ในสังคมออนไลน์ของอเมริกา ดินแดนแห่งความเสมอภาคทางเสรีภาพ มีภาพที่ปรากฏบนเฟซบุคและสร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะมีคนโพสต์ภาพของชายหนุ่มในชุดทหารเรือที่กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับชายหนุ่มอีกคน โดยไม่มีทีท่าว่าจะยี่หระกับสานตาของคนรอบข้าง
และแน่นอนว่าบทจูบระหว่างหนุ่มทั้งสองนี้ ต้องแสดงออกต่อหน้าธารกำนัลและนานพอที่เพื่อนคนหนึ่งจะถ่ายภาพนี้ไว้ได้ และนำไปลงในเฟซบุค ซึ่งปรากฏว่ามีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากโดยหลายคนให้ความเห็นว่าเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกมากที่สุดต่อผู้ที่ได้ชมภาพนี้ ขณะที่หลายคนยกให้เป็น"ภาพประวัติศาสตร์"ทีเดียว
กระแสของภาพของชายจูบชายภาพนี้ถูกเผยแพร่ส่งต่อไปยังโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว จนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม KHON 2 ถึงกับต้องตามไปขอสัมภาษณ์ จนกลายเป็นข่าวที่ผู้ให้ความสนใจพากันวิพากษ์ถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์
ชายวัยหนุ่มทั้งคู่ซึ่งเป็นเจ้าของภาพนี้ ออกมาเปิดเผยภายหลังว่าเขาทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากแต่ได้รู้จักกันผ่านสื่อออนไลน์โดย เห็นหน้ากันและพูดคุยกันผ่านแคมฟอกซ์มานานถึง4 ปีแล้ว โดยที่ทั้งคู่ต่างอยู่ห่างกันสุดหล้าฟ้าเขียว เพราะฝ่ายทหารเรือหนุ่มคือ แบรนดัน มอร์แกน เป็นจ่าทหารเรือของกองทัพอเมริกันอยู่ระหว่างประจำการในประเทศอัฟกานิสถาน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือพลเรือนหนุ่ม ดาลัน เวลส์ เป็นศิลปินจาก วินด์วาร์ด โออาฮู
ในวันเกิดเหตุขณะที่หนุ่มพลเรือนไปรอรับคู่รักผ่านสื่อ หรือน่าจะเรียกว่า e-lover ที่ห้องรับทหารที่กลับสู่มาตุภูมิ แล้ววินาทีแรกที่ทั้งคู่ได้มีโอกาสถูกเนื้อจับต้อง "ตัวเป็นๆ" ของอีกฝ่ายนั้น สร้างความปลาบปลื้มหัวใจให้กับเขาทั้งคู่ จนอดไม่ไหวที่ทหารเรือหนุ่มจะกระโดดเข้าใส่วงแขนของคู่รักอย่างดีใจสุดชีวิต
นาทีนั้นทั้งคู่กอดกันราวกับจะเป็นเนื้อเดียว และจุมพิตกันอย่างดูดดื่มโดยไม่คำนึงถึงคนรอบข้างแม้แต่น้อย และนั่นคือความรู้สึกที่เบ่งบานที่สุดของคู่รักเพศเดียวกันที่มีมายาวนานถึง 4 ปี แถมยังเป็นรักข้ามขอบฟ้าอีกด้วย
แบรนดัน มอร์แกน ตอบคำถามที่หลายคนใคร่รู้ ว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรในวินาทีแรกของการได้จับต้องตัวของอีกฝ่าย "ผมพูดไม่ออก บอกไม่ถูกรู้แต่ว่านิ้วมือของเขาเกร็งไปหมด ผมเองก็ขาสั่น และเมื่อได้จูบกันเพียงครั้งแรก ก็บอกได้ทันทีว่าเรารู้สึกต่อกันอย่างไร"
