"ซูซูกิ"คลอดแล้ว!!"อีโคคาร์สวิฟท์" 1.2ลิตร4สูบ-ดีลเลอร์ป่วนลูกค้าแห่จองล้นโชว์รูม
ดีลเลอร์ "ซูซูกิ" คึกรับจองคิวอีโคคาร์กันยาว หลังบริษัทแม่เตรียมเปิดตัว "ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่" ดีเดย์ 21 มี.ค.นี้ หลังเปิดให้สื่อมวลชนได้สัมผัสก่อนปลายเดือนนี้ เชื่อดันยอดขายทั้งปีขายทะลุ 1.5 หมื่นคัน เผยกำลังผลิต ช่วงแรกผลผลิตมีรองรับแค่ตลาดในประเทศครึ่งปีหลังเล็งส่งออกตลาดอาเซียน
P {
MARGIN: 0px
}
แหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากบริษัทได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาท ในโครงการโปรดักต์ แชมเปี้ยนตัวที่ 2 หรืออีโคคาร์ของรัฐบาลไทย เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ระยอง ด้วยกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี และตั้งเป้าผลิตขายในประเทศ 50% และส่งออก 50%
ตอนนี้บริษัทพร้อมจะเปิดตัวอีโคคาร์ภายใต้ชื่อซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ที่จะมาปลุกเร้าทุกสัมผัส ทั้งดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่โรงแรมดุสิตธานี และจะมีรถยนต์โชว์พร้อมกันทุกโชว์รูมทั่วประเทศไทยในวันที่ 22 มีนาคม 2555
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าจะมีการเปิดตัว "สวิฟท์ ใหม่" อย่างเป็นทางการนั้น บริษัทได้ตัดสินใจจัด ทริปเพื่อบรรดาสื่อมวลชนได้มีโอกาสทดสอบและสัมผัสอีโคคาร์ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ เส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี-กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การควบคุมการขับขี่ การทรงตัว และมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ นายทาคายูคิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซูซูกิเชื่อว่าความต้องการและยอดขายอีโคคาร์น่าจะอยู่ในระดับสูงถึง 100,000 คันอย่างแน่นอน เนื่องจากมี 2 ค่ายรถยนต์ที่ส่งรถทำตลาดประกอบกับอีโคคาร์ที่มีอยู่ในตลาดก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประธานซูซูกิกล่าวว่า กลุ่มผู้ที่ใช้รถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาเลือกใช้อีโคคาร์เพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นคุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่า โดยปีนี้ซูซูกิจะเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ทั้งสิ้น 10,000 คัน ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศไทยเป็นหลัก และมีแผนผลิตเพื่อการส่งออกบางส่วนไปยังประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก โดยคาดว่าจะเริ่มส่งออกได้ราวช่วงเดือนกรกฎาคม
"เรายังไม่มีแผนส่งอีโคคาร์กลับไปขายที่ญี่ปุ่นนั้น เพราะอยากทำตลาดในประเทศไทยให้ดีที่สุดก่อน" นายทาคายูคิกล่าว
สำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมามานั้น ทำได้ 9,600 คัน โตขึ้นถึง 165% จาก ปี 2553 ที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 5,400 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้ามียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 คัน โดยยอดขายหลัก ๆ จะมาจากอีโคคาร์สูงถึง 66% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนยอดขายที่เหลือมาจากรถรุ่นต่าง ๆ ขอบริษัท ทั้งสวิฟท์, เอสเอ็กซ์ 4, แคร์รี่, ฯลฯ
ปัจจุบัน ซูซูกิมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ 37 แห่ง และปีนี้จะมีการเปิดเพิ่มอีก 27 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จครบเป็น 60 แห่งทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ หรือก่อนการเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าให้ความสนใจและสอบถามข้อมูลของซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้บางโชว์รูมได้เปิดให้ลูกค้าจองคิว เพื่อยื่นความจำนงว่าต้องการจองอีโคคาร์สวิฟท์ ใหม่แล้ว โดยเปิดให้ลงชื่อและแจ้งข้อมูล รายละเอียด รวมทั้งความประสงค์ เพื่อรับจองคิวกันมาเป็นระยะ
สำหรับรถยนต์อีโคคาร์อย่างซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่ายคาดว่าจะใกล้เคียงกับคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด
ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ ถือเป็นอีโคคาร์คันที่ 4 ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากนิสสันคลอดมาร์ช ฮอนด้าคลอดบริโอ้ และล่าสุด นิสสันกลับมาคลอดอัลเมร่า แบบซีดาน