รอดมีชีวิต ด้วยการกินเนื้อ ดื่มเลือด จากศพ

จงอย่ายอมแพ้ที่จะมีชีวิต แม้จะต้องกินเนื้อ ดื่มเลือด จากศพ


 


You คุณจะทำอย่างไรถ้า คุณ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รอดชีวิต จากเหตุการณ์เครื่องบินตก อยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะที่หนาวเหน็บ ได้รับบาดเจ็บ ขาดแคลนทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม ท่ามกลางศพของญาติ พี่ น้อง และเพื่อนสนิท จะยอมตายกลายเป็นผี หรือ จะสู้โดยการกลายเป็นยักษ์มาร

 ฟังเรื่องราว ของ กลุ่มคนที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะต้องเป็นยักษ์มาร

 

12 ตุลาคม 1972 เครื่องบินแบบ Twin Turboprop ของ Fairchild รุ่น FH-227 เที่ยวบินที่ 571 ของกองทัพอากาศอุรุกวัย ( Uruguayan air force ) ออกจาก Montevideo เพื่อไป Santiago ในประเทศชิลี โดยมีลูกเรือ 5 คน ผู้โดยสาร 40 คน
ภาพ เครื่องบิน Twin Turboprop ของ Fairchild รุ่น FH-227 เที่ยวบินมรณะที่ 571
เที่ยวบินนี้บินโดยกัปตันผู้มากประสบณ์การณ์ Antoine de Saint-Exupery ผู้เคยเป็นนักบินไปรษณีย์ผ่าน เทือกเขา Andes ผู้รู้ซึ้งถึงอันตรายในการบินผ่านพื้นที่นี้ดี เนื่องจากทัศนวิสัยที่เลวร้าย จาก กลุ่ม เมฆ หมอก ไอน้ำต่างๆ เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ( Chartered Flight ) สำหรับทีมรับบี้อุรุกวัย เพื่อไปแข่งในประเทศชิลี

ภาพถ่ายทีมรับบี้ อุรุกวัย ที่เช่าเหมาลำเที่ยวบิน 571
 
เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก เครื่องบินจึงหยุดรออยู่ที่สนามบิน Mendoza ประเทศ อาร์เจนติน่า(Argentina) ในช่วงเวลากลางคืน แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้นอากาศกับยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น กัปตันเลือกบินในระยะต่ำ เพื่อหลบเมฆหนาที่ก่อตัวอยู่ในระดับสูง บนเทือกเขาแอนเดส เนื่องจากอันตรายมากที่จะบินผ่าไปในเมฆหนา ด้วยเหตุเมฆไม่ได้ยกตัวขึ้นสูง แต่กับปกคลุมยอดเขาจนมิดหมด ประกอบกับเครื่องวัดภายในเครื่องบินที่ผิดพลาด ทำให้กัปตันเกิดความเข้าใจผิดจึังบังคับเครื่องบินสู่พื้นดิน (ศัทพ์ทางการบินเรียกว่า Controlled Flight into Terrain ) จากระดับความสูง 12,000 ฟุต เป็นเหตุให้เครื่องบินตก มีเหตุประหลาดก่อนเครื่องบินตก เครื่งนำร่องเกิดดับไป เป็นเหตุให้ตำแหน่งเครื่องบินตก คลาดเคลื่อนไปทำให้การช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ในเวลาต่อมาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

เส้นทางการบินของเที่ยวบิน 571 แนวเส้นปะคือเส้นทางการบินที่ถูกต้อง แต่เครื่งบินกับหักเลี้ยวพุ่งเข้าขนภูเขา
 
