ทำไม “อวัยวะเพศชาย” ถึงดำ
คุณ ผู้ชายหลายคนคงเคยสงสัยกันใช่มั้ยว่า “ทำไม..ตัวเราผิวก็ไม่ได้ดำ แต่ทำไม๊ ทำไม“จู๋”ถึงได้มีสีคล้ำ จนเกือบดำไปได้ ทั้งๆที่จู๋สุดหวงของเราก็ไม่เค้ยยย..ไม่เคย จะโดนแดดสักหน่อย”
ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า ผิวหนังที่ห่อหุ้มอวัยวะเพศชายรวมทั้งถุงอันฑะนั้น เป็นผิวหนังที่แตกต่างจากผิวหนังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ผิวหนังบริเวณนี้จะมีความบาง เป็นผิวหนังที่ปราศจากไขมัน และถูกสร้างมาให้มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับในช่วงการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ชายเมื่อมีความรู้สึกทางเพศเกิดขึ้น สังเกตได้จากในบางครั้งเมื่ออากาศเย็น ถุงอัณฑะจะหดตัวตึงกว่าในเวลาอากาศร้อน และมีสีคล้ำกว่าผิวหนังส่วนอื่น รวมถึงขนาดของอัณฑะทั้งสองข้างอาจไม่เท่ากันอีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อคุณผู้ชายเริ่มใช้อวัยวะเพศในการตอบสนองความต้องการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวเอง หรือ การร่วมเพศ กิจกรรม เหล่านี้จะทำให้เกิดการเสียดสีของผิวหนังบริเวณอวัยวะส่วนนี้ ซึ่งมีผลทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะส่วนนี้คล้ำขึ้นบ้าง ถือเป็นการคล้ำโดยปกติตามธรรมชาติ
คุณผู้ชายทั้งหลายคงเคยเห็นโฆษณาครีมหรือโลชั่นทาผิวให้ขาวกระจ่างใส...อม ชมพู แล้วกำลังคิดว่าน่าจะซื้อมาลองทาบริเวณน้องชายสุดรักสุดหวง เผื่อจะขาวขึ้น ขอบอกไว้เลยนะคะว่า ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง เพราะในครีมหรือโลชั่นอาจมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่ออวัยวะเพศหรือมีอาการแพ้ได้
ไม่ ว่าจู๋จะคล้ำไปนิด หรือจะดำไปหน่อย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ได้ต่อสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด ทางที่ดีควรหันมาดูแล “จู๋” ให้สะอาดเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจะดีกว่านะคะ
วิธีทำความสะอาด “จู๋”
1. ทำความสะอาดทุกวัน เช้าและเย็นด้วยน้ำสะอาดร่วมด้วยสบู่อ่อนแล้วซับให้แห้งถือเป็นการเพียงพอแล้ว
2. ควรทำความสะอาดหนังหุ้มปลายองคชาต ด้วย การดึงหนังหุ้มองคชาตให้ร่นขึ้นมาจนถึงคอคอด เพื่อล้างเหงื่อไคลและคราบน้ำปัสสาวะที่หมักหมมอยู่ อันเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศชายและมะเร็งปากมดลูกใน ผู้หญิงได้ หากมีเพศสัมพันธ์กัน
3. การขลิบอวัยวะเพศ คือ การตัดหนังหุ้มปลายองคชาตออก เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเจ็บเมื่อองคชาตแข็งตัว สำหรับผู้ที่มีหนังหุ้มปลายองคชาตไม่เปิดจะช่วยในเรื่องการทำความสะอาด อวัยวะเพศได้ดีขึ้นด้วย
ที่มา ... talkaboutsex.thaihealth.or.th
Credit:
ที่นี่ดอดคอม