ชายร่างเล็กความสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตร มือข้างซ้ายใช้การไม่ได้เนื่องจากอุบัติเหตุในวัยเด็กขณะวัยเพียงขวบครึ่ง หลังจากมือซ้ายเกิดตกลงไปในพื้นเตาแบบโบราณที่อยู่กลางบ้านจนสูญเสียนิ้วมือ ไป คือคนเดียวกับที่อยู่บนธนบัตร 1,000 เยนของญี่ปุ่น และเป็นนักวิจัยที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ดร.ฮิเดโยะ โนกุชิ
ทั้งที่เกิดในครอบครัวชาวนาแสนยากจนในจังหวัดฟุกุชิมะเมื่อปี ค.ศ. 1876 โดยเป็นลูกชายคนโตของซะโยซุเกะและชิกะ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า เซซากุ โนกุชิ แต่เพราะมือซ้ายที่ไม่อาจใช้การได้เขาจึงไม่สามารถช่วยงานในฐานะลูกชาวนา พ่อกับแม่จึงตัดสินใจส่งเข้าโรงเรียนประถมแทน
ความมุ่งมั่นในการศึกษาเล่าเรียนโดยไม่คิดว่าตนเองมีปมด้อยทำให้เซซุเกะใน วันนั้น ตัดสินใจที่จะไปโตเกียวเพื่อสอบเข้าเรียนทางด้านการแพทย์ด้วยวัยเพียง 19 ปี
“ผมจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีก จนกว่าจะประสบความสำเร็จ”
หลังจากสอบเข้าเรียนด้านการแพทย์ได้ในวัยเพียง 20 ปี เส้นทางแห่งความมุมานะของ ดร.โนกุชิยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น ในปี ค.ศ. 1900 ขณะอายุ 24 ปี ดร.โนกุชิก็เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังสหรัฐอเมริกาพร้อมกับชื่อใหม่ ฮิเดโยะ โนกุชิ โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ก่อนจะเข้าร่วมทีมศูนย์วิจัยการแพทย์ร็อกกี้เฟลเลอร์ ซึ่งที่นี่ดร.โนกุชิได้รับเกียรติให้เป็นหัวหน้าทีมวิจัยทางด้านแบคทีเรีย
ดร.โนกุชิไม่เคยกลับไปยังบ้านเกิดเลยสักครั้งเดียวจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1915 นางชิกะ ผู้เป็นมารดาได้พยายามเขียนจดหมายมาหาลูกชายทั้งที่เป็นคนไม่รู้หนังสือ ข้อความซ้ำมาซ้ำไปที่บ่งบอกถึงความคิดถึงลูกชาย และขอให้กลับบ้านเกิดทำให้ ดร.โนกุชิตัดสินใจเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวนับจาก นั้น
เพราะหลังกลับไปมุ่งมั่นศึกษาวิจัยเรื่องแบคทีเรียอีกครั้ง ในปี ค.ศ.1928 ขณะกำลังวิจัยเกี่ยวกับโรคไข้เหลืองในแอฟริกาตะวันตก หรือประเทศกานาในปัจจุบัน ดร.โนกุชิได้เกิดติดเชื้อและเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 51 ปีเท่านั้น ร่างของเขาถูกนำกลับมายังศูนย์วิจัยร็อกกี้เฟลเลอร์ในนิวยอร์ก เพื่อให้แมรี่ ภรรยาได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
แม้จะอายุสั้นเพียง 51 ปี แต่ตลอดช่วงอายุนั้น ดร.โนกุชิทำประโยชน์ให้กับวงการแพทย์มากมาย ในปี ค.ศ. 1913 เขาเดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อบรรยายเกี่ยวกับโรคติดต่อ เดินทางไปวิจัยในอเมริกากลางและใต้ ก่อนจะข้ามไปยังแอฟริกา
11 ปีหลังการเสียชีวิต อาคารที่จัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของเขาก็เสร็จสมบูรณ์ ณ สถานที่ที่ ดร.โนกุชิเกิด โดยมีการรวบรวมประวัติและผลงานตลอดทั้งชีวิตของชายร่างเล็กผู้มีคุณแก่ชาว โลกผู้นี้ไว้ รวมทั้งหุ่นยนต์เสมือนจริงของ ดร.โนกุชิที่คอยตอบคำถามของผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยือน
ถาม-ตอบกับ ดร.โนกุชิ
• ทำไมคุณถึงอยากเป็นนักวิจัยแบคทีเรียวิทยา
หลังจาก ดร.คานาเอะ วะตะนาเบะรักษามือซ้ายให้ผมจนดีขึ้น ผมก็คิดว่าจะอุทิศตนให้กับการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตคนอื่น ๆ บ้าง
• ช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุดของคุณ
คืออะไร
ตอนที่ผมค้นพบเชื้อแบคทีเรียของโรคซิฟิลิส ช่วงนั้นผมมีความสุขมาก และการวิจัยครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับรางวัลโนเบล ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้รับรางวัลสำคัญของโลกครั้งนี้
•แล้วคุณรู้สึกอย่างไรที่ภาพของคุณอยู่บนธนบัตร 1,000 เยน
ผมรู้สึกเสียใจนิดหน่อย เพราะความจริงผมน่าจะอยู่บนธนบัตร 10,000 เยนมากกว่านะครับ ล้อเล่นน่ะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะคงจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนได้รับเกียรติเช่นนี้อีก และแบงก์ 1,000 เยนก็เป็นแบงก์ที่ผู้คนใช้มากที่สุดด้วย
•แมรี่ ภรรยาของคุณเป็นคนอย่างไร
คุณหมายถึงแมซี่ คุณได้เห็นภาพเหมือนของเธอที่ผมวาดไว้แล้วยังล่ะ เธอสวยไหม แมซี่จะเรียกผมว่าฮิเดอิ ไม่เอาดีกว่าผมรู้สึกเขินที่จะพูดถึงเธอน่ะ
•สถานที่ใดที่คุณชอบมากที่สุดหลังจากได้เดินทางไปทั่วโลก
มันจะต้องเป็นบ้านเกิดของผมสิครับ ที่อยู่ท่ามกลางภูเขาบันไดและทะเลสาบอินะวะชิโร ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาผมฝันถึงภาพอันงดงามของบ้านเกิดอยู่เสมอ เพราะที่นี่คือที่ที่ผมเคยเรียน เคยเล่นตลอดช่วงวัยเด็ก.
เจอร์นีแมน