ระทึก!ไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ พาร์ค อเวนิว โคม่า 2 ราย
วันนี้(8 มี.ค.) ร.ต.อ.ธีร์ทัศน์ พงษ์โรจน์ พงส.( สบ 1 ) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โรงแรมแกรนด์ พาร์ค อเวนิว โรงแรมหรูภายในซอยสุขุมวิท 22 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา รีบประสานรถน้ำดับเพลิง 10 คัน รถกระเช้า 2 คัน จากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยกทม. ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก. สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.กิตติวัชร์ ภูมิธเนศ สว.สส. แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา และกองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรูสูง 15 ชั้น อยู่ในซอยแคบเจ้าหน้าที่ต้องลากสายเข้าไปฉีดน้ำด้วยความทุลักทุเล บรรดาแขกที่มาพัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างวิ่งหนีตายขึ้นไปอยู่ชั้น 15 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าอย่างอลหม่าน เบื้องต้นพบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 4 ของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ และลุกลามขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงแบ่งชุดการทำงานออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งรีบฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลา 20 นาที จึงควบคุมเปลวเพลิงเอาไว้ได้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนำรถกระเช้า ขึ้นไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บนโรมแรม ก่อนสามารถลำเลียงผู้ที่ติดอยู่บนชั้น 15 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติลงมาได้อย่างปลอดภัย มีผู้สำลักควัน 3 คน ขณะนี้นำส่ง รพ.ใกล้เคียงทำการรักษาเป็นการด่วน
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 4 ของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ แต่ในช่วงเกิดเหตุไม่มีการใช้งานแต่อย่างใด ระหว่างนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนจะมีควันไฟพวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นควันไฟจึงลุกลามไปยังชั้นต่างๆของโรงแรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทุบกระจกห้องบางส่วน เพื่อระบายควันไฟ ป้องกันผู้ที่ติดอยู่ภายในสำลักควัน ทั้งนี้ภายหลังเพลิงสงบลง ได้ทำการตรวจสอบขั้นต้นพบว่า มีชายชาวต่างชาติ 1 คน และหญิงชาวต่างชาติ 1 คน รวม 2 คน อาการโคม่า อยู่ที่บริเวณชั้น 7 ของโรงแรม อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของทั้งสอง
ต่อมา พญ.มาลินี สุขเวชชบรกุล รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณชั้น 4 ของโรงแรม ก่อนกล่าวภายหลังการตรวจสอบว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น 4 จากการตรวจสอบทั้งหมดไม่พบว่ามีอุปกรณ์เตาแก๊ส มีเพียงระบบไฟฟ้า จึงคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จนเพลิงลุกไหม้มาติดพรมห้อง ทำให้เกิดกลุ่มควันจำนวนมาก จึงส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่พักในโรงแรม 135 ห้อง ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ 24 คน เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ในจำนวนนี้เจ็บสาหัส 2 คน เกิดจากการสำลักควันไฟจนหมดสติ ทำให้ระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว ขณะนี้นำส่ง รพ.กล้วยน้ำไท โดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ต้องรอให้แพทย์ยืนยันอีกครั้ง ว่าเสียชีวิตหรือไม่
พญ.มาลินี กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นควรให้มีการปิดห้ามใช้และเข้า-ออกอาคารทันที โดยคาดว่าผู้อำนวยการเขตเจ้าของพื้นที่ จะออกประกาศในวันที่ 9 มี.ค. นี้ พร้อมทั้งจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเขต สำนักการโยธา กทม. กองพิสูจน์หลักฐาน และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารว่าปลอดภัยหรือไม่ ในวันเดียวกัน หากมีปัญหาก็ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงด้านโครงสร้าง ทั้งนี้ผู้จัดการอาคารชี้แจงว่า เป็นอาคารใหม่เพิ่งเปิดใช้งาน 5 ปี ก่อสร้างหลังปี 2535 จึงระบบป้องกันเพลิงเบื้องต้นคือระบบสปริงเกลอร์ แตกต่างจากอาคารฟิโก้ ที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ไปก่อนหน้านี้ แต่ต้องให้ทางสำนักงานเขต เร่งตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในโรมแรมดังกล่าว ขณะนี้ทางโรงแรมได้ทยอยส่งไปพักที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนปาร์ค ซึ่งอยู่ใกล้กันแล้ว เนื่องจากโรงแรมที่เพลิงไหม้ ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป