การศึกษาครั้งนี้จัดทำขึ้นโดย Baylor College of Medicine ในฮูสตัน ผลการวิจัยไม่เพียงแต่พบว่าเด็กที่เล่น active games จะไม่ชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากๆ แถมระดับการทำกิจกรรมเหล่านั้นยังเท่าๆกับเด็กที่ชอบเล่นเกมแบบที่ไม่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายด้วย

ในการศึกษา ทีมวิจัยได้แบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะให้เด็กเล่่นเกมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่วนอีกกลุ่มจะให้เล่นเกมที่นั่งเล่นเฉยๆอย่างเกม Super Mario Galaxy นอกจากนี้ยังมีการจูงใจเด็กๆเพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่แม่นยำ ทางทีมวิจัยจึงบอกกับเด็กๆว่าถ้าพวกเค้าทำตามคำแนะนำก่อนการสำรวจได้ถูกต้อง ก็จะได้รับเครื่องเล่นเกม Wii กลับไป กิจกรรมต่างๆที่เด็กๆทั้งสองกลุ่มทำจะถูกติดตามด้วยเข็มขัดที่พวกเค้าต้องใส่อยู่ตลอดการวิจัย

ผลการศึกษาพบว่า เด็กกลุ่มที่เล่น active game จะทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความกระฉับกระเฉงเฉลี่ย 25-28 นาทีต่อวัน ส่วนเด็กอีกกลุ่มนึงจะใช้เวลา 26-29 นาทีต่อวัน นั่นหมายความว่าเด็กที่นั่งเล่นเกมเฉยๆจะทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมากกว่า

Tom Baranowski หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า “เราคาดหวังว่าการเล่นเกมแบบเคลื่อนไหวจะช่วยทำให้เด็กๆเพิ่มการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกาย แต่เราก็ต้องช็อคกับผลที่ออกมาซึ่งมันแทบจะไม่มีความแตกต่างเลย นัยยะของการศึกษาครั้งนี้เป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก แต่สาเหตุนึงที่อาจเป็นไปได้ก็คือเด็กที่เล่นเกมที่ต้องใช้กำลังเป็นเวลาสั้นๆ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปตลอดทั้งวัน ในขณะที่เด็กกลุ่มที่นั่งเล่นเกมเฉยๆรู้สึกที่ต้องการเผาผลาญพลังงานด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้นอยู่ และงานวิจัยชิ้นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการเล่นเกมเคลื่อนไหวอาจจะไม่ได้เป็นทางออก กระตุ้นให้เด็กออกกำลังมากขึ้นอย่างที่หลายคนคิด