล ขณะที่แม่ Shu Chen Chien เป็นชาวไต้หวัน
ครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา
ส่วน Cavalin แม้ว่าปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ East Los Angeles College
แต่ภายในปีนี้ หากว่าเขาสามารถรักษาเกรด
และทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของสถาบันได้เสร็จสิ้น
เขาจะทรานสเฟอร์ไปศึกษาต่อด้านดาราศาสตร์ ในสาขา astrophysics
ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางฟิสิคส์ของนพเคราะห์และดวงดาวอื่น ๆ
ที่ต้องใช้เวลาในการศึกษานาน 4 ปี
หนึ่งในเรื่องที่เขาสนใจคือ "Wormholes"
ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ยังคงเป็นแค่ข้อสมมติฐาน
แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับทฤษฎีของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
โดยเขาตั้งใจว่าจะพิสูจน์ถึงการมีอยู่จริงของ Wormholes และพิสูจน์ว่าทฤษฎีต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
กิจวัตรประจำวันหลังเลิกเรียนของ Moshe Kai Cavalin นั้น
คือการทำการบ้านวิชาสถิติให้เสร็จ ก่อนจะไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่เขาสนใจ
โดย Cavalin ยังชอบเล่นฟุตบอล ชอบดูหนังบู๊ของเฉินหลง
สะสมรถยนต์ของเล่น และหมวกเบสบอลที่มีตราเสืออยู่บนหมวก
เพราะเขาเกิดในปีเสือตามปีนักษัตรจีน
แต่ Cavalin ก็ไม่ใช่เด็กที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถสำเร็จการศึกษาในระดับนี้ได้
หากแต่เป็น Micheal Kearney ที่ได้รับการยกย่อง โดย Micheal
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านมนุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยเซาท์อลาบามา
เมื่อตอนอายุ 10 ขวบ (ปัจจุบัน Micheal อายุ 24 ปี)
Daniel Judge อาจารย์สอนวิชาสถิติของ Cavalin
"อย่างไรก็ดี เขาเป็นนักเรียนที่เด็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาของสถาบันเรา
และก็เป็นคนที่มีความอุตสาหะอย่างสูงในการเรียน
โดยในห้องเรียนเขาเป็นเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี ปรับตัวได้รวดเร็ว และเป็นเด็กที่น่ารักมาก"
แดเนียล จัดจ์ (Daniel Judge) อาจารย์ด้านสถิติของ Cavalin กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2006 Cavalin อายุ 8 ขวบ
และได้เข้าเรียนในคลาสของ Guajao Liao ในวิชา Intermediate algebra
และในช่วงปลายเทอม อาจารย์ผู้สอนได้ให้เขาช่วยเป็นติวเตอร์ให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ นักเรียนคนอื่น ๆ ในคลาสด้วย
"เราได้เคยคุยกับผู้ปกครองของเด็กแล้วว่า ความสามารถของเขานั้นสูงเกินไปแล้ว
เขาควรจะไปลงเรียนในหลักสูตรที่สูงขึ้นไปแต่ทางพ่อแม่ของเด็กบอกว่า ไม่อยากผลักดันเด็กมากจนเกินไป"
พ่อแม่ของ Cavalin เองก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า "อัจฉริยะ" กับลูกชาย
โดยบอกเพียงว่า ลูกชายของพวกเขานั้นเป็นเด็กธรรมดา เหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป
ที่บังเอิญรักการเรียนมากไปหน่อยเท่านั้นเอง
โดยในช่วงวัย 6 ขวบนั้น Cavalin เคยจะเข้าเรียนในโรงเรียนประถมเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป
หากแต่ได้รับการทักท้วงจากครูในโรงเรียนว่า เขาไม่เหมาะกับการเรียนการสอนดังกล่าว
เนื่องจากเขาเข้าใจเนื้อหาที่จะเรียนปรุโปร่งไปหมดแล้ว
ทางครอบครัวจึงต้องจัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูลให้กับเขาที่บ้านแทน
แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ปี พวกเขาก็ตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียนในระดับวิทยาลัย
โดยในช่วงแรก ทางสถาบันยอมให้เขาลงทะเบียนได้เพียงสองวิชา
คือคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ แต่หลังจากที่ผลคะแนนออกมาและเขาได้ A+ ทั้งสองวิชา
เขาก็ได้รับโอกาสลงทะเบียนเรียนได้ตามที่ใจต้องการ
ทั้งนี้หลังจากที่เขาเรียนมาได้ 1 ปีกว่า ๆ เกรดเฉลี่ยของเขาก็ยังคงอยู่ในระดับ A+ ด้วย
ด้าน Cavalin กล่าวถึงตัวเองอย่างถ่อมตัวว่า
เขาคงไม่นิยามความสำเร็จของตนเองในครั้งนี้ว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ
เพราะคนบนโลกนี้มีอยู่อีกกว่า 6.5 พันล้านคน และแต่ละคนต่างก็มีอัจฉริยภาพที่แตกต่างกัน
ขณะที่อาจารย์ของ Cavalin อย่างแดเนียล จัดจ์กล่าวว่า
"เด็กนักเรียนส่วนมากมักสร้างกำแพงขึ้นมาขวางกั้นความสามารถของตัวเอง
ด้วยการคิดว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัวนั้นช่างเป็นเรื่องยากเกินความสามารถ
นั่นจึงทำให้พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
แต่เคสของ Cavalin นั้นแตกต่างออกไป
แม้ว่า Cavalin จะพบความยุ่งยากแต่เขาก็เลือกที่จะเดินต่อไป
เรียกได้ว่าเขาพัฒนาความสามารถได้อย่างถูกทาง"
เรียบเรียงจากฟ็อกซ์นิวส์
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์