และที่เขารู้สึกตื้นตันมากก็คือเมื่อรู้ว่ามีคนนับหมื่นรายที่โพสต์แสดงความคิดเห็นใน เชิงบวกกับเขา โดยส่วนใหญ่ล้วนแสดงความยินดีที่ เขาได้พบกับ"คู่รัก"ที่เฝ้ารอคอยการพบกันมานาน และที่สำคัญคือบิดาและมารดาของเขาล้วนดีใจที่เขาได้พบกับความรักที่เขารอคอย โดยที่บุพการีทั้งสองไม่ได้แสดงอาการต่อต้านหรือรู้สึกอับอายแม้แต่น้อย
และในบ่ายวันเดียวกัน เมื่อออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาก็ได้การทักทายจากผู้คนที่มาซื้อของในเวลาเดียวกัน กล่าวว่า"คุณชักจะดังใหญ่แล้วรู้ไหม" ส่วนบางคนก็เข้ามากล่าวยกย่องเขาว่า "คุณคือฮีโร่สำหรับผม เพราะคุณคือคนที่แผ้วถางทางให้คนอีกหลายคน" ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าเจ้าของประโยคนี้ ย่อมเป็นเกย์ที่รอคอยการยอมรับจากทางบ้าน หรือสังคมใกล้ตัวอย่างไม่ต้องสงสัย
แน่นอนว่าเมื่อมีผู้เห็นด้วย ก็ย่อมมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ยอมรับสัมพันธภาพของเพศเดียวกันไม่ได้ มีผู้ที่อยู่ในวัยเดียวกับบุพการีของ แบรนดัน บางคนถึงกับโทรศัพท์ไปที่บ้านของเขา และกล่าวตำหนิตรงๆว่า"เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ทำตัวได้ผิดขนาดนี้"
แต่ แบรนดัน เองกลับไม่รู้สึกใดๆต่อปฏิกิริยาที่ไม่เห็นด้วย เขากล่าวว่า"ผมมีความสุขที่สุด ที่ผมไม่ต้องอยู่ในความหวาดระแวงอีกต่อไป นี่คือสิ่งที่ผมรอคอยมานาน"
ส่วน ดาลัน เวลส์ คู่รักหนุ่มของเขาเล่าให้ฟังว่า เขาเกือบจะไปรับแบรนดันไม่ทัน เพราะมัวแต่ซื้อของอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และโชคดีมากที่เขาไปถึงสนามบินเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่ประตูเครื่องจะเปิดออก เขากล่าวว่าที่จริงแล้ว ตัวของเขาเป็นคนที่ขี้อายและค่อนข้างเก็บตัว แต่เขาก็ดีใจหากเรื่องของเขาทั้งสองคนจะเป็นอุทาหรณ์ให้ กับคนอื่นๆ ที่จะเอาเป็นเยี่ยงอย่างว่า เขาได้รับใช้ชาติอย่างชายชาติทหารและได้เสร็จสิ้นภาระกิจอย่างสมบูรณ์ และจึงกลับมาคิดถึงเรื่องส่วนตัว
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทั้งคู่สามารถแสดงตนต่อสาธารณชนได้อย่างเปิดเผย ก็เพราะกฎระเบียบการต่อต้านรักร่วมเพศของกองทัพอเมริกา ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อไม่นานมานี้
ทหารหญิงและคู่เลสเบี้ยน
ทหารหญิงเลสเบี้ยนสหรัฐจูบปากกัน หลังฝ่ายหนึ่งกลับคืนสู่มาตุภูมิด้วย โดยฝ่ายหนึ่งกล่าวว่า เธอเชื่อว่า เหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน โดยเกย์และเลสเบี้ยนในกองทัพสามารถแสดงออกถึงความรักต่อกันได้อย่างเปิดเผยต่อสังคมอเมริกันแล้ว
ขอบคุณที่มา...
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000027129
http://news.voicetv.co.th/global/32342.html
http://www.youtube.com/watch?v=x_tmig8PxAw&feature=player_embedded