ทันทีที่เครื่องบินตก มีผู้เสียชีวิตทันที 12 ศพ หายสาบสูญไป 5 คน รวมถึงนักบินในห้องควบคุมทั้งหมด ในรุ่งขึ้นของเช้าวันต่อมามีผู้เสียชีวิตอีก 5 ศพ เนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัส ทำให้เหลือผู้รอดชีวิต 28 คน ที่กำลังเฝ้ารอความช่วยเหลือ ผู้รอดชีวิตทั้งหมดมั่นใจว่า หน่วยช่วยเหลือจะมาถึง อีกภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่เกินวัน แต่พวกเขาเข้าใจผิด ( ความช่วยเหลือจะไม่มีวันเดินทางมาถึงเขาเลย หากพวกเข้ายอมแพ้ และขอมืองอเท้า อยู่เฉยๆ ) เมื่อพูดถึงทีมช่วยเหลือ พวกเขาไม่ทราบตำแหน่งตกของเครื่องที่แน่นอน ซ้ำร้ายตัวเครื่องบิน ที่ พ่นด้วยสีขาว ทำให้กลืนหายไปในหิมะ เมื่อค้นหาจากเครื่องบิน ภาระกิจค้นหา อย่างเป็นทางถูกยกเลิกปฏิบัติภาระกิจเมื่อผ่านไป 8 วัน ในวันเดียวกันที่ภาระกิจค้นหาหยุด ผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินตก ก็เสียชีวิตอีก 1 ศพ ทำให้เหลือผู้รอดชีวิตเพียง 27 คน ภายในซากเครื่องบิน ผู้รอดชีวิต(Roy Harley)ค้นพบ เครื่งส่งวิทยุขนาดเล็ก แต่สิ่งที่เขาได้ยินเสียงจากวิทยุยิ่งทำลายกำลังใจของพวกเขา ลงอย่างมากเมื่อได้ยินข้อความเกี่ยว การยกเลิกภาระกิจค้นหา พวกเขา ส่วนน้ำดื่ม นาย Fito คิดวิธีใช้แผ่นเหล็กจากที่นั่งบนเครื่องบิน มาตากแดด โดยวางหิมะไว้ด้านบนเพื่อให้หิมะ ละลายเป็นน้ำ และรองไว้ด้วยขวดไวท์ สิ่งที่ใช้ในการประทังชีวิตของพวกเขา คือ ช็อกโกแลทแท่ง ขนนกรุบกรอบ และไวท์ ที่ใช้เสริท์ในเครื่งบินแต่อาหารนั้นมีน้อยเสียเหลือเกิน ไม่นานอาหารก็หมดลง และบนภูเขาหิมะก็ไม่มี แม้แต่พืช หรือ สัตว์ ที่พอจะนำมาใช้เป็นอาหาร พวกเขาจำเป็นต้องกินทุกอย่างที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังจากกระเป๋า เบาะที่นั่ง ทุกสิ่งที่พอจะฉีกหรือกลืนลงคอได้ จนไม่มีอะไรเหลือพอจะกินได้อีกแล้ว ความหิวโหยคุกคลามผู้รอดชีวิตอย่างรุนแรง จนจุดเปลี่ยนได้เกิดขึ้นเมื่อนาย Piers Paul ได้กล่าวถึง เหตุการในพระคัมภีรย์ ในเหตุการณ์อาหารมื้อสุดท้าย ( The Last Supper ) เมื่อพระเยซูทรงยื่นขนนปังให้แก่ สาวก และกล่าวว่า "(ขนนปัง)นี้คือร่างกายของเรา , (และไวท์) นี้คือเลือดของเรา" "This is my body", and wine, saying, "This is my blood" เพื่อปลอบประโลมจิตใจการกระทำของพวกเขาต่อไปนี้ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ก่อนที่จะกิน ศพ ผู้เสียชีวิต เพื่อ ประทังชีวิตพวกเขา ในวันที่ 29 ตุลาคม เกิดเหตุการณ์หิมะถล่ม ฝังร่างผู้รอดชีวิตไปอีก 8 ศพที่ใช้ซากเครื่องบินเป็นที่หลับนอน ในวันที่ 12 ธันวาคม 3 ใน 16 ของผู้ที่ยังรอดชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วย Parrado, Canessa และ Vizintín ได้ตัดสิ้นใจจะปีนฝ่าภูเขาหิมะ Parrado สามวันพวกเขาขึ้นถึงยอดเขา และตัดสินใจย้อนกลับไปที่ซากเครื่งบินเพื่อส่ง Vizintín Parrado, Canessa ออกเดินทางเพื่อค้นหาความช่วยเหลืออีกครั้ง และได้พบกับคนเลี้ยงม้าชาวชิลี ในวันที่ 21 ธันวาคม

สภาพ Parrado, Canessa ที่ได้รับการช่วยเหลือจากคนเลี้ยงม้า
 
วันที่ 22 ธันวาคม ผู้รอดชีวิตอีก 6 คนที่ซากเครื่งบินได้รับการช่วยเหลือโดย เครื่องเฮลิคอปเตอร์

ภาพแรกที่เฮลิปคอปเตอร์ ช่วยเหลือภ่ายได้หลังจากเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ
 
วันที่ 23 ธันวาคม ผู้รอดชีวิตอีก 8 คนที่เหลือได้รับการช่วยชีวิต รวมมีผู้รอดชีวิตทั้งหมด 16 คน จาก 45 คน รวมช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหิมะ ต้องแม้กระทั้งซากศพ ของผู้เสียชีวิต รวมกว่า 72 วัน ปฏิหารย์ 1 เดียวในเหตุการณ์เครื่องบินตกคือมีผู้รอดชีวิต 28 คน ส่วนที่เหลือรอดมา 16 ชีวิตนั้นเกิดจาก ความไม่ยอมแพ้ ถึงจะต้องกินเนื้อ ดื่มเลือดจากศพ การไม่ยอมรอความตาย แต่กับเลือกจะออกไปตายเพื่อค้นโอกาสที่จะอยู่

 

ข้อมูลอ้างอิง  จงอย่ายอมแพ้ที่จะมีชีวิต แม้จะต้อง กินเนื้อ ดื่มเลือด จากศพ

http://en.wikipedia.org/wiki/Uruguayan_Air_Force_Flight_571 http://www.wired.com/thisdayintech/2009/10/1013cannibalism-plane-crash-andes/
Credit: http://wowboom.blogspot.com/2010/01/blog-post.html
8 ม.ค. 53 เวลา 01:27 6,573 42 380
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...